15 พฤติกรรม.. ทำร้ายกระดูก รู้แล้วเลิกซะ!
advertisement
กระดูกเป็นอวัยวะที่สำคัญมากๆ ที่ช่วยค้ำจุนโครงสร้างของร่างกาย การเคลื่อนไหว การสะสมแร่ธาตุและการสร้างเซลล์เม็ดเลือด หากเราไม่ดูแลรักษากระดูก ก็เป็นการทำลายกระดูก ทำร้ายร่างกายตัวเอง กระดูกเกิดภาวะเสื่อมก่อนวัยอันควร ก่อให้เกิดโรคกระดูกพรุน กระดูกอ่อน กระดูกผิดรูป กระดูกกดทับเส้น หรือแตกหัก ก่อให้เกิดความเจ็บปวด และก่อปัญหาในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อย และที่น่ากลัวคือกระดูกถูกใช้งานและถูกทำลายทุกวัน ด้วยตัวเราเอง และบางพฤติกรรมคุณเองก็ทำร้ายกระดูกของคุณเองโดยไม่รู้ตัว มาดูพร้อม Kaijeaw.com กันคะ ว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้าง
advertisement
1. การยืนแอ่นพุง หลังค่อม
นอกจากจะทำให้เสียบุคลิกภาพแล้ว ยังไปทำร้ายกระดูกอีกด้วย เพราะพฤติกรรมการยืนแอ่นพุงไปด้านหน้า หรือการยืนหลังค่อมก็จะทำให้กระดูกสันหลังขดงอ ผิดรูปไปได้
>> ควรยืนหลังตรงดีที่สุด ส่งเสริมบุคลิกภาพที่ดีและดีต่อกระดูกด้วย
advertisement
2. การกอดอก
เวลาที่เรากอดอกนั้น สรีระช่วงบน อย่างสะบัก และหัวไหล่ต้องยืดยาว และค้อมไปด้านหน้า แถมคอก็ยังยืดออกเหมือนเต่า ทำให้ปวดหลังได้แบบไม่รู้ตัว อีกทั้งจะทำให้เลือดยังไปเลี้ยงสมองได้ไม่ดี เกิดอาการปวดหัวได้อีกด้วย
>> งดการกอดอกนานๆ กันนะคะ
advertisement
3. การนอนขดตัว นอนตัวเอียง
เวลา 6-8 ชม. ต่อการนอนในหนึ่งคืนนั้น เป็นเวลาที่นานพอสมควร ลักษณะของท่านอนที่ขดตัว หรือนอนตัวเอียงที่ส่งผลกระทบกับกระดูกโดยตรง เนื่องจากการนอนที่ผิดรูปทรงของกระดูกจึงเป็นการทำร้ายกระดูกเป็นเวลานานด้วย
>> ท่านอนที่ดีที่สุด คือการนอนหงาย อย่าลืมเปลี่ยนท่านอนให้ถูกต้องด้วยนะ
[ads]
advertisement
4. สะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว
สาวๆ คนไหนที่มักสะพายกระเป๋าใบใหญ่ หนักๆ บรรจุของเยอะต้องระวังแล้วค่ะ หรือกระเป๋าสัมภาระใดๆ ที่พกพาเวลาเดินทาง ต้องสะพายข้างด้วยไหล่ข้างเดียว ซึ่งทำให้ไหล่ของเราต้องรับน้ำหนักอยู่ข้างเดียว ยิ่งทำบ่อยๆ ทุกวัน ก็จะเป็นการทำลายกระดูกทุกๆ วันด้วย
>> ลองเปลี่ยนกระเป๋าคู่ใจเป็นใบที่เบา เล็ก ใส่เฉพาะของที่จำเป็น หากเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าลองเลือกใช้ชนิดมีล้อลากค่ะ
advertisement
5. นั่งเบาะเก้าอี้แบบครึ่งก้น
การชอบการนั่งเก้าอี้แบบครึ่งก้น ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนัก เพราะฐานในการรับน้ำหนักตัวแคบ กระดูกต้องรับน้ำหนักตัวมาก มีผลต่อกระดูกที่จะค่อยๆ เสื่อมลง
>> ควรนั่งให้เต็มก้นเต็มเบาะค่ะ โดยเลื่อนก้นให้เข้าในสุดจนติดพนักพิง จะทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานน้อยและเกิดการรองรับน้ำหนักตัวได้เต็มที่
advertisement
6. นั่งหลังงอ หลังค่อม
การนั่งหลังงอ หลังค่อมแบบนี้จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดการคั่งของกรดแลคติค ทำให้มีอาการปวดเมื่อย แล้วปัญหากระดูกผิดรูปก็จะตามมา
>> การนั่งหลังตรงเป็นท่านั่งที่ถูกวิธีที่สุด ด้งนั้นลองฝึกฝนให้นั่งหลังตรงจนติดเป็นนิสัยกันด้วยนะคะ
advertisement
7. นั่งกอดเข่า
การนั่งกอดเข่า ทำให้หลังช่วงบน สะบักและหัวไหล่ถูกยืดยาวออก หลังช่วงบนค่อมและงุ้มไปด้านหน้า ทำให้กระดูกคอยื่นไปด้านหน้า มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงแขน อาจทำให้มืออ่อนแรงหรือชาได้ และยังเป็นสาเหตุของการอาการปวดศีรษะ หรืออาจทำให้เป็นไมเกรนเรื้อรังได้
>> ควรนั่งหลังตรงเสมอค่ะ พยายามไม่นั่งกอดเข่ากันด้วยนะคะ
8. หิ้วของหนักด้วยนิ้ว
การใช้นิ้วหิ้วของหนักบ่อย ๆ จะมีผลทำให้มีพังผืดยึดตามข้อนิ้วมือ เส้นเอ็นมีการเสียดสี ยิ่งหิ้วหนักมากๆ จะทำให้รั้งกล้ามเนื้อมัดอื่นๆ และเกี่ยวโยงไปถึงกระดูกคอ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งมากกว่าปกติ มีผลต่อการทรุดของกระดูกและกดทับเส้นประสาทได้
>> งดการใช้นิ้วหิ้วของหนักๆ นะคะ ลองหาตะกร้าหรือรถเข็นมาช่วยใส่ของกันดูค่ะ
advertisement
9. ใส่ส้นสูงเกิน 1 นิ้วครึ่ง
การใส่รองเท้าส้นสูงเกินไป นานเกินไป หรือบ่อยเกินไปก็จะเป็นการทำลายกระดูก โดยทำให้แนวกระดูกสันหลังช่วงล่างแอ่นมากกว่าปกติ ซึ่งจะนำมาสู่อาการปวดหลังและการมีโครงสร้างร่างกายที่ผิด
>> หากไม่จำเป็นจริงๆ ให้ใส่รองเท้าส้นเตี้ย นุ่มๆ แทน สำหรับสาวๆ ออฟฟิศควรเตรียมรองเท้าแตะไว้ที่โต๊ะทำงานด้วย เพื่อเปลี่ยนใส่ในระหว่างวันนั้น
10. ยืนพักขาลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว
การยืนพักขาด้วยการลงน้ำหนักด้วยขาข้างเดียว ทำให้น้ำหนักไปลงที่ขาข้างเดียว จะเป็นผลให้กระดูกเชิงกรานบิดเบี้ยวทำให้กระดูกสันหลังคด
>> ท่ายืนที่ถูกต้องก็คือ ท่ายืนที่ลงน้ำหนักที่สองขาพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความสมดุลของร่างกาย งดการลงน้ำหนักไปที่ขาข้างเดียวหรือทำได้บ้างแต่ไม่ควรนาน
advertisement
11. นั่งไขว่ห้าง
การนั่งไขว่ห้างนั้นเป็นท่านั่งที่จะทำให้น้ำหนักตัวลงที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการกระดูกคดโดยไม่รู้ตัว นี่จึงเป็นการทำลายกระดูกอย่างมาก
>> การนั่งควรให้ตัวตรงและหลังตรงดีที่สุดค่ะ
[yengo]
12. ออกกำลังกายผิดๆ
การออกกำลังกายที่ทำให้ข้อต่อ ข้อเข่าหรือจุดเชื่อมต่อของกระดูกต้องรับน้ำหนัก ในปริมาณมากๆ ยกตัวอย่างเช่น การวิ่ง จะทำให้กระดูกข้อเท้าและเข่า รับน้ำหนักค่อนข้างมากอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของกระดูกได้
>> ควรเลือกออกกำลังชนิดที่ไม่ต้องออกแรงกระแทกต่อกระดูก อย่างเช่น โยคะ เดินเบาๆ ว่ายน้ำ เป็นต้น
advertisement
13. ยกของหนักผิดท่า
การทำงานที่ต้องก้มยกของหนัก ไม่ระมัดระวังจะมีการเลื่อน หรือการแตกของหมอนรองกระดูกสันหลัง เนื้อหมอนรองกระดูกจะเคลื่อนเข้าไปในท่อไขสันหลัง แล้วกดทับรากประสาทสันหลัง ทำให้ปวดร้าวลงขา น่อง เท้าได้
>> การยกของจากพื้นให้ค่อยๆย่อเข่าและสะโพก อย่าก้มตัวพยายามรักษาแนวกระดูกสันหลังส่วนเอวให้ตรง ใช้กำลังข้อเข่าขณะยกของขึ้นอย่าเอียงตัวและให้ของที่ยกอยู่ใกล้ตัวที่สุด
14. น้ำหนัก
น้ำหนักตัว เพราะเป็นตัวแปรสำคัญในการเสื่อมของข้อกระดูก หากน้ำหนักตัวมาก ข้อกระดูกย่อมต้องรับน้ำหนักตัวเอาไว้มากเท่านั้น ทำให้เกิดความผิดปกติ และเสื่อมได้อย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งในคนผอม จะมีมวลกระดูกน้อยและกระดูกพรุนง่ายกว่าคนอ้วน
>> รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอยู่เสมอ
15. พลาดพลั้งหกล้ม บาดเจ็บกระดูก
การทำงานโดยเฉพาะงานที่ต้องยกของแบกของ การทำงานหนักแล้วเกิดการพลาดพลั้งหกล้มหรือบาดเจ็บใดๆ อาจส่งผลต่อกระดูกได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจส่งผลระยะยาวต่อกระดูกให้แตกหักง่าย เคลื่อนง่าย หรือเสื่อมเร็ว
>> หากประสบอุบัติเหตุใดๆ ที่ทำให้บาดเจ็บที่กระดูก แม้เพียงคิดว่าเล็กน้อย อย่าชะล่าใจควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทุกครั้ง
อยากให้กระดูกอยู่ด้วยไปนานๆ อย่างแข็งแรง และเสริมบุคลิกภาพที่ดี คุณควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ส่งเสริมการทำงานของกระดูก เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายกระดูก และอย่าลืมทานอาหารที่ให้แคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกอย่างนม งาดำ ปลาเล็กปลาน้อย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับให้เพียงพอ กันด้วยนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com