ครูเจอผู้ปกครองพาลูกไปซื้อโทรศัพท์เรียนออนไลน์ เลยชี้แนะอีกมุม
advertisement
คุณ กฤษดา เพื่อนอาสาฯ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าเรื่องราวหลังจากที่ได้เห็น ครอบครัวครอบครัวหนึ่งที่ไปซื้อโทรศัพท์ในเซเว่น โดยจาก โพสต์นั้นได้ระบุว่า #เรากำลังเป็นเหยื่อ ผมยืนเลือกซื้อของที่เซเว่น เห็นผู้ปกครองกับเด็กคนนึงเดินมาที่บูธขายโทรศัพท์ ถามพนักงานว่ามีเครื่องราคาไม่เกิน 3,000 ไหม จะให้ลูกไว้เรียนออนไลน์ ผมยืนฟังผู้ปกครองกับพนักงานพูดคุยกันสักพัก จึงเดินไปชำระสินค้าแล้วเดินออกมาที่รถ
advertisement
ผมยืนคิดอยู่พักใหญ่ตาก็มองผ่านกระจกดูพนักงานกับผู้ปกครองตกลงกันอยู่ ผมเลยตัดสินใจเข้าไปอีกครั้ง เดินไปถามผู้ปกครองว่าเด็กเรียนอยู่ที่ไหน ผมแนะนำตัวว่าเป็นครู แล้วอธิบายว่าการเรียนออนไลน์เป็นแค่การทดลองในเดือนมิถุนายน วันที่ 1 ก.ค.ก็เปิดเรียนปกติ เรียนจนครบหลักสูตร การเรียนออนไลน์มีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ก็ได้ หรือหากไม่มีอะไรเลยก็รอเรียนปกติ ผู้ปกครองคนนั้นพยักหน้าเข้าใจ ผมหันไปบอกเด็กว่า ให้พ่อเอาเงิน 3,000 ไปใช้ทำอย่างอื่นดีกว่าไหม เด็กพยักหน้า …ครับครู ผู้ปกครองจึงจูงมือลูกออกจากร้าน โดยมีพนักงานมองผมแบบเคืองๆนิดนึง
#เรากำลังตกเป็นเหยื่อ เหยื่อของความไม่รู้ ศธ. เขต โรงเรียน ผอ. ครู ผู้ปกครองและเด็ก เรากำลังเป็นเหยื่อ โดยมีเด็กได้ผลประโยชน์แอบแฝง แค่เดือนมิถุนาเดือนเดียว ผู้ปกครองต้องลงทุนในสิ่งที่ตัวเองจะได้รับอยู่แล้ว คิดดูในเซเว่น เครื่อง 3,000 จริงๆแล้วมันพ่วงค่าเนตไปอีก 12 เดือนๆละ 4-500 บาท ถามว่ามากไหม ผมตอบเลยว่า "มาก" ไหนจะค่าซ่อมค่าอะไรอีกจิปาถะ มันคุ้มแล้วหรือกับการอดทนอีกแค่เดือนเดียว ดีกว่าจะมารับผิดชอบไปอีก 12 เดือน
advertisement
เรากำลังเป็นเหยื่อครับ ตราบใดที่นโยบายไม่มีความชัดเจนให้ผู้ปกครอง #เราจะกลายเป็นแพะรับบาปในอนาคต #หากท่านใดเห็นด้วยโปรดแชร์ให้ผู้ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป [ads]
จากความคิดเห็น
advertisement
หมดหลายบาทแล้วตอนนี้
advertisement
ในฐานะครูคนหนึ่ง
advertisement
โดยจากโพสต์นี้ก็มีหลายๆท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย พร้อมบอกว่าเรื่องราวนี้ก็สะท้อนให้เราได้เห็นถึงความไม่รู้ ของผู้ปกครองอีกหลายๆคน ว่าการเรียนออนไลน์ตอนนี้เป็นแบบทดลอง ซึ่งหากเปิดเทอมก็จะได้เรียนครบหลักสูตรเช่นเดิม
ขอขอบคุณที่มาจาก : กฤษดา เพื่อนอาสาฯ