สาวโวย ถูก รพ.เอกชน เก็บค่ารักษาสุดแพง

         กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความฮือฮาอย่างมาก สำหรับเรื่องปัญหาการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล ที่แพงเกินจริง โดยล่าสุด ด มีประชาชนมาร้องเรียนผ่านทางผู้สื่อข่าว ว่า เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกรพ.เอกชนเก็บค่ารักษาพยาบาลแพง

         คุณเอ นำเอกสาร ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลและเอกสารการตรวจรักษาของคุณพ่อ มาให้ทีมข่าวตรวจสอบ โดยคุณเอ เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา คุณพ่อมีอาการป่วยมีไข้ อ่อนเพลีย จึงพาไปหาหมอที่รพ.รัฐบาลใกล้บ้าน ซึ่งแพทย์ตรวจเอ็กซเรย์ปอด ตรวจเลือด อย่างละเอียด และพบว่าพ่ออาจจะมีการติดเชื้อจึงให้ยาฆ่าเชื้อแบบกินและแบบฉีด โดยนัดให้มาฉีด3ครั้ง และกลับไปพักที่บ้าน แต่ตอนกลางคืน พ่อเริ่มมีไข้อีก ตนและครอบครัวกังวลเรื่องโควิด เพราะพ่ออายุมากแล้ว จึงเสริช์หาข้อมูล รพ.ใกล้บ้านที่รักษาโควิด จนพบ รพ.เอกชนชื่อดัง 

        จึงพาพ่อมารักษาตอนเวลา 23.00 น. เมื่อมาถึง รพ.พบว่า หมอในห้องฉุกเฉินเป็นหมอคนเดียวกับที่ รพ.รัฐที่พ่อรักษาเมื่อตอนกลางวัน คุณหมอก็จำได้ และบอกว่าอาการไม่ดีขึ้น มีไข้ หมอจึงให้แอดมิด และมีการตรวจเลือด ตรวจปอด ตรวจทางแลปจำนวนมาก การเพาะเชื้อ การตรวจไขสันหลัง และการตรวจระบบภายใน

         และให้ยาฆ่าเชื้อที่แรงขึ้น และน้ำเกลือ คืนนั้นพวกตนก็กลับบ้าน แต่พอเช้าพ่อก็มีอาการดีขึ้นและจะขอกลับไปรักษาตัวที่บ้าน หมอให้ออกในตอนเย็นวันที่ 24 ธันวาคม 2563 เมื่อไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล คุณเอบอกตกใจมาก 1 คืน ค่ารักษาครึ่งแสน 50,533 บาท ตอนนั้นตกใจมาก ตรวจสอบใบเสร็จอย่างละเอียด พบว่า การรักษาพ่อใช้หมอถึง 3 คน เป็นหมอฉุกเฉิน 1 คนหมออายุรกรรม 2 คน ผลการตรวจแลป พบว่ามีการตรวจที่เกินอาการของพ่อ ตรวจแม้กระทั่งไขสันหลัง ทั้งที่คุณหมอก็รู้ว่าพ่อติดเชื้อและให้ยาฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ ยังพบว่าเก็ยค่ารักษาเกิน น้ำเกลือที่ให้ พ่อได้รับน้ำเกลือ 1 ถุง แต่เขียน 2 ถุง เก็ยบค่าเหยือกน้ำในห้อง ค่าถ้วยที่เก็บเสมหะ ซึ่งพ่อไม่ได้ใช้อุปกรณ์นี้ และในห้องก็ไม่มี ทาง รพ.บอกว่าเป็นของใช้ส่วนบุคคลต้องเก็บค่าใช้จ่าย แต่ในเมื่อผู้ป่วยไม่ได้ใช้แต่ก็เก็บ [ads]

         และที่สำคัญ ผลการตรวจแลปการเพาะเชื้อ 5 วัน พบว่า ในแต่ละวันการเพื้อจะต้องมีการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลง แต่รพ.นี้กลับแจ้งผลตรวจแค่วันเดียวและวันที่เหลือก็แค่เปลี่ยนวันที่แต่ทุกอย่างเหมือนเดิม ตนตั้งข้อสังเกตุว่าไม่ได้มีการตรวจจริงหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ไปถามหมอหลายรพ.ก็บอกตรงกันว่าไม่มีรพ.ไหนเพาะเชื้อแบบนี้ หลังจากพ่อออกจากรพ.ก็ไม่ได้ระบุว่าพ่อตนป่วยด้วยโรคอะไร

          ตนมองว่าทั้งการเก็บค่ารักษาพยาบาลที่แพง การวินิจฉัยโรคที่ไม่ละเอียด และการสั่งตรวจทางแลปที่เกินอาการของผู้ป่วยนั้นเป็นการกระทำที่สมควรหรือไม่ จึงมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งตนได้ไปแจ้งร้องเรียนที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้ตรวจสอบรพ.นี้ ส่วนรพ.นี้ ก็ได้ชี้แจงกับตนว่าเป็นมาตราฐานในการให้บริการ และขออภัยกับการเก็บค่าบริการบางอย่างเกินราคาและขอมอบส่วนลดให้กับตน ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่ทางแก้ปัญหาสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารักษาใน รพ.เอกชนชื่อดังแบบนี้

         คุณพ่อมีไข้ค่ะเราไปรักษารพ.รัฐบาลก่อน เจอคุณหมอ และตกกลางคืนไม่ดีขึ้น ค่ารักษาเกินไปมาก เก็บค่าเหยือกน้ำ ในห้องพัก อยากให้ตรวจสอบ รพ.นี้ค่ะ

         ทั้งนี้ทางทีมข่าวสอบถามรายละเอียดเรื่องนี้กับรพ.เอกชนดังกล่าว โดยทางโรงพยาบาลได้ระบุว่ายังไม่สะดวกให้ข้อมูลและทาง รพ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังตรวจสอบแก้ไข และสอบถามกับทีมแพทย์ที่รักษาคนไข้รายนี้

ขอขอบคุณที่มาจาก : เรื่องเล่าเช้านี้