9 สาเหตุ!! ที่ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ!
 
                    advertisement
	     อาการเจ็บไข้ได้ป่วยทุกชนิด ไม่ว่าจะมากจะน้อยเท่าไหร่นั้น ก็มักจะสร้างแต่ปัญหากระทบ ทั้งคุณภาพชีวิต เวลา เงินในกระเป๋า หรือแม้กระทั่งหน้าที่การงาน แล้วคุณเคยสงสัยบ้างมั้ยคะ ทำไมบางคนเจ็บป่วยได้บ่อยๆ เป็นได้หลายโรค แต่กลับกันในบางคนถึงดูแข็งแรงดี ไม่มีเจ็บป่วยไม่ว่าโรคร้ายแรงอะไรจะระบาด นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของคนมีระบบภูมิคุ้มกัน คอยปกป้องอยู่ การที่เราต้องเผชิญกับปัจจัยต่างๆ เชื้อโรคต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคภัย หากว่าภูมิต้านทานร่างกายต่ำ ต่อสู้ไม่ไหว ก็ต้องป่วย เดือดร้อนไปหลายเรื่อง แล้วอะไรบ้างนะที่มีผลต่อความสูง-ต่ำ ของภูมิต้านทาน Kaijeaw.com มีคำตอบค่ะ
advertisement >>> ปัจจัยที่ส่งผลต่อระบบภูมิต้านทาน
>>> ปัจจัยที่ส่งผลต่อระบบภูมิต้านทาน
	1. มลภาวะ 
	    มลภาวะเป็นพิษ ควันสารเคมีจากที่อุตสาหกรรม การเกษตร ควันจากท่อรถยนต์ หรือแม้กระทั่งภายในบ้านเรา ที่เราอยู่อาศัยทุกวัน แล้วก็คิดว่าสะอาดปลอดภัย แต่ความจริงนั้นในอากาศนั้น ก็เต็มไปด้วยเชื้อโรคเล็กๆ มากมายที่มองไม่เห็นที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบๆ ตัว
	2. อาหาร 
	    จริงอยู่ว่าอาหารที่เราทานเข้าไปทุกวันนั้น ก็เพื่อได้รับสารอาหาร พลังงานที่เป็นประโยชน์หล่อเลี้ยงร่างกาย และโดยไม่รู้ตัวหากอาหารนั้นปนเปื้อนสารพิษ เชื้อโรค หรือฮอร์โมนใดๆ รวมถึงภาะขาดโภชนาการที่ดีด้วยเช่นกัน และนี่เป็นสาเหตุหลักเป็นภาระให้ระบบภูมิคุ้มกันออกมาทำงานเช่นกัน
	3. สารเคมี
	    ที่คุณนำสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะการทำสีผม แต่งหน้าด้วยบรรดาเครื่องสำอางสีสันต่างๆ ฉีดน้ำหอมกลิ่นสังเคราะห์ต่างๆ ทาสีเล็บ สเปรย์ฉีดผมฉีดเท้า น้ำยาขัดรองเท้า ขัดเข็มขัด ครีมบำรุงผิว หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่เราใส่ด้วย ทุกอย่างต่างมีส่วนผสมของเคมีสะสมในร่างกายทุกๆ วันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
	4. ฮอร์โมน
	    ฮอร์โมนบางชนิด มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันด้วย เช่น Steroid ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการกินเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว ลดการอักเสบ และลดการสร้างแอนติบอดี ทำให้เกิดโรคบางชนิดได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เช่น โรคสุกใส การติดเชื้อ เป็นต้น[ads]
	5. ผิวหนัง
	    รวมถึงเนื้อเยื่อ เมือกที่บุอวัยวะต่างๆ ทำหน้าที่เหมือนเป็นด่านแรก ที่ร่างกายใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย หากเกิดในผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนัง เป็นแผลพุพองอักเสบ และเยื่อบุอ่อนแอ บาง หรืออาการผิดปกติใดๆ นั้น จะเกิดการติดโรคและแพร่กระจายไปทั่วร่างกายได้ง่ายๆ
	6. อายุ
	    ความแตกต่างในเรื่องอายุก็เป็นความแตกต่างในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันด้วยเช่นกัน อย่างในเด็กเล็กๆ ระบบภูมิคุ้มกันยังเจริญไม่เต็มที่ ผู้สูงอายุระบบภูมิคุ้มกันย่อมเสื่อมถอยตามการใช้งาน ในคนหนุ่มสาวระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้เต็มที่ ยังไม่เสื่อมถอยเท่าผู้สูงอายุ
	7. พันธุกรรม 
	การตอบสนองทางระบบภูมิคุ้มกันอยู่ภายใต้การควบคุมของยีนในกลุ่ม Histocompatibility antigens ซึ่งอาจถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม
	8. ลักษณะทางสรีระบางอย่าง
	เช่น ความเป็นกรดของน้ำย่อยในกะเพาะอาหาร ขนอ่อน (cilia) ที่คอยโบกพัดบริเวณผิวเยื่อบุหลอดลม การไหลของน้ำปัสสาวะ ถ้าสิ่งที่กล่าวมาผิดปกติ เชื้อจุลชีพจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
	9. เชื้อจุลชีพ 
	จุลชีพประจำถิ่นที่อาศัยอยู่ในลำไส้นั้น มีหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลชีพก่อโรค ถ้าเชื้อจุลชีพประจำถิ่นถูกทำลาย เช่นได้รับยาปฎิชีวนะอย่างต่อเนื่อง เชื้อจุลชีพก่อโรคจะเพิ่มจำนวนขึ้นก่อให้เกิดโรคได้
advertisement >>> ระบบภูมิคุ้มกันมีหน้าที่ปกป้องร่างกาย จากบรรดาเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้ามา
>>> ระบบภูมิคุ้มกันมีหน้าที่ปกป้องร่างกาย จากบรรดาเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้ามา 
	     – ป้องกันและทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
	     – กำจัดเซลล์ปกติที่เสื่อมสภาพเช่นเม็ดเลือดที่มีอายุมากออกจากระบบของร่างกาย
	     – คอยจับตาดูเซลล์ต่างๆ ที่จะแปรสภาพผิดไปจากปกติเช่น คอยดักทำลาย
	     – เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง[ads]
advertisement >>> วิธีการเสริมระบบภูมิต้านทานของร่างกาย
>>> วิธีการเสริมระบบภูมิต้านทานของร่างกาย 
	      – การรับประทานอาหาร ให้ครบทุกหมู่และเพียงพอ ควรเลือกประเภทที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย เน้นทานผัก ผลไม้
	      – ออกกำลังกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น มีการแตกแขนงของหลอดเลือดในเนื้อเยื่อต่างๆ มากขึ้น ทำให้เม็ดเลือดขาวหรือภูมิคุ้มกัน เข้าสู่ในเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ง่าย
	      – ลดความเครียด ปรับสภาพจิตใจ ทำจิตใจให้เบิกบาน เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ช่วยการทำงานของเซลล์ดีขึ้น
	      – ดีท็อกซ์ เป็นวิธีการที่ช่วยขับของเสียที่เกิดจากระบวนการต่างๆ ภายในร่างกาย วิธีหนึ่งที่ดีคือการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ 
	      – การใช้ออแกโนเปปไทด์ (สารชีวะโมเลกุล) เป็นสารสกัดจากเซลล์อ่อนที่ยังมีคุณสมบัติทางชีวภาพอยู่ มีโครงสร้างเป็นอะมิโนธรรมชาติ เรียกว่าเซลล์ซ่อมเซลล์ คุณก็จะมีภูมิต้านทานที่ดีและยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้
	      – ฉีดวัคซีนป้องกัน ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับทุกวัย ในวัยเด็กจะมีกำหนดการฉีดวัคซีน อาจกำหนดเป็นเดือน เป็นปีตามแต่ประเภทของวัคซีน และดีต่อผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่นกัน
	      – การรับประทานวิตามินและอาหารเสริม ที่มีคุณสมบัติเสริมภูมิต้านทาน อย่างต่อเนื่อง
ในความเป็นจริงแล้ว ในแต่ละคนมีระบบภูมิคุ้มกันสูง-ต่ำแตกต่างกัน เนื่องจากหลายๆ เหตุผล หลักการที่ดีให้คุณมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีและสูงขึ้น คือดูแลตนให้มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ สร้างได้ด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com
 
                                    
                                                  
                                                  
                                                  
                                                  
                                                 