มะยม เป็นผลไม้รสเปรี้ยว เป็นยาดีต้านเบาหวาน แก้ปวดหัว!!
advertisement
มะยม ผลไม้ลูกเล็กๆ รสชาติเปรี้ยวจี๊ด เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีเกินผลเลยทีเดียว มะยมเป็นผลไม้พื้นบ้าน มักจะไม่มีราคาอะไรเพราะไม่นิยมนำมาขาย หรือปลูกเพื่อขาย ต้นมะยมนิยมปลูกกันหลายๆ บ้าน คนไทยสมัยโบราณมีความเชื่อว่า บ้านใดปลูกมะยมจะช่วยป้องกัน ความชั่วร้ายและผีร้ายมิให้มากล้ำกราย เพราะถือว่าเป็นไม้ชื่อคล้ายพระพญายมราช และในพิธีมงคลเรามักจะเห็นว่าพระสงฆ์นำก้านมะยมมาพรมน้ำมนต์ในพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย ในบางความเชื่อก็ว่า
advertisement
เป็นต้นไม้ที่มีชื่อเป็นมงคลนาม ปลูกแล้วผู้คนจะได้นิยมชมชอบเหมือนมี นะเมตตามหานิยม ส่วนประโยชน์ของมะยมก็มีได้มากกว่าวิตามินซีค่ะ ทั้งส่วนอื่นๆ ก็มีสรรพคุณเป็นยา ที่น่าสนใจมากๆ คือมะยมช่วยป้องกันและบรรเทาโรคเบาหวาน อีกทั้งช่วยแก้ปวดหัวได้ผลชะงัด
สรรพคุณทางยาของมะยม
– เปลือกของลำต้น ใช้แก้ไข้ทับระดู และ แก้ผดผื่นคัน
– ใบ ใช้ปรุงเป็นส่วนประกอบของยาเขียว แก้ไข้ ดับพิษไข้ บำรุงประสาท โดยต้มร่วมกับใบหมากผู้หมากเมีย และใบมะเฟือง อาบแก้คัน ไข้หัด เหือด และสุกใส
– ดอก ตามตำรายาโบราณ ใช้ดอกสดต้มกรองเอาน้ำแก้โรคตา ชำระล้างดวงตา (ควรอยู่ในการดูแลของผู้รู้และปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน)
– ผล ใช้กัดเสมหะ (ขับเสมหะ) แก้ไอ บำรุงโลหิต และเป็นยาระบาย[ads]
advertisement
สูตรยาสมุนไพรไทยจากมะยม
1) สูตรยาลดน้ำตาลในเลือด ต้านเบาหวานและบำรุงตับอ่อน
ใช้ใบมะยมสด และรากเตยสดหรือแห้งก็ได้ ต้มรวมกัน แล้วใช้น้ำมาดื่มกิน ถ้าไม่มีรากเตย ก็ใช้ใบมะยมอย่างเดียว (อาจใส่มะตูมแห้งแบบเป็นแผ่นเพิ่มได้) เมื่อกินใบมะยมระยะแรก จะกระตุ้นตับอ่อนให้ผลิตน้ำตาลมากกว่าเดิมแต่ไม่เพลียไม่เหนื่อย ต่อไปเมื่อตับอ่อนแข็งแรงแล้ว ตับอ่อนจะทำงานของมันเองได้เต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาอินซูลินจากภายนอก แล้วตับอ่อนจะคุมน้ำตาลด้วยตัวของมันเอง และใบมะยมจะกระตุ้นน้ำตาลให้ขึ้นไปเลี้ยงสมอง ถ้าต้มใบมะยม กินน้ำควรกินให้หมดภายในวันนั้น ก็จะได้โอสถสาร ต้มใบมะยมรวมกับรากใบเตยจะได้รากเตยมาช่วยฟื้นฟูตับอ่อนให้แข็งแรง
2) สูตรยาลดการดูดซึมน้ำตาลในกระแสเลือด
คนที่เป็นเบาหวานแต่อยากกินของหวาน ให้กินใบมะยมสดๆ ประมาณ 2-3 ก้าน (ไม่ต้องกินก้าน) ลงไปรองท้องก่อน สามารถปั่นกินได้ แล้วจึงกินของหวาน กากใยของใบมะยมจะช่วยดูดซับน้ำตาล ไม่ให้ดูดซึมเข้ากระแสเลือด และเมื่อกินของหวานแล้วก็กินน้ำสำรองตาม เพื่ออมกากใยไว้รอการขับถ่าย (ใบมะยมใช้กินสด ๆ จิ้มน้ำพริกได้, แกงเรียงใส่ใบมะยมได้)
advertisement
3) สูตรยาบรรเทาอาการปวดศีรษะ
ใช้ใบมะยมแก่รวมก้าน 1 กำมือนำมาต้มกับน้ำใส่น้ำตาลกรวดพอประมาณไม่ให้หวานมาก นำมาต้มจนเดือนดื่มครั้งละ 1 แก้ว เช้า-เย็น
4) สูตรยาบำรุงโลหิต ยาอายุวัฒนะ
ใช้ผลแก่ดองในน้ำเชื่อม อัตราส่วน น้ำและน้ำตาล 1 : 3 ดองไว้ประมาณ 3 วัน ทะยอยทานวันละ 1 ช้อนโต๊ะ
5) สูตรยาลดความดันโลหิต
ใช้ใบแก่พร้อมก้าน 1 กำมือ ใส่น้ำพอท่วม เติมน้ำตาลได้เล็กน้อย ต้มให้เดือดนานประมาณ 5 นาที แล้วดื่มควบคู่กับการวัดความดันไปด้วย เมื่อความดันเป็นปรกติ ต้องหยุดทาน (ควรอยู่ในการดูแลของผู้รู้และปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน และไม่ควรหยุดยาที่แพทย์จ่าย)[ads]
6) สูตรยาแก้โรคผิวหนัง ผดผื่นคัน
ใช้ราก 1 กิโลกรัม ต้มกับน้ำ 10 ลิตร โดยต้มให้เดือด 5-10 นาที ทิ้งไว้ให้อุ่นใช้แช่อาบ ทำควบคู่ไปกับใช้รากฝนกับน้ำซาวข้าวทาวันละ 2-3 ครั้ง
advertisement
ข้อควรระวัง
น้ำยางจากเปลือกของรากมะยมมีพิษเล็กน้อย ควรระวังให้ดี ถ้ารับประทานเข้าไปอาจมีอาการปวดท้อง ปวดศรีษะ และง่วงซึม
“มะยม” แม้จะเป็นผลไม้ธรรมดาๆ พื้นบ้านของคนไทยเรา แต่มีประโยชน์ได้มากมายเกินตัวจริงๆ เลยนะคะ ผลมะยมมีวิตามินซีสูง ทั้งส่วนอื่นๆ ยังมีสรรพคุณเป็นยา หากมีโอกาสก็อย่ามองข้ามผลไม้เล็กๆ รสเปรี้ยวอย่างมะยม และหากต้องการใช้ประโยชน์เป็นยา ก็ควรอยู่ในการดูแลของผู้รู้และปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันเสมอด้วยนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : ไข่เจียว.com