มะระจีน..ช่วยบำบัดรักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด!!
advertisement
มะระจีน เป็นผักที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างช้านานแล้ว โดยมะระแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ มะระขี้นก และ มะระจีน ซึ่งมะระขี้นกนั้นจะมีรสขมมากกว่า และมะระจีนนั้นจะเป็นที่นิยมนำมารับประทานมากกว่ามะระขี้นก และทำอาหารได้หลายเมนู ที่คุ้นเคยกันก็คือแกงจืดมะระยัดไส้ มะระผัดไข่ แต่ก็มีหลายคนเหมือนกันที่ไม่ชอบกินมะระเพราะมะระจีนเองก็มีรสขมเช่นกัน แต่หากว่าคุณได้ทราบว่ามะระนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังที่วันนี้ Kaijeaw.com มีมาบอกกัน เชื่อว่าคุณต้องเปลี่ยนใจ แล้วหันมากินมะระกันอย่างเต็มใจแน่นอนเลยทีเดียวค่ะ
advertisement
ลำต้น : มะระจีนเป็นพืชเลื้อยลักษณะเป็นเถา มีมือเกาะใช้ยึดพยุงลำต้นให้พันขึ้น
ใบ : ลักษณะใบจะเป็นใบเดี่ยว สีเขียว มีของหยักๆ รูปคล้ายฝ่ามือ
ดอก : ดอกสีเหลืองมีกลีบดอก 5 กลีบ ดอกเป็นดอกไม่สมบูรณ์เพศ ดอกตัวผู้และตัวเมียอยู่คนละต้น
ผล : ผลของมะระจีนมีขนาดใหญ่ เนื้อหนา รูปร่างยาว รอบๆผลจะเป็นสันตะปุ่มตะป่ำประมาณ 10 สัน ผลอ่อนสีขาว ผลแก่มีสีเขียว [ads]
advertisement
มะระ ช่วยบำบัดรักษาโรคเบาหวาน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
มะระมีคุณสมบัติที่ดีในการบำบัดและรักษาโรคเบาหวานในระยะเริ่มต้น มีการศึกษาพบว่ามะระจีนจะช่วยเพิ่มเบต้าเซลล์ (beta-cell) ในตับอ่อน โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน (insulin Hormone) ที่เป็นฮอร์โมนสำคัญในในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งในมะระจีนยังมีเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต ซึ่งสรรพคุณเหล่านี้เป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยเบาหวานในระยะเริ่มต้นเป็นอย่างยิ่ง (ควรปรึกษาแพทย์ควบคู่ไปกับการรักษา) มีคำแนะนำว่าให้ผู้ป่วยเบาหวานดื่มน้ำมะระคั้นสด 4 ช้อนโต๊ะ วันละ 3 ครั้ง หรือวิธีการนำเนื้อมะระตากแห้งชงน้ำดื่ม หรือเพื่อเพิ่มรสชาติสามารถผสมกับชาอื่นๆ ได้
สรรพคุณทางยาสมุนไพรอื่นๆ ของมะระจีน
ผล – มีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดดังที่ได้กล่าวไปแล้ว และนอกจากนั้น ยังสามารถใช้ทาภายนอก แก้ผิวหนังแห้ง ลดอาการระคายเคือง ผิวหนังอักเสบ
ราก – ตามตำรากล่าวว่ามีฤทธิ์ ฝาดสมาน ใช้รักษาโรคริดสีดวงทวารหนัก แก้บิด ต้มดื่มแก้ไข้
เถา – มีสรรพคุณช่วยดับพิษร้อน แก้บิด
เมล็ด – มีรสขมใช้ขับพยาธิตัวกลม
วิธีการใช้
– แก้ไข้ ให้นำมะระทั้ง 5 คือ ดอก ผล ใบ ราก และเถาอย่างละ 1 กำมือใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มจนเดือด กินครั้งละ 1 แก้ว ก่อนอาหาร วันละ 3 – 4 ครั้งติดต่อกันเพียง 3-4 วันก็จะหายไข้
– แก้คอแหบแห้ง เสียงไม่มี เนื่องจากโรคหวัด นำผลมะระต้มกินเป็นอาหารช่วยรักษาให้ทุเลาจนถึงหายขาดได้
– แก้ท้องผูก นำมะระทั้ง 5 มาต้มกิน ทำให้อุจจาระอ่อน ขับถ่ายสะดวกใช้เป็นยาระบายได้ดี แม้ท้องผูกยามเป็นไข้ (หรือไข้เกิดจากท้องผูก) ใช้มะระต้มดื่มวันละ 1 ครั้ง 1 แก้ว ตอนบ่ายหรือตอนเย็น เพราะมะระมีสรรพคุณถ่ายพิษไข้ได้เป็นอย่างดี
– หรือตำรับหนึ่ง แก้ท้องผูก ให้นำมะระจีนหรือมะระขี้นกใกล้สุก มาหั่นทั้งเนื้อและเม็ดแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง คั่วจนหอมแล้วตำให้ละเอียดผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอนขนาดหัวแม่มือกินครั้งละ 1 เม็ดก่อนนอน อาการท้องผูกจะหายไป
– บำรุงสายตา บำรุงเลือด ให้นำผลมะระและยอดอ่อนมาปรุงอาหารตามใจชอบ ควรกินวันเว้นวันสม่ำเสมอ สายตาจะดีขึ้น ช่วยบำรุงเลือด
– บำรุงกำลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ให้นำเม็ดมะระจีนแก่จัดมาตากแห้งแล้วแกะเปลือกนอกออก ใช้เนื้อในบดจนละเอียด ละลายน้ำร้อนกินครั้งละ 1 ช้อนกาแฟวันละ 1 ครั้งก่อนนอน ติดต่อกัน 2 อาทิตย์ เว้น 2 อาทิตย์ กินอีก 2 อาทิตย์ จะทำให้เจริญอาหาร มีกำลังวังชาขึ้น ยาขนานนี้ยังช่วยขับพยาธิตัวเล็กได้อีกด้วย [yengo]
advertisement
ข้อควรระวังในการใช้มะระเป็นยาสมุนไพร : มะระมีความเย็นจัด จึงไม่ควรกินติดต่อกันทุกวัน หรือเป็นเวลานานๆ ถ้าใครกินมะระแล้วอาเจียนหรือปวดท้องหรือท้องเสีย เกิดจากอาการแพ้ มะระต้องหยุดกิน
ข้อควรระวังในการรับประทานมะระ
– ไม่ควรรับประทานมะระผลสุก (มะระเมื่อสุกแล้วผลสุกจะออกสีแดง ต่างกับผลแก่ที่ทานได้จะมีสีเขียว) เพราะในมะระผลสุกจะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนจากสารซาโปนิน ซึ่งสารนี้มีพิษต่อร่างกาย และไม่ควรทานมะระมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ท้องเสีย เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบาย
ข้อแนะนำในการเลือกซื้อมะระ
สังเกตที่หนามของมะระให้ดี ถ้าหนามมีลักษณะแข็ง แสดงว่ามะระนั้นแก่เต็มที่แล้ว ไม่ควรซื้อมารับประทาน เพราะจะมีรสขมมากๆ ให้เลือกซื้อที่หนามมีลักษณะอ่อนนิ่ม เพราะจะเป็นมะระที่มีอายุน้อยและไม่ขมมากจนเกินไป สามารถนำมาประกอบอาหารได้
วิธีลดความขมของมะระ
ก่อนที่จะนำมะระไปประกอบอาหารให้นำมาแช่น้ำเกลือก่อน ในอัตราส่วนเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำลิตร และแช่ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีและเทน้ำทิ้ง แล้วนำมาแช่น้ำเปล่าอีกครั้งประมาณ 10 นาที ก่อนจะนำไปประกอบอาหารก็จะช่วยลดความขมของมะระลงได้ และที่สำคัญก็คือในขณะที่ กำลังประกอบอาหารด้วยการทำต้มอย่างแกงจืด ไม่ควรจะเปิดฝาทิ้งไว้หรือคนบ่อยๆ เพราะจะทำให้มะระขมได้
ปัจจุบันเราอาจพบเห็นมะระในรูปแบบผลิตภัณฑ์ชนิดผงชงชา หรือแคปซูล หรือเป็นส่วนประกอบในยาสมุนไพรขนานอื่นๆ ซึ่งหากจะเลือกใช้ควรเลือดผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ สังเกตเครื่องหมายการค้า เช่น อย.หรือทะเบียนยาให้ชัดเจน และปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด แต่อีกทางเลือกที่ดีกว่านั้นคุณสามารถกินมะระได้โดยนำมาปรุงอาหารทาน หากว่าขมเกินไปก็ลองนำข้อแนะนำวิธีลดความขมของมะระ ที่เราแนะนำไปใช้กันด้วยนะคะ จะได้ทานมะระอย่างอร่อยและได้ประโยชน์ต่อสุขภาพค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com