ทำความรู้จัก!! “อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก” การใช้ชีวิตอย่างสมถะกับความรักต่างวัย ทิ้งชีวิตสุดหรูไปกับธรรมชาติ

advertisement
ความรักบนโลกนี้มีหลากหลายรูปแบบความรักจากพ่อเเม่ ความรักจากคนรอบข้าง เเละความรักจากคนรู้ใจ คู่รักที่เราเห็นทั่วไปก็คงเป็นเรื่องธรรมดา เเต่ก็ทึ่งเมื่อเจอกับคู่รักที่เเปลกไปจากคู่อื่น ทั้งการใช้ชีวิต การเป็นอยู่ เเต่ความรักทั้งคู่ยิ่งใหญ่สุดๆ อย่างคู่รักหว่าง "อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก" กับ "น.ส.ชญาดา เนียมเปีย" เป็นคู่รักต่างวัยที่มีอายุต่างกันถึง 45 ปี โดยทั้งคู่ได้เเต่งงานอยู่กันมาถึง 6 ปีเเล้ว วันนี้ Kaijeaw.com จะพาไปดูความเป็นมาของความรักเเละการเป็นอยู่ที่ไม่เหมือนใครของคู่รักต่างวัยคู่นี้ที่คุณต้องทึ่ง ไปดูกันเลยครับ…
advertisement

อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก
advertisement

ฝ่ายหญิงได้เปิดใจบอกถึงความรู้สึกที่มีต่ออาจารย์ไม้ร่ม โดยเริ่มเเรกประทับใจแนวคิดอาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก และก็พยายามที่จะติดต่อตลอดจนได้มาพบรักกันที่การชุมนุมทางการเมืองของ กปปส. ด้านฝ่ายชายไปขอเมียทั้งที่มีเงินติดตัว 300 บาท ทำไม อ.ไม้ร่มถึงมีเงินเพียงเท่านั้น งานนี้อยากรู้ต้องติดตามกัน
ประวัติของอาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก หรือชื่อจริง วิโรจน์ นุ้ยบุตร เกิดที่ ต.ชลคราม อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เรียนจบชั้นมัธยมก็ย้ายเข้ามาเรียนศิลปะที่เพาะช่างโดยมี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ เป็นผู้อุปการะให้ทุนการศึกษาหลังจากซื้อภาพเขียนของเขาจากบางกะปิแกลอรี่ที่จัดร่วมกับเพื่อนๆ แต่ไม่นานก็เกิดขัดแย้งกับ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ จนไม่ได้รับเงินทุนเพื่อเรียนต่อ ทำให้ต้องไปนอนบนห้องน้ำในบ้านเช่าเนื่องจากว่าค่าเช่าถูก[ads]
advertisement

แต่ด้วยความพยาม อาจารย์ไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก ได้หารายได้เสริมโดยหาเวลาไปวาดขายบนถนนสุขุมวิทจนมีฝรั่งจีไอไปพบและชื่นชมผลงานอย่างมาก จึงยื่นข้อเสนอจะส่งเสียให้เรียนจนจบ ในที่สุดก็ได้เรียนจบเพาะช่างสมใจ จากนั้นได้เข้าวัดศึกษาธรรมะและวาดภาพอยู่นานหลายปี จนกระทั่งได้ไปทำงานเป็นอาจารย์สอนศิลปะอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ I.S.B. กรุงเทพฯ สอนอยู่ได้ราว 6 ปี ขณะนั้นเงินเดือนเกือบ 6 หมื่นบาท แต่ก็ลาออกเมื่อปี 2528 เพื่อมาใช้ชีวิตแบบสมถะ ตามแนวความคิดของตนเองจนมีหลายคนว่าเป็นบ้า แต่ก็ปฏิบัติตามแนวคิดของตัวเองมาจนทุกวันนี้ก็ 30 กว่าปีแล้ว
advertisement

advertisement

นอกจากนี้อาจารย์ไม้ร่ม ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพเขียนด้วยการใช้เปลวไฟแทนปลายพู่กัน และควันไฟจากเทียนไขลนบนเฟรมให้เกิดเส้นสาย รูปร่าง และสีสัน ซึ่งเป็นภาพแนวนามธรรม จินตนาการที่ประชดประชัน เสียดสีสังคม สะท้อนเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา ปรัชญาในการดำเนินชีวิต และในช่วงตั้งแต่ปี 2545 ได้เข้าไปเก็บตัวอยู่ในป่าต้นน้ำพะโต๊ะ จ.ชุมพร เพื่ออุทิศชีวิตให้กับงานศิลปะอย่างเป็นอิสระ โดยอาศัยวัตถุดิบจากในธรรมชาติ
ปัจจุบันได้อาศัยอยู่กับภรรยา ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร และได้ใช้ชีวิตแบบธรรมชาติ ไม่ว่าจะอาบน้ำ สระผมด้วยดินเหนียว ซักผ้ากับผงขี้เถ้า กินอาหารมังสวิรัติ แปรงฟันด้วยกิ่งข่อย รวมถึงการวาดภาพด้วยควันเทียนและวัสดุต่างๆ ตามธรรมชาติที่หาได้
advertisement

ใช้ชีวิตเเบบเรียบง่าย
advertisement

อยู่กับธรรมชาติ
ใช้ชีวิตแบบสมถะ
advertisement

ปลูกพืชกินเอง
กินก็ไม่เหมือนใคร[ads]
advertisement

การเเต่งกายก็ไม่เหมือนใคร
บ้านธรรมชาติสุดๆ
advertisement

เป็นคู่รักที่อยู่ด้วยกันด้วยความรักจริงๆ ไม่งั้นก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้เเน่ๆ เลย ใช้ชีวิตแบบสมถะอยู่กับธรรมชาติ ใช้ชีวิตเเบบเรียบง่ายมาก เเทบจะไม่ต้องพกเงินสักบากก็อยู่ได้ เเละก็ชื่นชมในความรักมากจริงๆ
เรียบเรียงโดย : Kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com