รู้ทันพนักงานเคลมประกันรถยนต์
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/03/รู้ทันพนักงานเคลมประกันรถยนต์-1-1024x512.jpg)
advertisement
เมื่อมีรถยนต์ก็ต้องทำประกันรถยนต์ เพราะเป็นการประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ซึ่งการทำประกันรถยนต์ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นการทำประกันรถยนต์ไว้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียไปในการซ่อมรถยนต์ได้ แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าในการเคลมประกันนั้นเราจะต้องทำอย่างไรบ้างเมื่อเจอพนักงานเครมประกัน Kaijeaw.com จะพาไปรู้จักวิธีรู้ทันพนักงานเครมประกันรถยนต์ค่ะ
advertisement
![พนักงานเคลมประกันรถยนต์-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/03/พนักงานเคลมประกันรถยนต์-1.jpg)
พนักงานเคลมจะแบ่งลักษณะการเกิดเหตุ หลักๆดังนี้
1.เคลมแห้ง หมายถึง เคลมที่รถเกิดเหตุมานานแล้ว เพิ่งมาแจ้งเหตุ เช่น แผลขูดขีด เป็นต้น
2.เคลมสด หมายถึง เคลมที่รถชนกันสดๆ และยังมีผู้เสียหายในเหตุการณ์รออยู่
3.เคลมเสียหายมาก หมายถึง เคลมที่จะเกิดขึ้นสดๆหรือเกิดขึ้นนานแล้ว แต่เสียหายมากเพิ่งมาแจ้งเหตุ เช่น รถเสียหายจนขับไม่ได้ นานมาแล้วเป็นอาทิตย์เพิ่งมาแจ้งเหตุ เป็นต้น[ads]
advertisement
![พนักงานเคลมประกันรถยนต์-2](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/03/พนักงานเคลมประกันรถยนต์-2.jpg)
ธุรกิจประกันวินาศภัยนั้น ปัจจุบันมีทั้งบริษัทฯต่างชาติและบริษัทฯ ที่มีธุรกิจที่เอื้อประโยชน์กันเข้าแข่งขันในการครองตลาดรถอยู่มาก ผู้บริโภคจึงไม่อาจเลือก โดยเสรีทางความคิดได้หมด เพราะส่วนมากไฟแนนซ์ก็เป็นผู้เกือบจะบังคับให้ตามโปรแกรมการขาย ซะเป็นส่วนมาก ไม่รวมรถที่ซื้อเงินสด จึงไม่รู้เลยว่า บริษัทประกันภัย ที่เลือกให้เรานั้น ได้มาตราฐานหรือจัดให้ตามประโยชน์ที่ เซลขายรถหรือมารเก็ตติ้งของไฟแนนซ์ จะได้รับพนักงานเคลมมีหน้าที่ออก ตรวจสอบอุบัติเหตุ โดยเร็วที่สุดและบันทึก รายงาน ถ่ายภาพ ที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบรูณ์ที่สุด เพื่อเข้าเป็นรายงานแฟ้มอุบัติเหตุต่างๆ นี่ก็คือ หน้าที่หลักโดยทั่วไป ซึ่งจากสถิติการเกิดเหตุ โดยทั่วๆไปแล้ว เรื่องที่จะมีปัญหากับท่านผู้อ่านก็คือ แจ้งเคลมแห้ง เพราะในสัญญาประกันภัย ได้ระบุไว้ว่าหากเกิดเหตุไม่ทราบคู่กรณี ท่านก็จะต้องถูกเก็บค่าเงื่อนไขไม่ทราบคู่กรณี ยกเว้น เสียแต่ว่าท่านจะพิสูจน์ให้บริษัทฯประกันทราบว่า ท่านไม่ได้เป็นฝ่ายถูกละเมิด ฝ่ายที่ถูกจากผู้อื่นแล้วไปเรียกเก็บ ค่าเสียหายเข้ากระเป๋าของตนซะเองไปแล้ว
ฉะนั้น เวลารถของท่านเสียหายไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตามท่านจะต้องโทรศัพท์ แจ้งเหตุไปที่บริษัทฯประกันในทันทีและต้อง ขอหมายเลขรับแจ้งและชื่อสกุลของพนักงานรับแจ้ง ไว้เป็นหลักฐานด้วยทุกครั้ง เพราะพนักงานรับแจ้งเหตุ นั้นจะช่วยแนะนำท่าน ในสิ่งที่ท่านจะต้องทำต่อไปเช่น ถูกชนแล้วหลบหนีไปต่อหน้าต่อตาจะทำอย่างไร ทะเบียนรถที่ชนก็จำไม่ได้อีกซะเลย เป็นต้น
หากท่านขับรถชนกับรถคู่กรณีที่ไม่มีประกันภัยและรถของท่านเป็นฝ่ายถูกแล้ว ท่านควรตรวจสอบกลับไปที่บริษัทฯประกันภัย ที่ท่านทำประกันทุกครั้งว่าตามรายงานอุบัติเหตุรถของท่าน เป็นฝ่ายถูกจริงหรือ ไม่ควรคุยกับระดับหัวหน้างานของบริษัทฯ นั้นๆเพราะถ้าเป็นฝ่ายถูก ท่านจะได้รับส่วนลดประวัติดีในปีต่อไปครับ ธุรกิจประกันวินาศภัยในบ้านเรา(เมืองไทย) ยังคงต้องพัฒนายกระดับมาตราฐานขึ้นอีกมาก พนักงานเคลมบางบริษัทฯมีจริงๆไม่กี่คน นอกนั้นจะต้องจ้างบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ แปลเป็นไทยว่า บริษัท รับสำรวจภัย ซึ่งมีหน้าที่รับจ้างทำเคลมให้กับ บริษัทประกันภัยต่างๆ ที่ แจ้งเหตุเข้ามา ซึ่งบางบริษัท เซอร์เวย์เยอร์ ก็ไม่มีสาขา เรียกกันว่าเกิดเหตุ ที่จังหวัดนี้ก็ใช้บริการที่นี่ เป็นต้น ซึ่งเป็นอาจจะทำให้บริการไม่ทั่วถึง ในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือในช่วงเทศกาล ซึ่งต่างกับ บริษัทประกันภัยที่มีสาขาหรือศูนย์บริการคลอบคลุม อยู่ทุกพื้นที่การให้บริการ จะทำให้ไปถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็วขึ้น
advertisement
![พนักงานเคลมประกันรถยนต์-3](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/03/พนักงานเคลมประกันรถยนต์-3.jpg)
อีกเรื่องที่ถือว่าสำคัญก็คือ จรรยาบรรณ ในการประกอบวิชาชีพซึ่งรวมถึง เรื่องของความรู้ใน ข้อกฎหมายในคดีรถชนกัน และมารยาทความเอาใจใส่ในการบริการลูกค้าของพนักงาน เรื่องพวกนี้ถือว่าเป็นสาระสำคัญในการประกอบธุรกิจของ บริษัทประกันภัยให้มีเชื่อเสียงได้ยาวนาน บริษัท เซอร์เวย์เยอร์ ต่างๆ บางบริษัทฯ มีมาตราฐานราคา ค่าสำรวจ ก็จะมาตราฐานไปด้วย แต่ปัจจุบันบริษัทประกันภัย บางบริษัทฯก็ต้องการลดต้นทุน หันไปใช้บริษัท เซอร์เวย์เยอร์ ที่ไม่มีมาตราฐานมาใช้งาน เพราะค่าบริการถูก[ads]
การฉ้อฉล เกิดขึ้นได้กับพนักงานเคลม ที่เรียกหรือถูกฝ่ายตรงข้าม ท่านเสนอให้สินบน เพื่อเขาจะได้เป็นฝ่ายถูกหรือไม่ก็บวกเพิ่ม ค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งก่อนนัดจ่ายค่าสินไหมทดแทนต่างๆท่านควร ตรวจสอบกับผู้บริหารของ บริษัทประกันภัยให้ชัดเจนก่อนทุกครั้ง อย่าลืมโทรศัพท์เข้าไปสอบถามด้วยตนเองกับ ฝ่ายตรวจสอบของบริษัทประกันภัยหรือผู้จัดการสินไหมฯก็ได้ครับ ท่านจะได้รู้ว่าถูกใครเป็นผู้เอาเปรียบท่านกันแน่ บางครั้งบริษัทประกันฯ อาจเอาเปรียบท่าน ก็ควรเจรากันใหม่ ให้ยุติถ้าไม่ยุติหรือเห็นว่า ไม่ยุติธรรมก็ให้ติดต่อกรมการประกันภัยได้
จะเห็นได้ว่าการทำประกันรถยนต์นั้นสำคัญมากเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของเจ้าของรถยนต์ได้ ฉะนั้นในการทำประกันแต่ละครั้งเราควรเลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือได้ การมีความรู้ในเรื่องการเครมประกันนั้นก็สำคัญเวลาทำประกันรถยนต์เราควรศึกษาข้อตกลงในการทำประกันให้ละเอียดด้วยนะคะเพื่อประโยชน์ของเจ้าของรถยนต์เองค่ะ
เรียบเรียงโดย : Kaijeaw.com