วิธีการรองน้ำฝนใส่โอ่งมังกร กับอดีตที่เลือนหายไปตามกาลเวลา

advertisement
ถ้าย้อนกลับไปในอดีต หลายๆบ้านมักจะเลือกที่จะรองน้ำฝนใส่ตุ่มเอาเก็บไว้กินไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปี แต่พอวันเวลาผ่านไปทุกวันนี้น้ำฝนกลับกินไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน โดยทางเพจ เจาะเวลาหาอดีต ได้ออกมาโพสต์แชร์ถึงวิธีการรองน้ำฝนเก็บไว้กินในอดีต ซึ่งเห็นภาพแล้วทำให้เรานึกถึงอดีตเมื่อตอนเป็นเด็ก โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า
advertisement

รองน้ำฝน เล่าเรื่องน้ำ สำหรับดื่มกินในอดีต น้ำกินไม่เดือดร้อนแต่ละบ้านจะเก็บน้ำฝนใส่ตุ่มไว้บ้านละหลายๆใบใช้กินกันได้ตลอดทั้งปี ที่บ้านตามบ้านนอกมีตุ่มใส่น้ำฝนเรียงรายอยู่รอบบ้านสามารถเก็บน้ำฝนไว้กินได้ตลอดทั้งปีเป็นน้ำฝนที่ตกตามฤดูกาล
หลังคาบ้านในสมัยนั้นโดยส่วนใหญ่มุงด้วยสังกะสีเมื่อฝนตกจะมีเสียงดังมาก บ้านยายมีรางใช้รองน้ำฝนอยู่ใต้ชายหลังคาบ้าน เมื่อฝนตก น้ำฝนก็จะไหลลงมาตามร่องสังกะสีลงสู่รางรองรับน้ำฝน และไหลลงใส่โอ่งหรือตุ่มน้ำที่มีผ้าสะอาดวางพาดคลุมบนปากโอ่งเพื่อกรองน้ำฝน เมื่อน้ำเต็มโอ่งก็จะลากสายยางรองน้ำฝนจากรางไปโอ่งอื่นอีกต่อไปเรื่อยๆ น้ำฝนถ้าเป็นน้ำฝนใหม่เกินไปก็จะมีรสชาติเฝื่อนๆ หน่อย ถ้าเป็นน้ำฝนที่รองหลังฝนตกแล้วหลายครั้ง จะมีรสชาติปกติ
advertisement

เวลาฝนตก ถ้าอยู่บ้านจะทั้งสนุกกับการเล่นน้ำ และเหนื่อยกับการรองน้ำฝน ฝนตกครั้งแรกๆ 2-3 ครั้ง เราจะไม่รองน้ำปล่อยให้น้ำฝนชะล้างฝุ่นละอองบนหลังคาบ้านออกเสียก่อน ถ้าฝนตกแรงๆครั้งต่อไปอีกสักพัก จนน้ำฝนบนหลังคาสะอาดดีแล้วจึงเริ่มรองน้ำใส่โอ่งหรือตุ่มกัน เราจะรองน้ำฝนเก็บใส่โอ่งไว้กินกันทุกบ้าน ในแต่ละบ้านจะมีโอ่งมังกรไว้รองรับน้ำฝนเก็บไว้กินกันได้จนถึงฝนใหม่กันเลย บ้านหนึ่งๆจะมีโอ่งมังกรนี้ไม่ต่ำมา 5-6 โอ่ง [ads]
จากความคิดเห็น
advertisement

ภาพแบบนี้ยังจำติดตา
advertisement

ทุกบ้านต้องมีตุ่มรองน้ำฝน
advertisement

รสชาติอร่อยด้วย
advertisement

ทุกวันนี้น้ำฝนจะทานไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนเพราะมลพิษทางอากาศที่มากขึ้น น้ำฝนจึงไม่สามารถนำมาดื่มได้ แต่ก็ยังใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้มากมายหลายอย่าง เป็นน้ำจากธรรมชาติที่ไม่ต้องซื้อให้เสียเงินเลย
ขอขอบคุณที่มาจาก : เจาะเวลาหาอดีต