สมรักษ์ เล่านาทีเข้าเฝ้าฯ เบื้องพระยุคลบาท อย่างใกล้ชิด..เผยคำตรัส ของพระองค์ท่าน ยังตราตรึงอยู่ในใจจนถึงวันนี้!!
advertisement
กีฬามวย นับเป็นชนิดกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งความสำเร็จทั้งหมดนั้นมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นแรงผลักดัน บุคลากรในวงการมวยสากลอาชีพมวยสากลสมัครเล่น ตลอดจนมวยไทย ต่างทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงโปรดกีฬามวย และมีพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นต่อวงการมวย ที่ผ่านมาทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานทอดพระเนตรการชกของนักมวยไทยหลายต่อหลายครั้ง อาทิ ไฟต์ที่ โผน กิ่งเพชร คว้าแชมป์มวยโลกคนแรกของไทย ด้วยการชนะ ปาสคาล เปเรซ จากอาร์เจนตินา ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (16 เม.ย. 2503) หรือ ชาติชาย เชี่ยวน้อย ชนะคะแนน แอฟเฟรน ทอร์เรส จากเม็กซิโก ณ สนามกีฬากิตติขจร (20 มี.ค. 2513)
advertisement
ภายหลังการชก พระองค์จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักมวยเข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด และมีพระราชปฏิสันถารอย่างเป็นกันเอง ตลอดจนทรงห่วงใยเรื่อยมา ซึ่งนับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจอย่างสูงของนักมวยทุกคน [ads]
สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองประวัติศาสตร์ของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ ปี 1996 เผยว่านับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหาสิ่งใดมาเปรียบมิได้ เนื่องจากนักมวยส่วนใหญ่เติบโตมาจากต่างจังหวัด ไม่มีใครคิดว่าในชีวิตจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าเบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด
สมัยเด็กผมมองพระองค์เป็นเสมือนเทวดา เวลาเจอเหตุร้ายอะไร หรือเวลากลัวผี ผมจะนึกถึงในหลวงตลอด ขอให้ในหลวงคอยคุ้มครอง เด็กบ้านนอกอย่างผมไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านเลย แต่เราก็มีพระองค์ท่านเป็นกำลังใจมาตลอด หลังชกชนะได้เหรียญทองวันนั้น ผมถึงรู้ว่าพระองค์ทรงติดตามและทอดพระเนตรการชกของผมด้วย เนื่องจากทางรองราชเลขาธิการ สํานักพระราชวัง ได้โทรศัพท์ทางไกลมาที่เบอร์ของผู้บริหารสมาคมเพื่อฝากพระราชสาสน์ถึงผม แต่ผมตรวจโด๊ปอยู่จึงไม่ได้รับสาย พอเสร็จแล้วจะโทรกลับก็ไม่กล้า” สมรักษ์ กล่าว
จากนั้นเมื่อถึงกลับเมืองไทย สมรักษ์ พร้อมสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ได้เข้าเฝ้าเบื้องพระยุคลบาท ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองแด่พ่อหลวงตามที่ตั้งมั่นไว้ โดย “เจ้าบาส” ที่ได้รับพระราชทานสร้อยคอทองคำ และเหรียญพระมหาชนกทองคำ เผยถึงคำตรัสของพระเจ้าแผ่นดินที่ตราตรึงอยู่ในใจตนเรื่อยมาจนถึงวันนี้ [ads]
advertisement
นั่นคือครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงรับเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์จากทัพนักกีฬาไทยไปเก็บไว้ในห้องบรรทม ซึ่งภายหลังแม้ วิจารณ์ พลฤทธิ์ จะทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองจากรุ่นฟลายเวต ที่คว้ามาได้ในโอลิมปิก 2000 ณ พระราชวังไกลกังวล แต่พระองค์ทรงไม่ได้รับไว้ โดยตรัสว่า ทรงมีเหรียญทองของสมรักษ์อยู่แล้ว ส่วนเหรียญของวิจารณ์นั้นให้เจ้าตัวเก็บไว้เป็นกำลังใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโลก ทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ส่งเหรียญทองมาให้กับสมรักษ์เก็บไว้เป็นเกียรติแก่ตัวเองอีกเหรียญ
ขอขอบคุณที่มาจาก : posttoday.com