กระบือเจ็ดตัว..สมุนไพรเป็นยา แก้ไข้ ดีต่อสตรี
advertisement
กระบือเจ็ดตัว พืชที่เรานิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป โดยนำมาปลูกลงในกระถางประดับตามมุมต่างๆ ของบ้านได้ หรือปลูกเป็นกลุ่มๆ ปลูกลงในแปลงประดับสวนทั่วไป ดูแลรักษาได้ง่าย อยู่ได้ทั้งในสภาพแสงมากและแสงน้อย เป็นไม้พุ่มที่นิยมใช้กันมาก สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี และนับว่าเป็นสมุนไพรอีกชนิดที่มีประโยชน์ดีต่อผู้หญิงเป็นอย่างมาก Kaijeaw.com ขอบอกเลยว่า สาวๆ ห้ามพลาดค่ะ
กระบือเจ็ดตัวมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Excoecaria cochinchinensis Lour. var cochinchinensis มีชื่อพ้อง Excoecaria bicolor Zoll. ex.Hassk.
มีชื่อวงศ์ว่า Euphorbiaceae สมุนไพรกระบือเจ็ดตัว มีชื่อเรียกอื่นๆ ตามท้องถิ่นว่า กะเบือ (ราชบุรี), ใบท้องแดง (จันทบุรี), บัว บัวลา กระทู้ กระทู้เจ็ดแบก (ภาคเหนือ), กระบือเจ็ดตัว กำลังกระบือ ลิ้นกระบือ (ภาคกลาง), ต้นลิ้นควาย, ตาตุ่มไก่, ตาตุ่มนก, ลิ้นกระบือขาว เป็นต้น
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์กระบือเจ็ดตัว เป็นไม้พุ่มขนาดย่อม สูงประมาณ 0.5-1.5 เมตร ตามกิ่งก้านมีน้ำยางสีขาวข้นเหมือนน้ำนม แตกกิ่งก้านมาก มีรูอากาศตามผิวกิ่ง [ads]
ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับเวียนรอบกิ่งหรือออกตรงข้าม รูปใบหอกหรือรูปใบหอกแกมรูปไข่ กว้าง 2-4.5 เซนติเมตร ยาว 4-12 เซนติเมตร ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบสอบ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยตื้นๆ หลังใบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบเรียบสีม่วงแดงเข้ม เส้นแขนงใบ ข้างละ 7-12 เส้น ก้านใบยาว 0.5-1.5 เซนติเมตร หูใบรูปไข่ ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร ดอกช่อกระจะออกตามซอกใบและปลายกิ่ง
ดอกขนาดเล็กสีเหลืองอมเขียว ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้นกัน ออกตามซอกใบหรือปลายยอด ช่อดอกเพศเมียอยู่ส่วนล่าง ส่วนปลายด้านบนเป็นดอกเพศผู้ ช่อดอกตัวผู้เป็นแบบช่อกระจะ ยาว 1-2 เซนติเมตร มีดอกย่อยจำนวนมาก โคนก้านดอกมีใบประดับเล็กๆเรียงซ้อนกัน รูปไข่ กว้างและยาว 1.7 มิลลิเมตร ก้านดอกยาว 1.5 มิลลิเมตร มีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ รูปหอก ขนาดยาว 0.6-1 มิลลิเมตร กว้าง 0.3-0.4 มิลลิเมตร ส่วนปลายจักฟันเลื่อยถี่ เกสรเพศผู้เล็กมากมี 3 อัน อับเรณูรูปกลม สั้นกว่าก้านชุอับเรณูเล็กน้อย ช่อดอกตัวเมียสั้นกว่าดอกเพศผู้ มีดอก 2-3 ดอก ขนาด 1.2-1.5 ถึง 1-1.3 มิลลิเมตร ก้านดอกแข็ง ยาว 2-5 มิลลิเมตร โคนก้านดอกมีใบประดับเล็กๆ และมีต่อมเล็กๆสีเหลือง กลีบเลี้ยงเล็กมี 3 กลีบ รูปไข่ ติดกันที่ฐานเล็กน้อย กว้าง 1.2 มิลลิเมตร ยาว 1.8 มิลลิเมตร รังไข่เล็กสีเขียวอมชมพู กลม เกลี้ยง มี 3 ช่อง ก้านเกสรเพศเมียมี 3 อัน ยาว 2.2 มิลลิเมตร [yengo]
ผลแก่แตก ขนาดเล็ก รูปร่างค่อนข้างกลม กว้าง 8 มิลลิเมตร ฐานตัด ปลายเว้าเข้า ผลมี 3 พู เมื่อแก่แตกเป็น 3 ส่วน เมล็ดรูปเกือบกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 มิลลิเมตร นิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป ออกดอกตลอดปี
สรรพคุณของทางสมุนไพรของกระบือเจ็ดตัว
สรรพคุณ
ใบ – รสร้อนเฝื่อนขื่น ขับเลือดเน่าเสีย ขับน้ำคาวปลาให้สะดวกหลังคลอด แก้อักเสบบริเวณปากมดลูก ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้ไข้ แก้บวมฟกช้ำ ดำเขียว แก้พิษบาดทะยัก ใบตำผสมเหล้าขาว คั้นเอาน้ำกิน แก้สันนิบาตหน้าเพลิง (บาดทะยักในปากมดลูก) ขับโลหิตร้าย แก้สัตนิบาตเลือด แก้ประจำเดือนขัดข้อง ทำให้เลือดกระจาย ใบตำพอกห้ามเลือด กระพี้และเนื้อไม้ ถอนพิษไข้ ถอนพิษผิดสำแดง แก้ร้อนภายใน ยาง ใช้เบื่อปลา
วิธีนำไปใช้
– ใบมีรสร้อนเฝื่อนขื่น ใช้ใบสดประมาณ 7-10 ใบ นำไปตำกับเหล้าขาวหรือเหล้าโรง คั้นเอาน้ำกินเป็นยาขับน้ำคาวปลาหลังคลอดให้สะดวก ขับเลือดเน่าเสียของสตรี แก้อักเสบบริเวณปากมดลูก แก้สันนิบาตหน้าเพลิง (บาดทะยักในปากมดลูก) ขับเลือดร้าย แก้สันนิบาตเลือด แก้ประจำเดือนขัดข้อง ช่วยทำให้เลือดกระจาย
– ใบใช้กินเป็นยาขับเลือดเสีย
– ในชวาจะใช้ใบสดตำพอกห้ามเลือด
– ทำเป็นชา ชงดื่ม โดยใบตากแห้งใช้ชงดื่มเช่นใบชาเป็นยารักษาโรคกษัย
การใช้สมุนไพรในประเทศฮ่องกง จะใช้ทั้งต้นเป็นยาแก้คางทูม ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้หัด แก้ปวดตึงกล้ามเนื้อ
ข้อควรระวัง : มีบางข้อมูลระบุว่าไม่ควรใช้สมุนไพรชนิดนี้ในคนที่มีร่างกายปกติ เพราะจะทำให้เลือดออกในทวารทั้งเจ็ดได้ และต้องใช้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมหรือเภสัชกรรมเท่านั้น (ยังไม่พบแหล่งอ้างอิง) และยังมีข้อมูลที่ระบุด้วยว่าในใบและยางจะมีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อาการเป็นพิษที่เกิดจะขึ้นอยู่กับส่วนของร่างกายที่สัมผัสสาร ส่วนวิธีการรักษานั้นให้รักษาไปตามอาการ ถ้าถูกยางที่ผิวหนังให้รีบล้างออกด้วยสบู่และน้ำสะอาดและทาด้วยครีมสเตียรอยด์ แต่หากเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้งในทันที และควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาต่อไป (ไม่มีแหล่งอ้างอิง)
คุณสามารถนำต้นกระบือเจ็ดตัวมาปลูกประดับบ้าน ให้ความสวยงาม และความร่มรื่นของธรรมชาติได้ง่ายๆ และสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นยาสมุนไพรที่มีคุณค่า หากใครที่กำลังมองหาไม้ดอกไม้ประดับดีๆ ล่ะก็ ห้ามพลาดค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com