สร้างบ้านหลังแรกกับเวลาเกือบ 5 เดือน ด้วยงบประมาณ ล้านต้นๆ
advertisement
มีโอกาสได้สร้างบ้านหลังแรกในชีวิต ตั้งใจจะมาแบ่งปันประสบการณ์ในการสร้างบ้านหลังแรกของผม ซึ่งพยายามรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุดตั้งแต่การสร้าง จนถึงวันส่งมอบงาน หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ
หากเนื้อความในกระทู้ของผมมีข้อบกพร่องหรือผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ
เริ่มจากมีที่ดินที่เคยซื้อไว้อยู่ราวๆ 150 ตร.ว. และมีเหตุจำเป็นให้ต้องย้ายที่อยู่ จึงตั้งใจว่าจะสร้างบ้านบนพื้นที่แห่งนี้ ประมาณงบการสร้างไว้อยู่ที่ 1.2 – 1.3 ล้านบาท ซึ่งผมและครอบครัว(พ่อ แม่ น้อง) ไม่ได้มีความรู้เรื่องงานรับเหมา หรือการก่อสร้างมาก่อนเลย จึงต้องทำการบ้านค่อนข้างหนักครับ
advertisement
โดยเริ่มจากหาข้อมูล หาแบบบ้าน หาแปลนบ้านสวยๆ หลังจากนั้นก็เริ่มมองหาและคุยกับผู้รับเหมาครับ ค่อนข้างหนักใจกับเรื่องนี้ครับเพราะจะไปจ้างบริษัทดังๆก็ไม่ไหวเพราะราคาค่อนข้างสูง ตั้งใจว่าจะหา
ผู้รับเหมาที่ออกแนวบ้านๆ ลูกทุ่งๆหน่อย (แบบว่าคุยกันง่ายๆ ไม่ต้องเป็นระดับบริษัทมีระบบอะไรมากมาย)
advertisement
ซึ่งเพื่อนแม่ก็แนะนำผู้รับเหมาเจ้าหนึ่งมาซึ่งเป็นผู้รับเหมาที่สร้างบ้านให้เพื่อนแม่ที่อยู่ไม่ไกลกับที่ดินที่ผมจะลงมือสร้างบ้านหลังนี้มากนัก ปรึกษากันในครอบครัวก็ตกลงกันว่าเลือกผู้รับเหมาเจ้านี้แหละ (เพราะไม่น่าจะทิ้งงาน)
แรกเริ่มก็มีความลังเลว่าจะสร้างบ้านชั้นเดียวหรือสองชั้น มีกี่ห้องยังไงดี เพราะลังเลในเรื่องของพื้นที่และงบประมาณ
มีการถกกันเรื่องความต้องการต่างๆระหว่างผมพ่อและแม่ จนได้แบบบ้านที่พอใจ
สุดท้ายค่อนข้างบานปลายในส่วนของขนาดบ้านและงบประมาณครับ เพราะความต้องการบางอย่างไม่ค่อยลงตัวกัน [ads]
advertisement
อย่างเช่น แม่ต้องการห้องน้ำที่มีประตูเข้าออกได้ 2 ทาง ในขณะที่ผมไม่ชอบห้องน้ำแบบนั้น เป็นต้น
เมื่อตกลงกันได้สุดท้ายไปลงเอยกันที่บ้าน 2 ชั้น 3ห้องนอน 3ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยรวม 156 ตร.ม. บนงบประมาณ 1.5 ล้าน
พอตกลงกันได้ในส่วนของแบบบ้าน แปลนบ้าน และงบประมาณก็เริ่มส่งให้ผู้รับเหมาถอดราคาออกมาเป็น BOQ ครับ
advertisement
ซึ่ง BOQ ที่ลงนี้เป็นชุดแรกที่ทางผู้รับเหมาถอดออกมารอบแรก ที่ราคา 1.6 ล้านกว่า
สุดท้ายต่อรองกับทางผู้รับเหมาลดสเปคบางอย่าง และทางผู้รับเหมาก็ถอดออกมาได้เหลือ 1.5 ล้านกว่าๆครับ
advertisement
(แต่ใบหลังผมละเลงจนเละไปแล้ว จึงขอนำใบแรกมาให้ดูแทนนะครับ)
นี่เป็น BOQ ที่ถอดออกมานะครับ รวมทั้งแปลนบ้าน ซึ่งมาพร้อมกับสัญญาก่อสร้าง แบ่งเป็นงวดย่อยๆ 12 งวด ก็มีการเซ็นรวมทั้งมัดจำงวดแรกตามเรื่องตามราวไปครับ
เมื่อตกลงเซ็นสัญญามัดจำกันได้แล้วก็เริ่มงานอย่างไม่มีรีรอครับ เพราะดูแล้วฤกษ์ลงเสาเอกใกล้เข้ามาแล้วครับ
advertisement
โดยเริ่มลงมือตีผังและขุดหลุมสำหรับลงเสาในวันที่ 25 ธ.ค. 2558 ครับ
ซึ่งทางช่างที่ขุดดินบอกว่าดินแข็งมาก ทำเอารถขุดเขี้ยวหักไปหลายอันเลย ผู้รับเหมาบอกว่าดินแข็งจะเป็นผลดีต่อบ้านครับ
ยกเสาเอก – เสาโท มีการทำพิธีเอาเคล็ดตามความเชื่อเพื่อความเป็นสิริมงคลกันไปครับผม
คุณพ่อก็เชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร ที่ตั้งใจว่าจะตั้งเป็นพระประธานในวันย้ายเข้าบ้านมาทำพิธีกันไปตามความเชื่อครับผม
ส่วนทางผู้รับเหมาก็เชิญพ่อหนานมาทำพิธีสวดเล็กๆน้อยๆ ครับ ต่อด้วยการยกเสาเอกเสาโทไปตามลำดับครับ
ซึ่งให้ทางคุณพ่อคุณแม่จัดการ ส่วนผมเก็บภาพอย่างเดียวครับ ฮาๆๆ
เริ่มเทคาน และขึ้นไม้แบบเพื่อเทเสาครับ ในส่วนของขั้นตอนการเท คุณพ่อท่านกลัวเรื่องช่องว่างฟองอากาศมากๆ
จึงไปช่วยช่างลงมือกระทุ้ง ตบๆ ทุบๆ ด้วยตัวเอง เห็นท่านว่าได้แผลมาบ้างเล็กๆ น้อยๆ เหมือนกันครับ 55555
ในวันที่เทผมไม่ได้ไป ดังนั้นทั้งการควบคุมงานช่าง รวมถึงการถ่ายภาพเป็นของคุณพ่อทั้งหมดครับ
ก็เริ่มขึ้นไม้แบบเพื่อเทเสาครับ หลังจากเทเสร็จแล้วก็แกะไม้แบบและบ่มเสาด้วยพลาสติกครับ
ผ่านไปถึงช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2559 ก็เตรียมขึ้นไม้แบบเพื่อเทคานชั้น 2 ครับ
และเริ่มเทคานชั้นสองครับ โดยใช้รถยกขึ้นไปเททีละถังๆ
นับถือคนบังคับรถจริงๆ เพราะต้องประคองไม่ให้ถังหก แถมต้องคอยหลบสายไฟฟ้าด้วย เสียวแทนครับ
ส่วนปูนที่เหลือก็นำมาเทเฉลียงหน้าบ้านบางส่วนที่ยังเทไม่เสร็จครับ
advertisement
และเทเสาชั้นสองต่อเลย หลังจากเทเสาชั้นสองเสร็จแล้วนั้นก็ไม่ได้เข้าไปดูหน้างานหลายวันเลยราวๆ 2 สัปดาห์ครับ
กว่าจะได้โผล่กลับไปดูหน้างานอีกครั้ง ชั้นล่างก็ก่อเกือบจะเสร็จแล้วครับ
จำได้ว่าเคยถ่ายรูปช่วงวางแผ่นพื้นสำเร็จชั้นบน กับช่วงผูกเหล็กบันได แต่หารูปไม่เจอครับ เดี๋ยวถ้าเจอจะกลับมาลงเพิ่มให้นะครับ
จากนั้นก็เตรียมขึ้นโครงหลังคา ต่อด้วยมุงหลังคากันครับ โดยใช้แผ่นกระเบื้องหลังคาซีแพคสีเขียวไพรพฤกษ์ครับ
โดยติดแผ่นสะท้อนความร้อนไว้ใต้หลังคาครับ
ก่อเสร็จแล้ว มุงหลังคาเสร็จแล้ว ก็เตรียมกรีดท่อสายไฟ จากนั้นก็จะฉาบปูนครับ
ช่วงนี้ก็เริ่มไล่หาและเล็งๆพวกประตู วงกบ ลูกบิด ปลั๊กไฟ สวิตช์ กระเบื้อง สุขภัณฑ์ต่างๆ ตามร้านก่อสร้างแล้วครับ
เพราะตกลงกับผู้รับเหมาไว้ว่าในส่วนของสเปคโครงสร้างก็ยกให้ผู้รับเหมา ก็เอาตามว่ากันไป
แต่ส่วนของอุปกรณ์บางอย่างภายในบ้าน ก็เลือกซื้อเองขาดเกินอย่างไรก็ไปหักตัดราคากันตามใน BOQ กันไปครับ
เพราะเป็นบ้านที่สร้างอยู่เองต้องการเลือกเองเท่าที่จะเลือกได้ครับ โดยเฉพาะในส่วนที่เราต้องใช้ประจำครับ เราจะต้องอยู่กับมันไปจนเบื่อกันไปข้างหนึ่ง ดังนั้นก็คิดว่าเราควรมีโอกาสเลือกในสิ่งที่เราต้องการได้เอง ถ้าเป็นไปได้ครับ
เรียกว่าเป็นช่วงที่ไปร้านวัสดุก่อสร้างจนเบื่อ จนพนักงานจำได้เลยทีเดียว ไปแทบทุกร้าน ทุกสาขา บางสาขาไปถี่หลายๆรอบ [ads2]
ผมว่าเป็นช่วงที่เหนื่อย แต่สนุกดีเหมือนกันครับ อารมณ์คล้ายๆ สร้างบ้านในเกม The sims เลยครับ
ก็ต่างคนต่างเลือกครับไม่ว่าจะเป็น สี กระเบื้อง ประตู บ้านเลยอาจจะออกมาในสไตล์มิกซ์แอนด์ไม่ค่อยจะแมตช์ กันซักเท่าไหร่ครับ 55555
ช่วงฉาบใกล้เสร็จ สีตัวบ้านภายนอก โดยผมลองออกแบบและหยอดสีเอง ด้วยโปรแกรมของบริษัทจำหน่ายสีครับ
สรุปความเห็นของ ผม พ่อ และแม่ ไม่ตรงกันเลย ผมเลยตัดบทไปว่างั้นสรุปง่ายๆ เอาของผมละกัน จบ…..(แอบเผด็จการ) 5555555
ลองดูแต่ละสีที่หยอดดู พอไหวไหมครับ 5555
ส่วนกระเบื้องห้องน้ำ ก็ลองประยุกต์โดยลองเทสีใส่โปรแกรมเท่าที่พอจะมีในเครื่องครับ
รวมทั้งกระเบื้องที่สั่งไว้ก็เริ่มทยอยเข้ามาส่งของแล้วครับเพื่อเตรียมงานกระเบื้องต่อเลยครับ
ช่างปูกระเบื้องก็ได้เข้ามาเพื่อคุยถึงแบบห้องน้ำและนัดแนะการปูกระเบื้อง
จากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มลงมือโดยไม่รีรอครับ โดยเริ่มปูกระเบื้องห้องน้ำทั้ง 3 ห้องก่อนครับ
โดยในระหว่างนั้นช่างอีกส่วนนึงก็เริ่มลงมือทำรั้วบ้านไปครับ ช่างฝ้าก็เข้ามาตีโครงฝ้า และช่างสีก็เข้ามาทาสีรองพื้นภายในบ้านไปด้วยครับ
จากเดือนมีนาคมดูยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าใดนัก ซึ่งทางผมพ่อและแม่ก็เกรงเรื่องบ้านจะเสร็จไม่ทันกำหนด
แต่ในช่วงกลางๆ เดือนเมษายน 2559 ก็ถือว่าบ้านเริ่มเป็นรูปเป็นร่างค่อนข้างชัดเจนแล้ว
ถือว่าเป็นช่วงเวลา 1 เดือน ที่งานดำเนินไปได้ถือว่าค่อนข้างไวมาก เริ่มจับเฟี้ยมและใส่วงกบอลูมิเนียมของหน้าต่าง
advertisement
และช่วงนี้สุขภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งกระเบื้องปูพื้นที่เลือกๆสั่งๆไว้ ก็ทยอยส่งเข้ามาจากร้านวัสดุก่อสร้างแล้ว
เพราะส่วนใหญ่ทางร้านจะรับฝากได้ 1 เดือน ทางผมก็ไปเจรจาผลัดวันแล้วผลัดวันอีก
จนรู้สึกว่าโอเค ของจะเข้าก็ให้เข้าแล้ว เอาไปวางๆไว้ จะได้เป็นการแอบกดดันผู้รับเหมาไปในตัว 5555 ซึ่งผู้รับเหมาแจ้งว่ายังไม่ได้ติดตั้ง
จึงต้องเสี่ยงกองๆไว้บริเวณก่อสร้าง กลัวว่าจะหายเหมือนกัน แต่โชคดีที่บริเวณนั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโจรกรรมมากนักครับ
จากนั้นก็จะเริ่มปูกระเบื้องผนังครัวครับ ช่วงนี้ก็ประมาณสิ้นเดือนเมษาแล้วครับ
ส่วนช่างปูนก็เทพื้นออกไปทำเป็นทางเดิน กว้าง 1 เมตร รอบตัวบ้านครับ เก็บงานเรื่องสีบริเวณช่องลมหน้าจั่วบ้าน
และเป็นช่วงที่ช่างไฟจะเข้ามาร้อยสายไฟ เพราะทีมช่างฝ้าเตรียมจะเข้ามาทำฝ้าช่วงต้นเดือนพฤษภาคมครับ
เป็นช่วงที่ร้อนมากๆ ชนิดว่าไม่ไหวจริงๆ จึงได้ตัดสินใจในช่วงสุดท้ายก่อนตีฝ้า
ว่าจะใส่ฉนวนใยแก้วกันความร้อนบริเวณเหนือฝ้าครับ เป็นงานเพิ่มเติมซึ่งไม่มีอยู่ใน BOQ ครับ
ซึ่งแรกเริ่มคุยกับทางผู้รับเหมาแล้วว่าจะใส่เพิ่มดีหรือไม่ ผู้รับเหมาก็แนะนำในเบื้องต้นว่า แผ่นสะท้อนความร้อนก็โอเคแล้ว
แต่พอได้เข้าหน้างานทุกวัน รู้สึกว่าบ้านค่อนข้างร้อนครับ บวกกับศึกษาหาข้อมูลแล้วว่าฉนวนใยแก้วน่าจะช่วยเรื่องนี้ได้พอสมควร
จึงตกลงกันและตัดสินใจในนาทีสุดท้ายว่าจะใส่เพิ่มเข้าไปครับ ก็ได้ไปซื้อฉนวนใยแก้วหนา 6 นิ้วครับ ใช้ราวๆ 30 กว่าถุง
ก็เป็นเงินที่บานเพิ่มมาราวๆ หมื่นกว่าบาท ไม่รวมค่าแรงในการปูฉนวนครับ
ส่วนช่างไฟก็เข้ามาร้อยสายไฟ สายสัญญาณทีวี สายLan (เปลี่ยนจากสายโทรศัพท์ทุกจุดภายในบ้านเป็น Lan ทั้งหมดเพราะคิดว่าไม่น่าจะได้ใช้โทรศัพท์บ้านแล้วครับ) ตรงนี้มีปัญหาติดขัดพอสมควร เพราะเป็นช่างไฟคนละทีมกับที่มาเจาะผนังครับ ไม่แน่ใจว่าทำไมทางผู้รับเหมาถึงเปลี่ยนทีมช่าง และทางช่างไฟชุดแรกก็เจาะผนังผิดตามแปลนไปค่อนข้างหลายจุดครับ ทีมช่างไฟชุดหลังเลยต้องมาแก้งานกันพอสมควรครับ
กระเบื้องผนังห้องครัวก็ถือว่าเพิ่มงบจาก BOQ ไปพอสมควรครับทั้งในเรื่องของราคากระเบื้องและปริมาณพื้นที่ที่จะปูกระเบื้อง
เพราะทางผู้รับเหมาปูให้ด้านเดียว ส่วนคุณแม่ต้องการปูผนังอีกด้านด้วย และมีกระเบื้องโมเสค รวมทั้งลายดอกไม้เพิ่มขึ้นมา
advertisement
ซึ่งราคาจะสูงกว่าที่ผู้รับเหมาได้กำหนดไว้ให้ใน BOQ พอสมควรครับ ก็ต้องเจียดเงินเพิ่ม บานๆ ตามกันไปครับ
คุณแม่ชอบสีเขียว อยากจะปูเป็นสีเขียวทั้งหมด ส่วนผมเสนอสีขาวไป
ก็เลยตกลงแบ่งๆ พื้นที่กันไป ของคุณแม่ปูด้านนึง ของผมปูอีกด้านนึง
มีทั้งเขียวทั้งขาว เอาดอกไม้มาตัดเส้นตรงกลางสักหน่อย สภาพออกมาก็พอไปวัดไปวาอยู่ครับ
ในส่วนของฝ้าเพดานชั้นบน ก็ปูฉนวนใยแก้ว
รวมทั้งตีฝ้าปิดด้วยแผ่นยิปซัมบอร์ด ปูๆ เจาะๆ ยิงๆ แปปเดียวก็เสร็จครับ ใช้เวลาวันเดียว เร็วมากๆ
หลังจากชั้นบนตีฝ้าปิดเสร็จเรียบร้อย ช่างฝ้าก็ลงไปทำชั้นล่างต่อ ส่วนชั้นบนก็เริ่มลงมือปูกระเบื้องพื้นทันทีทันใดครับ
โดยเริ่มจากโถงกลางชั้นสอง ปูไล่ไปยังห้องต่างๆ ห้องนอนใหญ่ของพ่อแม่เลือกกันเองเป็นกระเบื้องลายไม้ ผิวด้านๆ หน่อย ไม่ลื่นครับ
ของห้องน้องสาวเป็นกระเบื้องมันวาวสีครีมๆ มีลายนิดหน่อยแบบเดียวกับโถงกลางชั้นสอง
ส่วนห้องนอนของผมเป็นกระเบื้องมันวาวสีขาวล้วนครับ
กระเบื้องส่วนที่ขาดไป อาจจะด้วยการคำนวณพื้นที่พลาดหรือเพราะต้องตัดกระเบื้อง ก็สั่งเพิ่มและทยอยเข้ามาส่งเรื่อยๆ ครับ
เป็นช่วงที่มึนงงเหมือนกัน เพราะกระเบื้องแต่ละแบบแต่ละลายซื้อมาจากหลายๆร้าน ต่างร้าน ต่างสาขากันครับ
พอต้องซิ้อเพิ่มก็มีมึนๆงงๆบ้าง ว่าต้องไปสั่งเพิ่มจากที่ร้านไหนหรือสาขาใดครับ
ชั้นบนทั้งหมดใช้เวลาปูราวๆ 3-4 วันครับ แอบช้านิดๆ เพราะช่างปูกระเบื้องคู่สามีภรรยาปูกันเองอยู่สองคน
(เรียกได้ว่าทั้งบ้านของผมปูแค่สองคนนี้แหละครับ)
แต่ฝีมือถือว่าโอเค งานเนื้ยบใช้ได้ครับ ลองเคาะแล้วแน่นดี มีเสียงโหลงเหลงบ้างนิดหน่อยๆสองสามแผ่น ถือว่าให้ผ่านไปครับ
ปูกระเบื้องชั้นบนเสร็จแล้วก็ลงมือปูชั้นล่างต่ออีกราวๆ 3-4 วันครับ รวมทั้งก่อเค้าเตอร์ห้องครัว
ส่วนชั้นบนก็ทยอยใส่สุขภัณฑ์ต่างๆ เข้าไปครับ
รวมทั้งช่างอลูมิเนียมก็มาทยอยใส่กระจกหน้าต่างรอบบ้านครับ ช่างปูนก็ฉาบเรียบบันได
ช่างสีก็เข้ามาจัดการเรื่องสี เรียกเป็นช่วงที่ช่างเข้าแทบทุกทีมช่าง เดินชนกันไปหมดครับ 555
หลังจากการปูกระเบื้องแล้วเสร็จ ก็เริ่มติดตั้งไฟ ราวบันได และประตูครับ
แต่เรื่องประตูจะมีปัญหาอย่างหนึ่ง ด้วยผมไม่ทราบจริงๆ เห็นลูกบิดสวยๆ ลดราคาบ้าง เลยกะว่าจะซื้อทิ้งไว้
จึงไปซื้อก้านมือจับเปิดประตูแบบ Mortise lock มาไว้ก่อน สำหรับห้องนอน และลูกบิดห้องน้ำต่างๆ
ตัวลูกบิดไม่มีปัญหาครับ แต่ ก้านมือจับแบบ Mortise lock นี่แหละครับ ที่ดันไปซื้อก่อนประตูและมีปัญหาใหญ่ครับ
เพราะว่ามือจับแบบนี้ จะต้องใช้กับประตูที่มีความหนามากพอสมควร (มากกว่า 36-40 มิลลิเมตร) และควรจะเป็นประตูไม้จริง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบานรูปฟัก
แต่ประตูห้องนอนผมอยากได้แบบเรียบๆ มีเซาะร่องเล็กๆน้อยๆ ดูออกแนวโมเดิร์นๆหน่อย ซึ่งมักจะเป็นประตูแบบไม้สังเคราะห์หรือประตูไวนิลบ้าง
ตอนซื้อทางพนักงานก็มีบางส่วนบอกว่าใส่ได้ บางส่วนบอกใส่ยากมีโอกาสเสีย บางส่วนบอกใส่ไม่ได้ ทำให้กังวลเรื่องประตูมาก
ยังโชคดีที่ช่างทำประตูให้ความหวังว่าน่าจะทำได้ จนสุดท้ายเสี่ยงซื้อมาครับ โดยเลือกประตูไวนิลที่มีความหนามากหน่อยครับ
ลองใส่ดูก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง แต่ไม่รู้จะคงทนได้ขนาดไหนครับ ดังนั้นใครจะสร้างบ้าน และสนใจประตูแบบ Mortise Lock ควรคำนึงถึงจุดนี้ด้วยนะครับ
ส่วนประตูหน้าบ้าน จริงๆผมอยากได้ประตูสีขาวที่ออกสไตล์ยุโรปๆหน่อย
แต่คุณแม่ดันไปสั่งประตูไม้สักลายหงษ์มังกรมาจากต่างจังหวัด พร้อมวงกบ โดยที่ผมไม่รู้มาก่อน 55555 ขนมาแบบเซอร์ไพรส์เลย ซึ่งไม่เข้ากับสีบ้านที่ผมเลือกเล๊ยยยย แต่ก็จำใจต้องยอมครับ เพราะราคาค่อนข้างสูง ก็เป็นว่ายอมๆ ท่านไป
ติดตั้งวงกบไปก่อน แต่ไม่ได้มีใครเอะใจอะไร เพราะคิดว่าสั่งมาด้วยกันไม่น่าจะมีปัญหา จนช่างทำประตูมาบอกว่า วงกบเล็กกว่าประตู (วงกบ 160 cm แต่ประตูคู่บานละ 90cm รวม 180 cm ครับ) ทำให้ใส่
ไม่ได้ คุณแม่โทรไปต่อว่าร้านชุดใหญ่ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว [ads3]
สุดท้ายจำต้องแก้ไขเฉพาะหน้า โดยไปซื้อประตูบานคู่มาภายในวันนั้นเลย ก็คุณแม่เป็นคนเลือกอีกเช่นเดิมครับ (ไม่ค่อยเข้ากันอยู่ดี แต่ผมแอบว่าดีกว่าหงษ์มังกรแหะ 5555)
อุปกรณ์ไฟจำพวกเต้าปลั๊ก สวิตช์ หลอดไฟ โคมไฟ ซื้อเองทั้งหมด
มีต่างยี่ห้อปนๆ กันไป ไม่ได้ใช้เหมือนกันทั้งบ้าน เพราะต้องการให้เข้ากับห้องและคำนึงถึงความถนัดและเหมาะสมในการใช้งานจริงครับ
(รวมทั้งราคาครับ ตัวไหน Sale ก็หยิบๆ มา 55555)
ผมก็ได้กำหนดจุดสวิตช์ต่างๆ โดยเขียนเป็นหมายเลขลงบนบรรจุภัณฑ์ของอุปกรณ์
และเขียนเลขระบุดังกล่าวลงไปบนแปลนไฟฟ้าว่าเลขไหนติดตั้งตรงจุดใด
ส่งแปลนให้ทีมช่างไฟ ทำให้ทำงานง่าย แบ่งเบาภาระของช่างไฟครับ ไม่ต้องมานั่งคัดแยกสวิตช์ ถึงเวลาจับใส่ๆ ครับ น่าจะสะดวกดี
ซึ่งหนึ่งทีมช่างไฟยังชมว่าไอเดียดีด้วยครับ อิอิ พอติดตั้งระบบไฟเสร็จวันนั้นก็อยู่ลองดูไฟในช่วงค่ำเลยครับ
14 พ.ค. 2559 วันสุดท้ายของการสร้าง เก็บรายละเอียด ติดเหล็กดัด (ส่วนเหล็กดัดนี้อยู่นอกเหนือ BOQ อีกแล้ว)
และเตรียมที่จะทำความสะอาดบ้านในอีกวันครับ
ถ่ายภาพความหนาของประตูมาให้ดูดูตรงก้านเปิดประตู Mortise Lock
จะใช้ความหนาของประตูค่อนข้างมาก เหลือพื้นที่ตรงความหนาประตูค่อนข้างบาง ไม่รู้จะทนหรือไม่
แต่เท่าที่ทดสอบโยกไปมาๆ ก็ดูโอเคดีครับ
ติดตั้งถังเก็บน้ำขนาด 1000 ลิตรของ พร้อมปั๊มน้ำอัตโนมัติขนาด 350 วัตต์ครับ
14 พ.ค. 2559 วันสุดท้ายของการสร้าง เก็บรายละเอียด ติดเหล็กดัด (ส่วนเหล็กดัดนี้อยู่นอกเหนือ BOQ อีกแล้ว)
และเตรียมที่จะทำความสะอาดบ้านในอีกวันครับ
ถ่ายภาพความหนาของประตูมาให้ดูดูตรงก้านเปิดประตู Mortise Lock
จะใช้ความหนาของประตูค่อนข้างมาก เหลือพื้นที่ตรงความหนาประตูค่อนข้างบาง ไม่รู้จะทนหรือไม่
แต่เท่าที่ทดสอบโยกไปมาๆ ก็ดูโอเคดีครับ
ติดตั้งถังเก็บน้ำขนาด 1000 ลิตรของ พร้อมปั๊มน้ำอัตโนมัติขนาด 350 วัตต์ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับการสร้างบ้าน นับว่าเป็นไอเดียในการสร้างบ้านสำหรับคนที่มองหาไอเดียการสร้างบ้านนะครับ
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : Luv-Lali-Jung