โรงแรมชี้แจงแล้ว เหตุสร้างเลียนแบบนครวัด-นครธม เจ้าของเป็นชาวกัมพูชา

          จากกรณีที่ชาวเน็ตกัมพูชา ได้ออกมาโพสต์จวกโรงแรมไทย โดยทาง เว็บไซต์ขแมร์ไทม์ส ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่อง โรงแรมและรีสอร์ตแห่งหนึ่งบนเกาะพะงัน ซึ่งบนเว็บไซต์ได้อธิบายว่าสร้างโดยได้รับแรงบันดาลมาจาก นครวัด (Angor Wat) ที่เป็นหมู่ปราสาทในประเทศกัมพูชา และเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลก ทำให้ชาวกัมพูชาจึงกล่าวหาว่าโรงแรมดังกล่าวจงใจฉกฉวยทางวัฒนธรรม (cultural appropriation) หรือการนำวัฒนธรรมอื่นมาใช้อย่างไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้อง

        โดยโรงแรมดังกล่าวนั้น คือ โรงแรม Le Palais ตั้งอยู่ใน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีรูปแบบสถาปัตยกรรมคล้ายกับปราสาทนครวัด นครธมของกัมพูชา และมีสโลแกนว่า “Discover the pride of Angkor” ซึ่งบนเว็บไซต์ของโรงแรมระบุว่า “โรงแรมของเราได้รับแรงบันดาลใจจากซากปรักหักพังที่สวยงามของนครวัดที่ตั้งอยู่ในกัมพูชา การตกแต่งอาคารและภายในห้องสร้างด้วยมือ ที่จะทำให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบที่จะพบได้ในกัมพูชา ตื่นตาตื่นใจกับห้องพักที่สวยงามที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เพื่อให้ได้เห็นวิวที่ดีที่สุดของเกาะนี้” 

        ห้องพักของที่นี่จะมีชื่อเรียกในภาษากัมพูชา คือ The Angkor Rooms , The Bayon Rooms และ The Bantey Srei Rooms ซึ่งแต่ละชื่อนั้นเป็นชื่อของสถานที่ทำคัญและเป็นมรดกโลกของกัมพูชา

        ชาวเน็ตกัมพูชามีการวิพากษ์วิจารณ์มากมาย อาทิ นครวัดเป็นสมบัติของกัมพูชา ไม่ถูกต้องที่จะขโมยวัฒนธรรมของเรามาใช้อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม , เป็นเรื่องที่ไทยต้องขออนุญาตจากกัมพูชา , เป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ ที่ขโมยวัฒนธรรมของกัมพูชา [ads]

         ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวอำเภอเกาะสมุย ได้ทำการตรวจสอบ พบว่าโรงแรมดังกล่าว โรงแรมดังกล่าว มีชื่อเป็นภาษไทย ชื่อว่า เลอปาเล่ โฮเทล คับ ตั้งอยู่ใน หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใต้ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะ เป็นโรงแรมขนาดหรู เจ้าของเป็นเป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ชาวกัมพูชา ส่วนภรรยา เป็นชาวไทย มีภูมิลำเนาในจังหวัดสุรินทร์ 

        ล่าสุดทางโรงแรม Le Palais ได้ออกมาชี้แจงผ่านทางเฟสบุ๊กว่า สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นทางโรงแรม ขออภัยทุกท่านเป็นอย่างยิ่งสำหรับเหตุการณ์ความไม่พอใจที่เกิดขึ้น และขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ชี้แจงวิสัยทัศน์จากใจ และความตั้งใจของผู้ก่อตั้งดั้งนี้ค่ะ

         Le Palais Hotel Koh Phangan ได้รับแรงบัลดาลใจจากความงดงาม และอัศจรรย์ของนครวัดที่ตั้งอยู่ในกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาเป็นบ้านเกิดของผู้ก่อตั้ง และยังมีความทรงจำที่พิเศษอยู่ในใจของผู้ก่อตั้งเสมอ ในทางกลับกันประเทศไทยดินแดนแห่งรอยยิ้มของเรา เป็นบ้านหลังที่สองของผู้ก่อตั้งเช่นกัน

         แรงบันดาลใจในการก่อสร้าง มาจากความชื่นชมและหลงไหลในงานศิลป์ การก่อสร้างการตกแต่งทั้งหมดทำด้วยมือและหัวใจจากทีมงานทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา ร่วมมือร่วมใจกันค่ะ อย่างไรก็ตามนครวัดอันยิ่งใหญ่ถือเป็นความอัศจรรย์ และไม่สามารถมีสิ่งใดมาเปรียบเทียบได้

ขอขอบคุณที่มาจาก : ch3thailandnews.bectero.com