สายน้ำผึ้ง..แก้ความดันโลหิตสูง เป็นยาอายุวัฒนะ!!

advertisement
“สายน้ำผึ้ง” เดิมทีมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในเขตอบอุ่นของทวีปเอเชียตะวันออก เช่นในญี่ปุ่น จึงมีชื่อภาษาอังกฤษ ว่า Japanese Honey suckle มีการสันนิษฐานว่าคงมีผู้นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยไม่เกิน 100 ปีมานี้เอง สายน้ำผึ้งนั้นเป็นไม้เถาเลื้อย ดอกมีกลิ่นหอม นิยมปลูกไว้เพื่อได้กลิ่นหอมจากดอกที่หอมในยามเช้า บานได้มากกว่า 1 วัน วันแรกดอกจะบานเป็นสีขาว วันต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ออกดอกได้ตลอด และมีผลทรงกลมสีดำ นอกจากนั้นแล้วดอกสายน้ำผึ้งนั้น ยังมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง รวมถึงส่วนอื่นๆ ของต้นสายน้ำผึ้งเพราะมีสรรพคุณสมุนไพรทางยาได้ทั้งต้นเลยทีเดียว ดังนั้นเรามารู้จักกับพืชชนิดนี้ให้มากขึ้นพร้อม Kaijeaw.com กันค่ะ
advertisement

http://www.knowledge2u.com/wp-content/uploads/2014/09/sainumphung03.jpg
สายน้ำผึ้งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lonicera japonica Thunb. มีชื่อชื่อสามัญว่า Honey Suckle จัดอยู่ในวงศ์ Caprifoliaceae มีชื่อเรียกอื่นๆ ตามท้องถิ่นว่า กิมงิ่งฮวย หยิ่มตังติ้ง (จีนแต้จิ๋ว), เหยิ่นตงเถิง จินหยิงฮัว จินอิ๋นฮวา ซวงฮัว (จีนกลาง) เป็นต้น
advertisement

http://www.samunpri.com/wp-content/uploads/2014/11/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%8711.jpg
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของสมุนไพรสายน้ำผึ้ง ลักษณะเป็นไม้เถา กิ่งสีน้ำตาลเป็นมัน มีขนนุ่ม ใบเดี่ยวเกิดเป็นคู่ตรงกันข้าม มีขนตามเส้นกลางใบทั้งสองด้าน ด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ก้านใบสั้น ดอกมีสีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอม ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกเป็นหลอดยาว 1.5-3 ซม. แยกเป็น 2 กลีบๆ บนมี 4 หยัก กลีบล่างมี 1 กลีบ เกสรเพศผู้ยาวกว่ากลีบดอก
[ads]
advertisement

http://i.stack.imgur.com/B1LdJ.jpg
ผลกลมสีดำ เส้นผ่าศูนย์กลาง 6-7 ซม. เกลี้ยงไม่มีขน
ส่วนที่ใช้ประโยชน์เป็นสมุนไพร ได้ทั้งต้น ดอกตูม เถาสด
สรรพคุณทางสมุนไพรของสายน้ำผึ้ง
advertisement

http://plants.usda.gov/gallery/pubs/loja_017_pvp.jpg
ดอก
– มีรสหวานเย็น ใช้ดอกสดหรือดอกแห้ง นำมาชงดื่มแทนชา จะมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้กระปรี้กระเปร่าและอายุยืน
– นำดอกตูมมาคั้นรับประทานเป็นยาช่วยเจริญอาหาร
– เป็นยาแก้ความดันโลหิตสูง
– เป็นยาเย็นออกฤทธิ์ต่อปอดและกระเพาะอาหาร ใช้เป็นยาขับพิษร้อนถอนพิษไข้ แก้พิษ แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ไข้หวัดใหญ่ มีไข้ตัวร้อน ครั่นเนื้อครั่นตัว
– ใช้เป็นยาแก้ไข้หวัด แก้คอแห้ง ให้ใช้ใบหรือเถา หรือดอกแห้ง 30 กรัม ถ้าเป็นสดให้ใช้ 90 กรัม นำมาต้มกับน้ำกินบ่อย ๆ
– ตำรับยาแก้ไข้หวัด ใช้ดอกสายน้ำผึ้ง 15 กรัม, โหล่วกิง 20 กรัม, เหลี่ยงเคี้ยว 15 กรัม, ใบไผ่เขียว 15 กรัม, เต่าซี่แห้ง 10 กรัม, เก็งสุ่ย 6 กรัม, หงู่ผั่งจี้ 5 กรัม, กิ๊กแก้ 5 กรัม, ใบสะระแหน่ 3 กรัม, และชะเอม 3 กรัม นำมารวมกันต้มกับน้ำรับประทาน
– เป็นยารักษาแผลในปาก
– รักษาระบบทางเดินหายใจติดเชื้อ
– แก้เต้านมอักเสบ
– รักษาปากมดลูกอักเสบเป็นหนอง ให้ใช้ดอกสายน้ําผึ้งแห้ง 1,000 กรัม นำมาบดให้เป็นผง แล้วนำไปแช่กับเหล้าขาว 40 ดีกรี ในปริมาณ 1,500 ซีซี โดยให้แช่ทิ้งไว้ 2 วัน จากนั้นให้กรองเอาแต่เหล้าประมาณ 400 ซีซี ใช้ทาบริเวณปากมดลูก โดยให้ทาติดต่อกันประมาณ 7-12 วัน
– สำหรับผู้ที่เป็นงูสวัดที่ดูเหมือนแผลจะหายดีแล้ว แต่ยังมีพิษของโรคงูสวัดตกค้างในร่างกาย คือมีอาการปวดแสบปวดร้อนและบวม ให้ใช้ดอกสายน้ำผึ้ง 10 กรัม, ใบโด่ไม่รู้ล้ม 10 กรัม, ข้าวเย็นเหนือ 30 กรัม, และข้าวเย็นใต้ 30 กรัม (แบบแห้งทั้งหมด) นำมาต้มรวมกันในน้ำ 1 ลิตร จนเดือด ใช้ดื่มในขณะอุ่นครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยให้ดื่มไปเรื่อยๆ จะช่วยขับพิษของโรคงูสวัดที่ตกค้างในร่างกายออกได้ และอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปในที่สุด
– ช่วยรักษาไส้ติ่งอักเสบ
– ส่วนสรรพคุณของกิมหงึ่งฮวย (ดอกสายน้ําผึ้ง) ตามตำราการแพทย์แผนจีนนั้น ระบุว่ามีรสอมหวานและเย็น มีฤทธิ์ผ่อนคลายและกระจายความร้อน แก้หวัดอันเกิดจากการกระทบลมร้อน ช่วยขับพิษ แก้บิด ถ่ายบิดเป็นมูกเลือด แก้แผลฝี แผลเปื่อย บวม ส่วนกิมหงึ่งฮวยถ่าน จะมีสรรพคุณแก้ถ่ายบิดเป็นมูกเลือด แก้สตรีที่มีอาการตกเลือด อาเจียนเป็นเลือด และมีเลือดกำเดาไหล สำหรับขนาดที่ใช้ ให้ใช้ในขนาด 6-15 กรัม นำมาต้มเอาแต่น้ำดื่ม และห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะเย็นพร่องของม้ามและกระเพาะอาหาร
– ก้านดอกจะใช้เป็นยารักษาอาการไขข้ออักเสบ และคางทูม นอกจากนี้ก้านและดอกยังสามารถนำมาใช้ผสมกันเพื่อรักษาอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนและโรคนิวมอเนียได้ด้วย
[yengo]
advertisement

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b1/Lonicera_japonica2.jpg
เถา
– เถาสดนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาแก้ท้องเสีย ท้องร่วง แก้บิด ถ่ายเป็นเลือด และลำไส้อักเสบ โดยมีการทดลองกับผู้ป่วยแล้วและพบว่ามีฤทธิ์แก้ท้องเสีย
– ตำรายาแก้ท้องร่วง ระบุให้ใช้เถาสด 100 กรัม นำมาสับเป็นท่อนเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อเคลือบ แล้วเติมน้ำลงไป 200 มิลลิลิตร แช่ทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง แล้วต้มด้วยไฟอ่อน ๆ 3 ชั่วโมง แล้วเติมน้ำให้ได้ 100 มิลลิลิตร กรองเอาน้ำมากินวันละ 1.6-2.4 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยให้เพิ่มหรือลดขนาดของยาไปตามอาการที่เป็น แต่โดยทั่วไปให้เริ่มต้นกินครั้งละ 20 มิลลิลิตร ทุกๆ 4 ชั่วโมง เมื่ออาการดีขึ้นก็ให้กินครั้งละ 20 มิลลิลิตร ทุกๆ 6 ชั่วโมง หลังจากนั้นถ้าอาการท้องร่วงหายไปแล้วก็ให้รับประทานต่อไปอีก 2 วัน
– ตำรายาจีนจะใช้เถาสดนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาขับปัสสาวะ
– ช่วยรักษาโรคติดเชื้อบางชนิด
advertisement

https://newfs.s3.amazonaws.com/taxon-images-1000s1000/Caprifoliaceae/lonicera-japonica-ha-dcameron-a.jpg
ทั้งต้น
– ช่วยแก้อาการมึนเมา
– บรรเทาอาการเจ็บคอ
– แก้เหงือกอักเสบ ช่วยรักษาปากนกกระจอก
– เป็นยารักษาโรคลำไส้
– ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร แผลในกระเพาะอาหาร
– มีรสหวานชุ่ม เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อปอดและหัวใจ ใช้เป็นยาขับพิษร้อนถอนพิษไข้ ช่วยทะลวงลมปราณ รักษาไข้อันเกิดจากการกระทบจากปัจจัยภายนอก
– มีสรรพคุณเป็นยาแก้แผลฝีต่างๆ แผลเปื่อย และโรคผิวหนังต่างๆ
– ช่วยแก้อาการปวดหลัง ปวดเมื่อยปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัวและแขนขา ด้วยการใช้ใบหรือเถา หรือดอกแห้งประมาณ 30 กรัม (ถ้าสดให้ใช้ประมาณ 90 กรัม) นำมาต้มกับน้ำกินบ่อย ๆ
– ดอก ใบ เถา ลดน้ำตาลในเลือด แก้ไข้ แก้โรคผิวหนัง รักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้ ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิตสูง แก้ท้องร่วง แก้แผลฝี หนองใน
– ช่วยแก้อาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ รักษาวัณโรคและอาการทางผิวหนังทีเกิดจากโรคซิฟิลิส รวมทั้งผื่นคันทีเกิดจากการติดเชื้อ
– สารสกัดจากดอกมีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย
– จากการศึกษาวิจัยในประเทศจีนยังพบด้วยว่าสายน้ําผึ้งอาจมีสรรพคุณเป็นยารักษามะเร็งบางชนิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งทรวงอก อีกทั้งยังมีการนำไปทดลองใช้เพื่อรักษาเอดส์ด้วยเช่นกัน
วิธีและปริมาณที่ใช้สายน้ำผึ้งเป็นยาสมุนไพร
– แก้ท้องร่วงได้โดยใช้เถาสด 100 กรัม สับเป็นท่อนเล็กๆ ใส่ลงในหม้อเคลือบ เติมน้ำลงไป 200 มิลลิลิตร แช่น้ำไว้ 12 ชั่วโมง แล้วต้มด้วยไฟอ่อนๆ 3 ชั่วโมง แล้วเติมน้ำให้ได้ 100 มิลลิลิตร กรองเอาน้ำรับประทานวันละ 1.6-2.4 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ให้เพิ่มหรือลดขนาดของยาตามอาการ โดยทั่วไปเริ่มต้นให้รับประทาน 20 มิลลิลิตร ทุก 4 ชั่วโมง เมื่ออาการดีขึ้นให้รับประทานครั้งละ 20 มิลลิลิตร ทุก 6 ชั่วโมง หลังจากอาการท้องร่วงหายไปให้รับประทานต่ออีก 2 วัน
– บำรุงสุขภาพ ป้องกันและรักษาโรคได้หลายชนิด ทำได้โดยวิธีที่ทำดื่มได้ง่ายและเร็วทันใจที่สุด คือ การทำชาดอกสายน้ำผึ้ง ทำได้โดยเด็ดดอกสายน้ำผึ้งสดๆ ในช่วงเช้าๆ เพื่อจะได้ดอกสายน้ำผึ้งที่มีกลิ่นหอมมากกว่าเวลาอื่นๆ นำมาล้างฝุ่นละอองต่างๆ ด้วยน้ำ แล้วค่อยๆ สลัดน้ำออก นำใส่แก้ว หรือกาชงชา กดน้ำร้อนใส่ แช่ไว้สักพัก เมื่อเห็นสีของน้ำชาเป็นสีเหลืองอ่อนๆ ก็เทใส่แก้วหรือถ้วยชา พร้อมดื่มอุ่นๆ เป็นชาดอกสายน้ำผึ้ง
– ให้ได้สรรพคุณจากสมุนไพร นำดอกมาต้มน้ำดื่มบ่อยๆ โดยนำดอกแห้ง 30 กรัม ดอกสด 90 กรัม ต้มน้ำร้อน ดื่มบ่อยๆ
สมุนไพรสายน้ำผึ้ง ที่เรานิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปประจำบ้าน และสามารถปลูกให้ขึ้นพันกับต้นไม้หรือรั้วบ้านได้ด้วย นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังมีสรรพคุณดีๆ ที่มากมายเช่นนี้ ก็อย่าลืมเด็ดดอกสายน้ำผึ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับร่างกายของเรากันด้วยนะคะ ดีกว่าปล่อยให้ร่วงโรยลงพื้นเสียไป หรือบ้านไหนที่ยังไม่มีก็ลองหามาปลูกกันก็ดีนะค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com