สาวแก้เผ็ดการไฟฟ้า หลังโทรแจ้งไฟไหม้แล้วเจ้าหน้าที่ไม่รับเรื่อง

      กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวหลังจากที่ได้โทรแจ้งการไฟฟ้า เพราะมีเหตุไฟไหม้สายไฟหน้าโรงแรมแชงกรีล่า เชียงใหม่ แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่รับเรื่อง ทำให้เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไปและถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย "บางที #ผู้บริโภค  ก็อยากรายงานนะว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็เป็นแบบนี้เสมอ…"

“ด้วยความหวังดีเลยโทร.แจ้ง PEA 1129 ว่ามีไฟไหม้สายไฟหน้าโรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่

เรา : มีสายไฟฟ้าไหม้ที่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมแชงกรี-ลาเชียงใหม่ค่ะ

PEA : ค่ะ หมู่อะไร ตำบลอะไรคะ

เรา : ไม่ทราบค่ะ ขับรถผ่านแล้วเห็นเลยโทร.มาแจ้งค่ะ

PEA : ถ้าอย่างนั้นเราไม่สามารถรับเรื่องได้นะคะ ถ้าไม่ทราบหมู่และตำบล

เรา : อ๋อค่ะ งั้นไม่เป็นไรค่ะ ปล่อยมันไหม้ไปแบบนั้นแหละค่ะ

วางสาย

ไท้ไทย”

"ขั้นตอนมีดังนี้ครับ ต้องทำเรื่องกรอกแบบฟอร์มรายละเอียดต่างๆ อุณหภูมิของไฟ ความสูงเสาไฟฟ้า ตำแหน่งที่ตั้งพร้อมวาดแผนที่โดยละเอียด โดยเอกสารทั้งหมดจะต้องจ่าหน้าซองให้เรียบร้อยหย่อนลง ปณ.ทำงานให้เหมาะสมกับยุค 4.0 ครับ"

"เอาตรงๆนะครับขอระบายสักหน่อยระบบการทำงานของหน่วยงานราชการบ้านเมืองเรานี้ช่างทำงานกันซ้ำซากเหลือเกินไม่ได้ตอบสนองรวดเร็วเหมือนตอนเงินเดือนออกเลยของผมเคสนึ่งไปติดต่อกรมที่ดิน(สปก)เรื่องขอแบ่งที่มรดกตั้งแต่พ่อผมเดินเหินสะดวกจนตอนนี้ท่านเสียแล้วก้อยังไม่เสร็จทั้งๆที่หลักฐานทุกอย่างก้อมีครบถึงตอนนี้ก้อล่วงเลยมากว่า7ปีแล้วก้อยังไม่สามารถออกใบให้ได้โทรไปตามก้อโยนให้ถามคนนั้นคนนี้,นี้หรือข้าราชการที่ทำงานกินเงินภาษีของประชาชนหรืออยากได้เงินใต้โต๊ะงานถึงไม่เดิน" [ads]

"ขับผ่านไฟไหม้สายไฟ ตจว แจ้ง 191 รับสาย ให้โทรไป 199 รับสายให้โทรไป อบต เลย บอกไปว่าไม่เป็นไร บ้านไม่ได้อยู่แถวนี้ คิดซะว่าไม่ได้โทรมาแล้วกันนะคะ"

"จริง เคยโทรแจ้งดับเพลิงว่ามีคนสุมไฟเผาขยะตั้งแต่เย็น จน 4-5 ทุ่มยังได้กลิ่นเผาอยู่ ช่วยมาดูหน่อยเกรงจะลามเป็นไฟไหม้กลางดึก เพราะติดกับบริเวณตึกแถวที่อยู่อาศัย ป้าที่รับโทรศัพท์เสียงเนือยมาก แล้วก็พูดทำนองว่า เค้าเผาขยะเดี๋ยวก็คงดับ ด้วยน้ำเสียงเหมือนว่า ถ้ายังไม่ไหม้บ้านก็ไม่ต้องโทร"

"ทุกคอลเซ็นเตอร์ สมควรใช้คนเก่งและรอบรู้เข้าใจและสมารถแก้ปัญหา ของ ซึ่งองค์กรนั้นๆ ขายหรือให้บริการ คือจ้องเก่งแท้ๆจริงๆ แต่ยุคนี้กลับกันมีไว้ฟังคำด่าและส่งต่องานเฉยๆ หรือว่าเราตกสมัยแล้ว"

"พอๆ กันกับแจ้งเหตุ 199 โทรไปแจ้งมีไฟไหม้หญ้าแห้งในที่ดินรกร้างไม่ทราบเจ้าของที่อยู่หลังหมู่บ้าน ไฟไหม้จนมีเสียงดังเหมือนฝนตกห่าใหญ่ใส่สังกะสี เปลวสูงถึงชั้นสอง แล้วลมก็กำลังพัดหาตัวหมู่บ้าน ไอเราก็กลัวมาก รีบโทร 199 แจ้งเหตุ เค้าก็ถามที่เกิดเหตุนะ พอบอกพิกัดไปว่าอยู่ละแวกนี้ ถนนนี้ ติดโรงเรียนนี้เลย เสร็จปั๊บ เจ้าหน้าที่บอกกลับมา อ๋อ ถ้าแถวเขตนั้นมีหน่วยดับเพลิงพื้นที่นะครับ ให้โทรแจ้งดับเพลิงในพื้นที่นั้นนะครับ ห๊ะ!! ละต้องโทรเล่าอีกรอบเหรอ ไม่มีประสานงานกันหน่อยเหรอ ยังดีว่าช่วยบอกเบอร์ให้นะ พอโทรใหม่ก็เล่าอีกรอบ ที่นี้เริ่มถามละเอียด ไฟแบบไหน ไหม้อะไร มีคนไหม รถเข้าได้ไหม เป็นที่ของใคร มีใครเข้าไปดับแล้วบ้าง นาทีนั้นจำเป็นต้องละเอียดขนาดนี้ไหม ไฟมันไหม้จนมาจ่อกำแพงหลังหมู่บ้านเราละ //เราผู้ซึ่งยืนในห้องชั้นสองมือหนึ่งถือโทรสัพ อีกมือต้องถือสายยางต่อก๊อกจากห้องน้ำยืนฉีดน้ำใส่ต้นไม้กับกำแพงบ้าน//"

      ซึ่งจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นมันสะท้อนให้เราได้เห็นในหลายๆ มุม ทั้งเรื่องการทำงานของคอลเซนเตอร์ ความพร้อมของบุคลากรของการไฟฟ้า และระบบการปฏิบัติการต่างๆ ยังล้าหลังอยู่มากจริงๆ

ขอขอบคุณที่มาจาก : ผู้บริโภค