สาวต้องลาออกจากอาชีพแอร์ฯ เพื่อมาแต่งงานกับหมอ ลังเลไม่อยากแต่งงาน
advertisement
คุณ สมาชิกหมายเลข 5976018 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาโพสต์แชร์ประสบการณ์ หลังจากกำลังวางแผนการแต่งงาน แต่ตอนนี้เกิดความรู้สึกลังเล ไม่อยากแต่งแล้ว โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า 'ลังเลที่จะแต่งงาน ทั้งที่เมื่อก่อนอยากแต่งมาก….'
advertisement
เราสมัครพันธิปมาเพื่อตั้งคำถามนี้เลยค่ะ เราไม่สามารถพูดให้ใครฟังได้ ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
เรากับแฟนคบกันมา6 ปีได้แล้วค่ะ มีแพลนว่าจะแต่งงานหลังจากที่สถาณการณ์ช่วงนี้มันดีขึ้น ตอนนี้เราอยู่ต่างประเทศค่ะ กลับไทยอีกทีคือปีหน้าเลย และอาจจะได้แต่งช่วงที่เรากลับไทย เรากำลังยื่นเรื่องลาออกกับทางสายการบิน เราเป็นแอร์ค่ะ ก็ทำมาได้4 ปีแล้ว เราเสียใจมากที่ต้องลาออกเพื่อไปแต่งงาน กว่าจะได้ทำงานเป็นแอร์ กว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้มันยากมากๆสำหรับเรา
แฟนเป็นทันตแพทย์ทำงานทุกวัน ทำที่รพ. เลิกงานก็มาทำคลินิกต่อ ส-อ ก็ไม่ได้พัก ในช่วงเวลาที่คบกัน ค่อนข้างจะเจอกันลำบากค่ะ เพราะเราทำงานไม่เป็นเวลา เช่น คนอื่นหยุด แต่เราบินไปทำงาน จะกลับบ้าน เราต้องแพลนล่วงหน้าเป็นปีเลยค่ะ พอกลับไทยเราก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวซะส่วนใหญ่ เราจะไปหาแฟนที่คลินิกในสองวันสุดท้ายที่ต้องกลับไปบิน แต่พอไปหาเขาก็ทำงาน เราก็ได้แต่นั่งรอเขาทำงานเสร็จ เป็นแบบนี้มาตลอด6 ปีที่คบกัน เราก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าอยู่มาได้ไง ช่วงปีแรกที่คบกัน ตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นแอร์ก็ทำงานกับบริษัททัวร์ปกติ หน้าที่การงาน การเงิน ตอนนั้นเราพร้อมมาก อายุก็จะแตะเลขสามอยู่แล้ว เลยอยากแต่งงาน แต่แฟนเราเขายังไม่พร้อม เพราะช่วงนั้นแฟนเพิ่งเปิดคลินิกด้วย และมันก็เร็วไปด้วยที่จะแต่งงาน จนเราเป็นแอร์ต่างคนต่างทำงาน ยิ่งไม่มีเวลาให้กัน แต่เราไม่เคยคิดน้อยใจกันเลยค่ะ ก็ไม่รู้ทำไม เพราะอะไร เราก็งงนะคะ นี่มีแฟนแบบไหนกัน เคยไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ แต่เราก็ไม่ได้สนใจ เขาก็ไม่ได้สนใจ
ที่น่าแปลกคือ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยทะเลาะกันเลย จนเมื่อไม่นานเรากลับไทย ก่อนที่โควิดจะระบาด เขาขอเราแต่งงาน เราดีใจมากนะคะตอนนั้น แต่พอบินไปทำงานต่อ มันเกิดคำถามในหัวที่ว่า "เราอยากแต่งงานจริงหรอ? " ความรู้สึกเรามันต่ำลงแบบบอกไม่ถูก จนบางครั้งเราเผลอร้องไห้ทั้งที่ไม่เคยร้องมาก่อน แล้วเราต้องลาออก เสียงานที่เรารักมากๆ ไปใช้ชีวิตแม่บ้าน ไปเป็นผู้ช่วยทันต มันตลกร้ายมากเลยอ่ะ และตลกที่สุดคือทุกคนรอบข้างเราพากันบอกอิจฉาเรา จะได้อยู่กับแฟนแล้ว แถมเป็นผู้ช่วยทันตอีก…..555 มันบ้ามากเลยอ่ะ มันไม่ใช่เรื่องน่าอิจฉาเลย ชีวิตจะวนเวียนแค่คลินิกและบ้าน มีสามีก็คุยศัพท์อะไรก็ไม่รู้กับเราในทุกๆวัน งี้หรอ……? ตอนนี้เรางงหมดแล้ว เราไม่รู้ว่าถ้าเราแต่งงาน เราจะใช้ชีวิตแบบมีความสุขได้จริงไหม แฟนก็บ้างาน วันนึ่งคุยกันไม่เกินสิบคำ เราบอกไม่ถูกเหมือนกันกับความรู้สึกนี้ มีแฟนเหมือนไม่มี เราไม่รู้แล้วว่า เรายังรักเขาอยู่ไหม หรือที่เหลืออยู่มันแค่ความผูกพันธ์ เราไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตค่ะ เรายังอยากแต่งงานอยู่ไหมเราก็ตอบตัวเองไม่ได้ เราควรทำยังไงต่อ เราคิดเรื่องนี้ทุกวัน ยิ่งคิดยิ่งเคลียด ทางครอบครัวก็เตรียมหาวันจะแต่งแล้ว ทุกคนดูมีความสุขที่เราจะแต่งงาน แต่ทำไมเราถึงไม่มีความสุขเลย มันหลายครั้งมากที่เรารู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญแต่ก็หาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองปลอบใจตัวเองไปว่าแฟนทำงานหนัก….. บอกเราทีค่ะ ว่าควรเดินไปทางไหน T-T [ads]
จากความคิดเห็น
advertisement
อันนี้เคยมีข่าวมา
advertisement
ดูยังรักอิสระอยู่เลย
advertisement
มีอาการแบบนี้เพราะต้องลาออกจากงาน
advertisement
มันคบกันนานจนอิ่มตัว
advertisement
ก็อย่าไปยอม
advertisement
ไม่แปลกหรอกที่ใครก็อิจฉา
โดยจากกระทู้นี้ก็มีชาวเน็ตหลายท่านได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย สำหรับคู่นี้อาจจะคบกันมานานจนความรักอิ่มตัว และหากต้องแต่งงานแล้วฝ่ายหญิงต้องออกจากงานมาพึ่งพาฝ่ายชาย ก็คงต้องกลับไปพิจารณาใหม่
ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 5976018