9 สาเหตุ ..ที่ทำให้ปวดหลังไม่หายซักที!!
advertisement
อาการปวดหลังอาจเกิดขึ้นได้บ่อยๆ และหายไปโดยที่ไม่ได้รับการรักษา และบางครั้งอาจเกิดได้บ่อยๆ นั้น คุณอาจคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่มันอาจพัฒนาไปถึงขั้นที่ทำให้คุณต้องเข้ารับการรักษาที่ยุ่งยากก็เป็นได้ และที่สำคัญอาการปวดหลังนั้นไม่ได้เกิดจากความเสื่อมตามวัยอีกต่อไป มาจากสาเหตุอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อม Kaijeaw.com กันเลยค่ะ
advertisement
1. นั่งอยู่กับโต๊ะทำงานนานเกินไป
โดยเฉพาะงานที่ต้องยุ่งยากอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน พิมพ์งานไม่ได้หยุด อาการเกร็งปวดหลังย่อมเกิดขึ้นได้
> อย่างไรดี : การที่ต้องทำงานอยู่ในท่าเดิมนานๆ ควรจัดท่านั่งใหม่ คือนั่งให้หลังตรง และนั่งในท่าที่แผ่นหลังด้านล่างแนบชิดกับเก้าอี้ เพื่อช่วยรองรับแผ่นหลังไม่ให้โค้งงอ ลำตัว และศีรษะตั้งตรงไม่โน้มเอียงมาข้างหน้า และ สามารถพิงหลังติดกับพนักพิงได้เป็นบางครั้ง เพื่อความผ่อนคลาย และที่สำคัญควรหาเวลาพักสายตา ได้ลุกเดินไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง
[ads]
advertisement
2. ขับรถนานๆ และผิดท่า
บ่อยครั้งที่ต้องขับรถนานถึง 3-4 ชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมาย เพราะท่านั่งที่เอียงไปข้างหน้ามากเกินไปหรือเอนหลังมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
> อย่างไรดี : ควรพยายามนั่งหลังตรงๆ 90 องศา และยืดแขนได้ตามสะดวก ไม่ใช่แขนหดเกร็ง เพราะพนักเก้าอี้อยู่ชิดพวงมาลัยมากเกินไป และถ้าเราทำท่านี้ได้เหมือนเป็นวิถีชีวิตประจำวัน รับรองว่าอาการปวดหลังจะไม่ถามหาอย่างแน่นอน
advertisement
3. ไม่ออกกำลังกาย
การที่เราเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลานั้น จะช่วยให้กล้ามเนื้อหลังผ่อนคลายมากถึง 40% การออกกำลังกายยังเป็นการพัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย
> อย่างไรดี : เน้นออกกำลังที่ช่วยให้สะโพกและเอ็นร้อยหวายทำงานได้อย่างเต็มที่ อย่างการเดิน หรือเลือกเป็นโยคะก็ดีค่ะ
advertisement
4. ออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างไม่ถูกต้อง
ท่ากายบริหารอย่างชิตอัพและครันช์ ที่ไม่ถูกวิธีส่งผลให้กล้ามเนื้อหลังเจ็บปวดขึ้นมาได้
> อย่างไรดี : ท่าบริหารหน้าท้องนั้นต้องเน้นเกร็งกล้ามเนื้อท้อง ไม่ใช้แรงที่หลังช่วย และควรทำช้าๆ ศึกษาวิธีทำอย่างถูกต้อง
advertisement
5. กินแต่ของไม่มีประโยชน์
อาหารที่ดีและมีประโยชน์ จะช่วยบำรุงร่างกาย ให้หลอดเลือดลำเลียงสิ่งมีประโยชน์เข้าสู่ร่างกาย และช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย หากกินอาหารไม่มีประโยชน์บ่อยๆ มีส่วนจะทำให้เส้นเลือดอุดตัน ยิ่งถ้าไปอุดตันบริเวณกระดูกสันหลังด้วยแล้วละก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้
> อย่างไรดี : รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นทานธัญพืช นมถั่วเหลือง ถั่ว และโปรตีน เช่น ไก่ ปลา เนื้อไม่ติดมัน ผักสด และผลไม้สด ปรุงสุกสดใหม่ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแช่แข็ง และอาหารที่ใส่สารกันบูด อาหารที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
advertisement
6. การสะพายกระเป๋าใบใหญ่และหนัก
หากกระเป๋าคู่ใจของคุณเป็นกระเป๋าใบใหญ่ๆ และหนักๆ นั่นสามารถทำร้ายกล้ามเนื้อไหล่ และลามไปสู่แผ่นหลังได้ง่ายๆ
> อย่างไรดี : เลือกใช้กระเป๋าใบกระทัดรัด น้ำหนักเบา และเลือกใส่ของให้น้อยลง
advertisement
7. ที่นอนไม่เหมาะ
ฟูกนอนที่แข็งหรืออ่อนยวบเกินไปมีผลต่อการกดน้ำหนักของหลัง มากหรือน้อยเกินไปไม่ดี
> อย่างไรดี : เลือกที่นอนที่นอนแล้วรู้สึกสบาย หากจำเป็นต้องนอนที่นอนอ่อนยวบเกินไป เวลานอนราบควรใช้หมอนหนุนใต้เข่า เพื่อให้แผ่นหลังแนบชิดกับตัวฟูก เพื่อป้องกันอาการปวดหลังที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนใครที่ชอบนอนตะแคงก็เอาหมอนข้างมาเสียบกลางหว่างขา เพื่อความสะดวกสบายในการนอนของคุณ
8. ใส่รองเท้าส้นสูงเดินทั้งวัน
มีส่วนทำให้หลังโค้งงอและกระดูกสันหลังทำงานหนักมากขึ้น นอกจากนั้นการยืนบนส้นสูงแบบเขย่งเท้าอยู่ตลอดเวลา จะทำให้แผ่นหลังมีอาการปวดได้
> อย่างไรดี : หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงๆ ตลอดเวลา ควรหารองเท้าแตะมาเปลี่ยนเวลาอยู่ในที่ทำงาน รวมทั้งหาแผ่นรองเท้านุ่ม ๆ มาเสริมรองเท้าส่นสูง หรือรองเท้ากีฬาเพื่อช่วยลดอาการปวดหลังที่มีอยู่ได้
[yengo]
advertisement
9. อาการเครียด
เพราะความเครียดจะส่งผลให้ กล้ามเนื้อตึงเครียดอยู่ตลอดเวลาด้วย รวมไปถึงกล้ามเนื้อส่วนหลัง
> อย่างไรดี : ใช้เวลากิจกรรมสนุกๆ มีความสุข เพื่อจิตใจเบาสบาย กล้ามเนื้อจะได้ผ่อนคลาย อาจเลือกการออกกำลังกาย หาหนังสือดี ๆ มาอ่าน และที่สำคัญควรหาเพลงสบาย ๆ มาฟัง เพราะการฟังเพลง จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และส่งผลให้อาการปวดหลังทุเลาลงไปได้
เรื่องอาการปวดหลังนี้ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ห่างตัวเราเสียทีเดียวนะคะ อย่าปล่อยให้อาการปวดหลังทำร้ายคุณ ปรับวิถีชีวิตของคุณ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ปวดหลัง พักผ่อนอย่างเพียงพอ และหากว่าคุณรู้สึกปวดหลังมากจนเกินไป ควรเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com