สุดยอดไปเลย!! ‘โรงเรียน’ แห่งนี้ ที่เดียวในไทย ไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน ไม่มีเกรดและไม่ต้องสอบ!!
![](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-1024x512.jpg)
advertisement
เรียกได้ว่าเป็นข่าวทางการศึกษาที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตออนนี้เมื่อมีสถานที่เเห่งนี้มีชื่อว่า โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นโรงเรียนอินเตอร์สุดๆทั้งการแต่งกายของนักเรียนและเรื่องระบบการให้ความรู้ นอกจากจะมีชื่อมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยการันตีแล้ว ที่นี่ยังได้เปิดตัวระบบการสอนพร้อมกับหลักสูตรการเรียนการสอนที่ไม่เหมือนโรงเรียนใดในประเทศ จะเป็นอย่างไรบ้างไปชมกันเลยค่ะ
advertisement
![โรงเรียน-1](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-1.jpg)
สาธิตแห่งใหม่ของประเทศไทย
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยตั้งอยู่ติดกับคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ ซึ่งเป็นคณะน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดรับนักศึกษาได้ 2 รุ่น หลายคนเข้าใจว่าคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์มุ่งเน้นผลิตครู ซึ่งก็ไม่ผิด แต่จริงๆ แล้ว คณะนี้เน้นสร้างบุคลากรที่สามารถเข้าใจความหมายของการเรียนรู้และการศึกษาจากหลากหลายสาขา ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเป็นครูอาจารย์ก็ได้
advertisement
![โรงเรียน-2](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-2.jpg)
แน่นอนว่าหลักสูตรของคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ และ หลักสูตรมัธยมของสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ย่อมมีความเชื่อมโยงกัน นักเรียนในโรงเรียนจึงถูกคาดหวังให้เข้าใจความหมายของการเรียนรู้และการศึกษาจากหลากหลายสาขา จึงก่อให้เกิดหลักสูตรที่เน้น การบูรณาการ นั่นเอง ว่าแต่ ที่กำลังพูดถึงจะเป็นยังไงนั้น ต้องลองอ่านต่อเรื่อยๆ
advertisement
![โรงเรียน-3](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-3.jpg)
ตารางแต่ละวันในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเข้าแถวเคารพธงชาติ เพราะที่นี่ไม่มีการเข้าแถวตอนเช้า แต่ในทุกวันจันทร์ตอนเช้า จะมีกิจกรรมให้นักเรียนร้องเพลงก่อนเริ่มเรียนในคาบแรก เช่น เพลงยูงทอง
advertisement
![โรงเรียน-4](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-4.jpg)
หลักสูตรบูรณาการที่ไม่เหมือนที่ไหน
อาจารย์ศิริรัตน์ ศิริชีพชัยอนันต์ ผู้อำนวยการโรงเรียน และ อาจารย์สิทธิโชค ทับทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและกระบวนการเรียนรู้ ได้เล่าถึงหลักสูตรของโรงเรียนว่า
เพิ่งมีการเปิดรับนักเรียนรุ่นแรกเมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา เท่ากับว่าในตอนนี้มีเพียงนักเรียนชั้น ม.1 จำนวนประมาณ 100 คน ใน 4 ห้องเรียน และอาจารย์อีกประมาณ 30 ท่าน พร้อมกลุ่มวิชาทั้งหมด 5 วิชาที่นักเรียนจะต้องเรียน ได้แก่[ads]
กลุ่มประสบการณ์มนุษย์และสังคม
กลุ่มวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
กลุ่มสุนทรียศิลปะ
กลุ่มภาษาและการสื่อสาร
กลุ่มสุขภาพและสุขภาวะ
advertisement
![โรงเรียน-5](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-5.jpg)
โดยแต่ละกลุ่มวิชา จะสอนประมาณ 2 คาบต่อสัปดาห์ ตกคาบละ 1 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มวิชาที่ทางโรงเรียนเน้นให้เป็นพิเศษคือกลุ่มภาษาและการสื่อสาร นักเรียนจะได้เรียนภาษาอย่างเข้มข้น(ไทย อังกฤษ จีน
คำถามต่อมาคือ หากขึ้น ม.2 ไปแล้ว กลุ่มวิชาไหนที่จะถูกเน้นเป็นพิเศษ? คำตอบคือ หลักสูตรของโรงเรียนในช่วงแรกนั้นจะถูกวางแบบปีต่อปี เนื่องจากเพิ่งมีนักเรียนเพียงรุ่นเดียว การจะวางหลักสูตรปีต่อๆ ไป จำเป็นจะต้องประเมินดูผลการเรียนของเด็กก่อนว่า ผลออกมาเป็นเช่นไร เพราะจะต้องปรับให้เหมาะสมกับเด็กที่สุด นั่นแปลว่าทางโรงเรียนจะต้องดูแลจับตามองนักเรียนอย่างใกล้ชิดเพื่อนำผลสะท้อนนั้นมาสร้างหลักสูตรในปีต่อไป
advertisement
![โรงเรียน-6](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-6.jpg)
ไม่มีการตัดเกรดให้นักเรียน
แล้วมีการสอบหรือไม่? ที่นี่จะไม่เรียกว่าการสอบ แต่เป็น สัปดาห์การวัดผลและการประเมิน เทอมละ 2 ครั้ง โดยอาจารย์แต่ละกลุ่มวิชาจะออกแบบการวัดผลที่ไม่ใช่เพียงข้อสอบกาชอยซ์ แต่อาจจะวัดผลจากพฤติกรรมในห้องเรียนของนักเรียนคนนั้นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ อาจจะมีสอบบ้างตามความเหมาะสม เช่น มีอาจารย์ท่านหนึ่งเล่าว่า การประเมินในรายวิชาภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ อาจจะให้โจทย์นักเรียนไป แล้วให้นำไปแปลงเป็น Mapping กลับมาส่ง
สิ่งที่น่าสนใจคือ ไม่มีการตัดเป็นเกรด 4 3 2 1 0 แต่จะเป็นคำอธิบายผลการประเมินเพื่อให้ผู้ปกครองได้รับทราบความก้าวหน้าทางการเรียนของบุตรหลาน อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตนักเรียนต้องการนำผลการประเมินนี้ไปสมัครเพื่อเข้าศึกษาที่อื่น ทางโรงเรียนก็สามารถตีผลประเมินกลับมาเป็นเกรดให้ได้อย่างหายห่วง
advertisement
![โรงเรียน-7](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-7.jpg)
จากภาพบน จะเห็นว่ามีอาจารย์ผู้สอน 2 ท่าน ใช่แล้ว! ในคาบเรียนต่างๆ อาจาย์จะสอนคู่กัน แน่นอนว่าก่อนจะเริ่มทำการเรียนการสอน อาจารย์จะต้องมีการพูดคุยหารือเนื้อหาการสอนเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เท่ากับว่า แม้แต่ตัวอาจารย์เองก็ต้องเตรียมตัวอย่างเข้มข้นเลยทีเดียว
โดยตารางสอนของที่นี่จะเปลี่ยนทุกเดือน เพราะต้องปรับตามความพร้อมและความเหมาะสมของนักเรียน เช่น ในช่วงเปิดเทอมแรกๆ อาจจะเน้นหนักไปที่กลุ่มวิชาสังคม ทำให้มีคาบเรียนสังคมมากกว่าวิชาอื่น แต่พอกลางเทอม เริ่มเน้นที่วิทยาศาสตร์มากขึ้น ก็จะไปลดคาบเรียนวิชาสังคมแทน
ทำไมจึงไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน?
และคำถามยอดฮิตที่หลายคนต่างพากันสงสัย ทำไมนักเรียนที่นี่ไม่จำเป็นต้องแต่งชุดนักเรียนมาเรียน? ขอบอกว่านี่ไม่ใช่กฎระเบียบข้อบังคับที่มีมาแต่แรก แต่เกิดจากการพูดคุยหารือกันระหว่างครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และตัวของนักเรียนเอง ที่มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การให้นักเรียนได้มีสิทธิ์เลือกเสื้อผ้าชุดไปรเวตเองนั้น เป็นโอกาสที่เด็กจะได้เรียนรู้ผ่านสิ่งที่พวกเขาเลือกและตัดสินใจด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ทุกวันจันทร์และพฤหัสบดีเป็นวันที่นักเรียนจะต้องแต่งชุดนักเรียนมา เพราะมีตลาดนัดภายในมหาวิทยาลัย จะได้แยกออกว่าใครเป็นนักเรียนหรือเป็นบุคคลภายนอก (หรือใครจะใส่ชุดนักเรียนมาทุกวันก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้)
advertisement
![โรงเรียน-9](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-9.jpg)
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า การที่นักเรียนใส่ชุดไปรเวตมาโรงเรียน ยิ่งทำให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนว่าบ้านใครมีฐานะมากกว่า ถือเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนหรือไม่? ซึ่งอาจารย์ได้ให้คำตอบว่า เท่าที่ผ่านมา ทางโรงเรียนยังไม่พบปัญหานี้เลย เด็กส่วนมากแต่งตัวง่ายๆ เน้นความสุภาพและคล่องตัว ปัญหาบางอย่างนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คิดล่วงหน้าไปก่อนเด็ก
อาจจะมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เช่น เด็กบางคนใส่กางเกงขาสั้นมาเรียน ในขณะที่เด็กบางคนใส่กางเกงขายาว ทำให้ตัวเด็กเองเกิดคำถามว่า แบบไหนถึงเรียกว่าสุภาพกันแน่? ซึ่งทางโรงเรียนจะไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือบังคับ แต่จะเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มานั่งคุยกันเพื่อแสดงความเห็นในมุมของตนเอง จนได้ข้อตกลงเป็นที่พอใจร่วมกัน
advertisement
![โรงเรียน-11](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-11.jpg)
สวยงามมาก
ออกกำลังกายกัน
advertisement
![โรงเรียน-13](https://kaijeaw.com/wp-content/uploads/2017/10/โรงเรียน-13.jpg)
"Club" หรือชมรม เป็นกิจกรรมที่นักเรียนให้ความสนใจและกระตือรือร้นที่อยากจะเข้าร่วมมากๆ ในช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 โมงของแต่ละวัน จะมีกิจกรรมของชมรมต่างๆ หมุนเวียนกันไป เช่น วันอังคาร เป็นชมรมศิลปะ หรือ วันพุธ เป็นชมรมเกี่ยวกับกีฬา ทั้งว่ายน้ำ แบดมินตัน ปิงปอง
ภาพบนคือโรงอาหารของเรียนหรือที่เรียกว่า ครัวรักษ์โลก ตั้งอยู่ด้านข้างของตัวอาคารเรียน ดูแลโดยศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เวลาพักกลางวันคือ 11.30 น. – 12.30 น. โดยค่าอาหารกลางวันจะรวมอยู่ในค่าเทอมแล้ว (ไมมีขนมขบเคี้ยวขาย)[ads]
ดูไฮโซมาก
วิธีการรับเข้าศึกษา
สำหรับการรับเข้าศึกษานั้น จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อออกข้อสอบ ร่วมกันระดมความคิดและออกแบบเนื้อหา ที่เน้นวัด attitude การแก้ปัญหา และกระบวนความคิด ส่วนนักเรียนที่สนใจจะเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในปีการศึกษาหน้า สามารถสมัครได้ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน และเปิดเทอมวันที่ 15 สิงหาคมปีหน้า ค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 100,000 บาทต่อปี
สิ่งสำคัญที่่สุดคือ ผู้ปกครองที่ต้องการส่งบุตรหลานเข้าเรียนที่นี่ควรทำความเข้าใจหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนอย่างชัดเจน โดยสามารถมาเข้าร่วมโอเพนเฮาส์เพื่อเยี่ยมชมโรงเรียนได้
และคำถามที่ว่าจะมีการเปิดรับมัธยมปลายหรือไม่? ทางโรงเรียนตอบว่า ต้องประเมินความพร้อมอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาจจะยังไม่ใช่ในปีสองปีนี้ อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตคือ ถ้าเข้าเรียนที่นี่ จะมีโควตาเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หรือเปล่า? เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต แต่ไม่ได้หมายความว่า จะได้เข้าเรียนทันทีอัตโนมัติ จะต้องมีเกณฑ์ในการคัดเลือกที่เสมอภาคแน่นอน
ทางโรงเรียนปิดท้ายกับทีมงานเด็กดีว่า เป้าหมายของการเรียนการสอนนั้น เป็นไปเพื่อพัฒนาตัวนักเรียนที่จะกลายเป็นผู้ขับเคลื่อนสังคมในอนาคต ให้เป็นคนที่สามารถสร้างนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้กับสังคมได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตามองมากทั้งตัวนักเรียนและตัวหลักสูตร เพราะหลักสูตรการเรียนการสอนของที่นี่ก็น่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงและความคึกคักให้กับวงการการศึกษาไทยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ว่าแล้วก็ไปชมคลิปกันเลยค่ะ
ต้องบอกเลยว่าเป็นโรงเรียนสมัยใหม่ที่มีแนวคิดและระบบการสอนที่เจ๋งมากเลยทีเดียว เห็นแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กแล้วไปเรียนอีกครั้งจังเลยอิอิ
ขอขอบคุณที่มาจาก : dek-d.com