หนุ่มปล่อยไฟแนนซ์ยึดรถ แต่ต้องจำฝังใจ เข็ดไม่มีวันลืม
advertisement
คุณ ล่องเรือหารัก ได้ออกมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์ หลังจากที่ปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถ แต่ต้องเข็ดจำฝังใจไม่มีวันลืม โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า 'อยากเล่าให้ฟังถึงคนที่มีความคิดอยากเปลี่ยนรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ ด้วยการปล่อยรถที่ยังผ่อนไม่หมดให้ไฟแนนซ์ยึด
..เรื่องคือเมื่อนานมาแล้ว เคยออกรถมอเตอร์ไซค์มาคันหนึ่งโดยออกรถในชื่อเราและให้พี่สาวเป็นคนค้ำ ตอนนั้นก็กะว่าจะเอามาใช้งานไว้ในบ้าน ที่นี้ เกิดมีปัญหากับแฟนที่คบกันอยู่ คือต่างคนต่างไปก็เลยไม่อยากจะใช้รถมอเตอร์ไซค์คันนี้อีกแล้ว ทั้งที่รถพึ่งออกมาได้แค่ 3 เดือนเอง เลขไมล์ก็ประมาณ 2-3,000 โล ก็เลยตัดสินใจโทรหาบริษัทไฟแนนซ์ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ผ่อนต่อแล้วให้มาเอารถไปได้เลย เหมือนเจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากมานะ จนต้องโทรไปตามหลายรอบกว่าจะส่งคนมารับรถไปได้ โดยตอนนั้นไม่มีเรื่องค้างค่างวดรถแต่อย่างใด รถก็ส่งคืนแบบสภาพ 99% เลยที่เดียว นึกๆ ก็เสียดายนะ แต่ไม่อยากมีความทรงจำกับรถคันนี้อีกแล้วเลยตัดใจ
จดหมายฉบับแรก ส่งมาหลังจากคืนรถไปสองเดือน ในเนื้อหาระบุว่าบริษัทไฟแนนซ์ได้รับความเสียหาย จึงเรียกค่าขาดประโยชน์ ด้วยยอดเงินประมาณเจ็ดพันกว่าบาทเราก็ไม่สนใจนะ เพราะว่าไม่ได้ค้างค่างวด รถก็ส่งคืนในสภาพเรียบร้อย
advertisement
จดหมายฉบับที่สอง ส่งตามมาหลังจากนั้นสักหกเดือนต่อมา ทางไฟแนนซ์ก็ส่งมามีเนื้อหาประมาณว่ากำลังจะเอารถไปปล่อยประมูล ให้เราไปติดตามดูเพื่อความโปร่งใสและคัดค้านถ้าเห็นว่าราคาไม่เป็นธรรม เราก็ไม่ได้สนใจเพราะถือว่าทุกอย่างขาดจากกันแล้วนับจากวันที่ส่งรถคืนกลับไป
จดหมายฉบับที่สาม ส่งมาแจ้งว่ารถมอเตอร์ไซค์ได้ประมูลไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีราคาประมูลประมาณหนึ่ง เราจำไม่ได้แล้วนานมาก รู้แต่ว่ามันประมาณครึ่งนึงของราคารถ ที่นี้ไฟแนนซ์ก็แจ้งตัวเลขที่เราจะต้องชดใช้ค่าขาดประโยชน์อีก ด้วยการเอายอดค่างวดรถที่เราจะต้องส่งทั้งหมดรวมดอกเบี้ยเป็นตัวตั้ง แล้วลบด้วยยอดค่างวดสามเดือนที่เราจ่ายไป แล้วลบด้วยยอดราคาประมูลที่ขายได้ เหลือเท่าไหร่ไฟแนนซ์เรียกเก็บกับเราโดยให้เราติดต่อกลับเพื่อเจรจาประนอมหนี้ แน่นอนว่าเราเงียบ…ไม่ติดต่อกลับ [ads]
จดหมายอีกหลายฉบับทยอยส่งมาเรื่อยๆ หลังนั้นสักปีสองปี ก็เริ่มมีจดหมายเตือนให้เราโทรติดต่อกลับเพื่อเจรจาประนอมหนี้ โดยหัวจดหมายเป็นโลโก้พวกสำนักงานกฎหมาย ซึ่งเราเองก็ตกใจ เพราะเนื้อหาในจดหมายประมาณว่า เตือนครั้งสุดท้ายก่อนจะนำเรื่องฟ้องศาล ให้รีบติดต่อกลับ โดยจดหมายแบบนี้จะส่งไปที่บ้านเรา บ้านพี่สาวที่เป็นคนค้ำ ที่ทำงาน บางครั้งก็มีโทรศัพท์ไปที่ทำงานด้วย แต่พอดีว่าเราไม่ได้รับสายเพราะออกไปงานข้างนอก การส่งจดหมายเตือนครั้งสุดท้ายนั้นก็จะส่งมาเรื่อยๆ ประมาณปีละครั้งบ้างสองครั้งบ้าง โดยหัวจดหมายก็จะเปลี่ยนโลโก้บริษัทไปเรื่อยๆ โดยเรามารู้ทีหลังว่า บริษัทสำนักงานกฎหมายจะรับตามทวงหนี้โดยจะได้ส่วนแบ่งตามตกลง โดยระบุเนื้อความในจดหมายให้เราตกใจแล้วรีบติดต่อกลับ จนทุกวันนี้เวลามีจดหมายแปลกๆ หรือโทรศัพท์เบอร์ที่ไม่คุ้นนี่ยังทำให้เราผวาได้ทุกครั้ง..
สรุป..ทางที่ดี ถ้าคิดจะไม่ส่งค่างวดรถต่อแล้ว ให้เลือกขายดาวน์หรืออาจจะประกาศให้ฟรีแบบเปลี่ยนสัญญาจะดีกว่า
*เพิ่มเติม เรื่องนี้เคลียร์จบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ขอลงรายละเอียดไปมากกว่านี้ เพียงแต่ต่องการเตือนคนที่มีความคิดเรื่องปล่อยรถยึดว่ามันจะมีอะไรตามมาอีกเยอะ ****นี่คือเนื้อความในจดหมายที่ส่งมา'
advertisement
โดยจากโพสต์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์สำหรับหลายๆท่าน หากจะปล่อยให้รถโดนยึดนั้น ต้องคิดให้ดีและดูจากตัวอย่างในเคสนี้ก็คงจะเข้าใจกันแล้วว่าผลกระทบที่ตามมานั้นไม่ใช่เรื่อง เล่นๆเลยจริงๆ
ขอขอบคุณที่มาจาก : ล่องเรือหารัก