หนุ่มเล่าถึงคนรอบข้างที่ได้รับผลกระทบ หมดกำลังใจจนต้องเลิกขาย
advertisement
กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่อยากจะแชร์มาให้หลายๆคนได้อ่าน เมื่อคุณ ชายหนุ่มกับรอยสัก สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาตั้งกระทู้เล่าว่า 'มีใครบ้างที่ต้องเปลี่ยนอาชีพหรือตกงานเพราะ โรคระบาดตอนนี้ ผมมีเรื่องมาเล่า'
advertisement
เชื่อว่าทุกคนต่างก็พยายามทุกทางเพื่อเอาตัวรอดในช่วงวิกฤตของชีวิตที่เกิดจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส ผมมีแผงรถเข็นขายอาหาร ซึ่งก็ได้รับผลกระทบเนื่องจากลูกค้ามาใช้บริการน้อยลง จากขาประจำที่มารายวันก็กลายเป็นรายสัปดาห์ ขาจรที่หนึ่งสัปดาห์มาทีก็เหมือนจะกลายเป็นเดือนนึงมาที แต่ก็ยังคงมีแรงสู้กับปัญหาเรื่องปากท้องที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดตอนนี้
มีเพื่อนหลายคนที่ประกอบอาชีพอิสระ แต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นมาขายของออนไลน์บ้าง ทำขนมหรืออาหารขายบ้าง หรือขับรถส่งอาหาร วันนี้ผมเจอเพื่อนที่เปลี่ยนมาขับรถส่งอาหารก็เลยพูดคุยและให้กำลังใจกันและกัน ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า "ความจนมันน่ากลัว" จริงๆ เพื่อนผมไม่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลทั้งๆที่ร้านถ่ายรูปของเขาปิดมาเกือบ 2 เดือน ไม่มีการจ้างงานถ่ายภาพ แต่ยังคงต้องเลี้ยงดูภรรยาและลูกสาว
รุ่นน้องที่เปิดร้านขายของ 10 บาท บอกว่า "ยอดตกกว่า 85 เปอร์เซ็นต์" ร้านค้าในห้างช่วงก่อนถูกสิ่งปิดทำเงินได้พันกว่าบาท แค่หักค่าจ้างลูกจ้างแต่ละวันก็หมดแล้ว ร้านค้าที่เปิดอยู่ที่บ้านลูกค้าเข้าวันละไม่เกิน 10 ราย เธอจำเป็นต้องเลิกจ้างลูกจ้างเป็นการชั่วคราว [ads]
ที่ตลาดมีป้าคนหนึ่งอายุ 70 กว่าปี ขายไก่ทอด ขายมานานมากตั้งแต่ก่อนผมเกิดเสียอีก ซึ่งช่วงสามสี่ปีนี้ป้าแกมียอดขายลดลงเพราะในตลาดคนขายไก่ทอดเจ้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย ถึงแม้ว่าจะขายแบบขาดทุนบ้างกำไรบ้าง แต่ป้าแกก็ยังคงมีกำลังใจขาย ได้มาเจอลูกค้า ได้มาเจอเพื่อนพ่อค้าแม่ค้า ป้าแกก็บ่นเรื่องสภาพเศรษฐกิจให้ผมฟังแทบทุกวัน ยิ่งช่วงโรคระบาดตอนนี้ ป้าขายไก่ทอดได้น้อยลงกว่าเดิมเยอะมาก บางวันผมจะกลับจากตลาดแล้วป้าบอกว่า "ป้ายังขายไก่ไม่ได้เลยลูก"
ป้าแกก็ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาจากรัฐบาลโดยผมช่วยลงทะเบียนให้ป้า ป้าก็เฝ้าถามผมทุกวันว่า "ป้าได้เงินไหมลูก" แต่สถานะของป้าแกคือ อยู่ระหว่างตรวจสอบ จนกระทั่ง วันหนึ่งผมเปิดเช็คสถานะตามปกติให้ป้า ป้าถูกปฏิเสธเพราะถูกมองว่าเป็นเจ้าของกิจการและธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบ @#WTF%@
ผมเคยบอกแกว่า "ถ้าวันไหนป้าได้รับเงินเมื่อไหร่ ผมจะโทรไปบอกป้าเอง ผมอยากได้ยินเสียงป้าร้องตะโกนด้วยความดีใจ" วันนั้นผมไม่กล้าโทรไปหาป้า ผมรู้ว่าป้าเองก็เฝ้ารอการช่วยเหลือครั้งนี้ เพราะทุกวันป้าก็ต่อสู้กับสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองอย่างเต็มที่และเต็มกำลังอยู่แล้ว ผมโทรไปบอกพี่สาวของแกให้ช่วยบอกป้าขายไก่ทอดด้วย
วันรุ่งขึ้นแกบอกผมว่า "แกหมดกำลังใจมาก" วันถัดมาแกบอกผมว่า "ตัดสินใจเลิกขายแล้ว" อีกสองวันถัดมาคือเมื่อวันพุธที่แล้วแกก็ไม่มาขายไก่ทอดอีกแล้ว
สิ่งที่ผมทำได้ในวันพุธที่แล้วคือ ช่วยซื้อไก่ทอดของป้าและบอกว่าผมจะทำการยื่นอุทธรณ์ให้ป้าเองครับ นี่คือรูปถ่ายวันสุดท้ายของตำนานไก่ทอดป้าแผ้ว ที่มีมายาวนานกว่า 50 ปี อันที่จริงผมเชื่อว่า ถ้าไม่มี โรคระบาดตอนนี้ ป้าแกก็คงจะขายไก่ทอดไปจนวันสุดท้ายของลมหายใจครับ
advertisement
บางคนบอกไม่ชนะก็แพ้บ้าง อ่อนแอก็แพ้ไปบ้าง เราทุกคนล้วนมีพื้นฐานต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้นการรับมือกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิตย่อมต่างกัน ตอนนี้ที่ผมทำได้คือ ใช้กำลังที่มีช่วยเหลือคนใกล้ตัวเราที่กำลังเผชิญกับปัญหา แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน
ให้กำลังใจกับทุกคน ทุกสายอาชีพครับ
มีเพื่อนคนไหนครับที่ตอนนี้อาชีพการงานต้อง "เปลี่ยน" หรือ "ปิด" เพราะพิษ โรคระบาด
อ่านกระทู้นี้แล้วต้องบอกเลยว่าน่าเห็นใจป้า และคนที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะเฝ้ารอเงินเยียวยาก็ไม่ได้ ยอดขายก็ไม่มี เลยทำให้สิ้นหวังและหมดกำลังใจ ยังไงก็ขอให้ป้าสู้ๆ หวังว่าหากทำเรื่องอุทธรณ์แล้ว ได้รับเงินป้าจะกลับมาตั้งหลักใหม่นะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : ชายหนุ่มกับรอยสัก