หนุ่มโพสต์เตือนสายนักดื่ม คดีเมาแล้วขับโทษหนักกว่ายาเสพติด
advertisement
เจอมากับตัวหนุ่มโพสต์ตัดพ้อ ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของศาล คดีเมาแล้วขับโทษหนักกว่ายาเสพติด แถมยังมีประวัติติดตัวไปจนวันตาย ส่วนคดีเสพยาเสพติดถ้าบำบัดหรือจำคุกแล้วจะลบประวัติให้
เมื่อวันที่ 25 มกราคม ผู้ใช้เฟสบุ๊คหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า..อยากเตือนพี่น้องทุกคนครับ เกี่ยวกับกฏหมาย เมื่อวานผมไปขึ้นศาลมา เดี๋ยวนี้ศาลลงโทษคนขับแรงมาก ผมก็งง ผมนั่งอยู่ในศาลและมีพวกที่โดนอื่นๆ ประมาณ 9ถึง10 คน ผมก็นั่งฟังท่านตัดสินดังนี้
อยากเตือนพี่น้องนักดื่มทุกคนครับเกี่ยวกับกฏหมาย “เมาแล้วขับ”
advertisement
เมื่อวานผมไปขึ้นศาลคดี “เมาแล้วขับ” มาเดี๋ยวนี้ศาลลงโทษคดีเมาแล้วขับแรงมากแรงกว่าคดียาเสพติดอีก ผมก็งง!!! ผมนั่งอยู่ในศาลและมีพวกที่โดนจับกุมในคดีต่างๆประมาณ 9-10 คน ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติดผมก็นั่งฟังท่านตัดสินดังนี้
advertisement
คนที่ 1 โดนคดีเสพยาเสพติดศาลท่านสั่งว่าให้ไปบำบัดนะประมาณ 30-45 วันคนที่ 2-3 ก็เช่นกัน (พูดในน้ำเสียงที่นุ่มนวล)
พอมาถึงคิวผมในคดี “เมาแล้วขับ” ศาลท่านพูดมาคำแรกว่าผมสามารถจำคุกคุณได้ทันที 2 เดือนโดยไม่ต้องรอลงอาญาและปรับเป็นจำนวนเงิน 20000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (เพราะผมเคยโดนจับคดีนี้มาครั้งนึงแล้วเมื่อปี 58)
ด้วยความสงสัยผมเลยถามท่านว่าทำไมคดีผมเมาแล้วขับจึงร้ายแรงกว่าผู้ที่ต้องโทษคดียาเสพติด
advertisement
ผมได้คำตอบจากท่านแบบนี้
-คดีเสพยาเสพติดเค้าทำคนเดียวเสพคนเดียวไม่ได้เดือดร้อนใคร
-ส่วนคดีผมเมาแล้วขับ ถือว่าประมาณเป็นการทำให้ผู้อื่นสูญเสียชีวิตได้ข้อหาเลยหนักกว่า
-และคดีเสพยาเสพติดถ้าบำบัดหรือจำคุกแล้วจะลบประวัติให้
-แต่คดีเมาแล้วขับของผมจะติดเป็นประวัติไปตลอด
ผมก็เลยถึงบางอ้อที่ว่า “ทำไมประเทศไทย” ถึงไม่เจริญสักที เพราะคดียาเสพติดแม่งเบาขนาดนี้ ผมขอให้ญาติพี่น้องของคุณติดยาจะทั้งตระกูลเถอะครับ คุณจะได้หายโง่กันสักทีว่า “ยาเสพติด” มันมีอะไรกับครอบครัวคุณและประเทศชาติบ้าง
ปล.สรุปผมประกันตัว 20000 บาทโดนปรับ 7000 บาทรอลงอาญา 2 ปียึดใบขับขี่อีก 6 เดือนและบำเพ็ญประโยชน์อีก 24 ชั่วโมงคดีเสพยาเสพติดต้องเสียเหี้ยอะไรเลยแค่ไปบำบัด(ในฐานะผู้ป่วย) เจริญแล้วประเทศไทยอยากซิ่งวิ่งมาหาก้อง
advertisement
ทั้งนี้ ก็อยากจะฝากเพื่อนๆ เพื่อนๆนักดื่มทุกคน ถ้าคิดที่จะเมาต้องมาการวางแผนการเดินทางด้วยนะครับ จะได้ไม่เป็นอย่างกรณีตัวอย่างที่กล่าวมานี้ เพราะว่าการดื่มแล้วขับมันสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ขณะขับขี่พาหนะซึ่งสติสัมปชัญญะไม่เต็มร้อยสามารถที่จะเกิดอุบัติเหตุได้อยู่ใน 70% ถ้าจะเปรียบเทียบกับยาเสพติดคิดเป็นร้อยละ 10% ที่เสพเข้าไปซึ่งผู้เสพส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่และบริเวณของตัวเองด้วย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com