หนุ่มไทยแต่งงานกับฝรั่ง เจอคนไทยถามคุกคามลามถึงเรื่องเพศ

       คุณ สมาชิกหมายเลข 1766278 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาตั้งกระทู้ระบาย หลังจากที่แต่งงานกับหญิงชาวต่างชาติและลูกด้วยกันแต่กลับถูกคนไทยคุกคาม ไม่ให้เกียรติ โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า "จากใจชายไทยที่แต่งงานกับภรรยาฝรั่ง อยากเข้าใจว่าทำไมคนไทยจำนวนหนึ่งถึงเป็นแบบนี้"

      ผมแต่งงานกับภรรยาชาวอเมริกันและมีลูกด้วยกัน 2 คนครับ ครอบครัวของผมอาศัยอยู่ในกรุงเทพ ลูกก็เรียนที่นี่ เราใช้ชีวิตร่วมกับคนไทยตามปกติครับ แต่หลายๆ ครั้งดูเหมือนคนไทยจำนวนหนึ่งจะมองและปฏิบัติกับเราเหมือนเราไม่ปกติเท่าไหร่ จึงอยากจะนำประสบการณ์ส่วนตัวมาแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ

     1. เรื่องแรกเลย ตั้งแต่สมัยผมคบกับแฟนและยังไม่มีลูกด้วยกัน หลายครั้งที่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน เรามักจะต้องพบกับสายตาและการชี้ชวนให้ดูคู่ของเรา เหมือนเราเป็นตัวประหลาดอะไรสักอย่าง ซึ่งส่วนมากที่ชี้ชวนกันให้มาดูผมสองคนก็มักจะเป็นผู้ที่มีอายุสักหน่อย เข้าใจว่าคู่ชายไทย-หญิงฝรั่งอาจจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับบางเจเนอเรชัน แต่โลกมันก็ดำเนินมาถึง พ.ศ. 2564 แล้วครับ พวกท่านก็ผ่านโลกกันมาเยอะ เห็นกันมาเยอะ อาบน้ำร้อนกันมาเยอะ ผมก็ไม่คิดว่าผมสองคนจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจกันขนาดนั้น…หรือจริงๆ แล้วเขามองว่าน่ารังเกียจกันแน่? เรื่องนี้ก็ไม่อาจทราบได้ครับ 

      2. อีกเรื่องที่ผมเจอกับตัวเองหลายครั้ง คือจะเจอผู้ชายไทยจากหลากหลายช่วงอายุและหลากหลายอาชีพ (ตั้งแต่ผู้บริหาร SME อาจารย์มหาลัย จนถึงวินมอเตอร์ไซค์) เข้ามาพูดคุยกับผม พวกเขามักจะเริ่มบทสนทนาด้วยการสอบถามว่า ภรรยาผมเป็นคนชาติอะไร? เจอกันที่ไหน? คบกันมากี่ปีแล้ว? ซึ่งจริงๆ ก็ค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ แต่ผมไม่ได้ถือสาหาความกับเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ จึงมักจะโอภาปราศรัยกันเป็นอย่างดี จนกระทั่งพวกเขาบอกผมว่า "โอ้…คุณนี่เก่งนะ" บางคนพูดประโยคนี้พร้อมยกนิ้วโป้งและส่งยิ้มให้ผมด้วยต่างหาก ที่น่าแปลกใจที่สุดคือเมื่อผมถามพวกเขากลับไปว่า "ผมเก่งยังไงเหรอครับ" ผมมักจะได้รับคำตอบคล้ายๆ กันในทำนองว่า "ฝรั่งมาเอาผู้หญิงไทยไปทำเมียเยอะแล้ว คุณเก่งที่เอาผู้หญิงฝรั่งมาทำเมียได้" เป็นคำอธิบายที่ผมรู้สึกว่าหลงยุคมากเลยครับ เหมือนชุดความคิดที่หลุดมาจากยุคกลางเมื่อหกเจ็ดร้อยปีที่แล้ว ที่มองผู้หญิงเป็นเพียงทรัพย์สินให้แย่งชิงระหว่างตระกูล/ระหว่างเผ่า…คือก็เพราะคิดกันแบบนี้นั่นแหละครับ ผู้หญิงฝรั่งเขาถึงไม่ค่อยเอาผู้ชายไทยไปทำผัว

     3. นอกเหนือไปจากเรื่องในข้อ 2 แล้ว บางคนยังถามผมต่อว่า จีบกันยังไง? ไปเจอกันที่ไหน? จริงๆ มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ ถ้ารู้จักกันแล้ว สนิทสนมกันแล้ว พอรู้จักมักจี่กันพอสมควรแล้ว คำถามเหล่านี้ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แต่นี่คือเพิ่งคุยกันเมื่อสองนาทีที่แล้วนี่เอง ทำไมถึงมีความอยากเผือกชีวิตของผมจังครับ ที่แย่ที่สุดคือคำถามที่ว่า "ผู้หญิงฝรั่งเป็นไงบ้าง ผมไม่เคยเลย" เชื่อไหมครับว่าผมเคยเจอคำถามแบบนี้อยู่ถึงสองครั้ง จากผู้ชายไทยแปลกหน้าสองคน ในสถานที่ที่แตกต่างกัน เป็นคำถามที่หยาบคายมากครับ สะท้อนถึงระดับความคิดอ่านของผู้ถามที่ไม่น่าจะอยู่ในระดับสูงเกินสะดือ ไม่เข้าใจจริงๆ ครับว่าปีนี้ พ.ศ. นี้กันแล้ว ทำไมถึงยังคิดได้กันแค่นี้ครับ? ใครพอจะอธิบายให้หน่อยได้ไหมครับ?

     4. ผมมีลูกด้วยกัน 2 คน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง และเรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นครอบครัว ลูกๆ ผมจะไม่ชอบมากๆ เวลามีคนแปลกหน้ามาจับเนื้อต้องตัว ช่วงก่อนโควิดระบาด บางคนถึงขั้นเดินเข้ามาลูบหัว จับแขน จับแก้ม หนักสุดคือมาจับคางลูกผม จะดึงเด็กเข้าไปหอมแก้ม…คือบ้านผมคุยกันเรื่อง consent ตั้งแต่ 4 ขวบ (ตอนนี้คนโต 7 ขวบ คนเล็ก 5 ขวบครึ่ง) ลูกผมจะรู้ว่าถ้าไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัว เขาสามารถบอกได้เลยว่า "ไม่เอา! ไม่ชอบ!" และถ้าบอกแล้วยังไม่หยุด เขาสามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยการปัดป้องหรือเดินหนีไป ซึ่งบางทีในสายตาของคนไทยจำนวนหนึ่ง กลับมองว่าที่ลูกผมทำแบบนี้เป็นเรื่องหยาบคาย แถมบางครั้งผมยังโดนต่อว่าว่า "สอนลูกยังไง เป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะ" หรือบางทีก็ลามปามไปเรื่องเชื้อชาติ "อ๋อ เพราะมีเมียฝรั่งนี่เองถึงสอนลูกแบบนี้"…โอ้โห เจอแบบนี้นี่มือสั่นเลยครับ

     ที่เล่ามาทั้งหมดนี้คือ อยากจะขอความเห็นใจจากคนไทยที่มีความคิด/พฤติกรรมแบบนี้นะครับ (ซึ่งผมไม่ได้หมายถึงคนไทยทุกคนเป็นแบบนี้นะครับ แค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น) ถ้าคุณลด ละ เลิกอะไรแบบนี้ไม่ได้จริงๆ กรุณาอยู่ห่างๆ ผมและครอบครัวเถอะครับ จะได้สบายใจกันทุกฝ่าย

      ป.ล. ที่ผมเลือกใช้คำว่า "คนไทย" เพราะสิ่งที่ผมเล่าให้ฟังมาทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นจากคนไทยล้วนๆ ครับ ผมยังไม่เคยเจอคนสัญชาติอื่นที่มีพฤติกรรมต่อผมและครอบครัวในลักษณะที่เล่ามาครับ

"อย่าไปพยายามเข้าใจเค้าเลยค่ะ ไม่มีประโยชน์หรอก เจ้านายเราก็แต่งงานกับฝรั่ง แต่ไม่เคยเห็นแกบ่นอะไรเรื่องนี้ และเราก็ไม่เคยถามคำถามเหล่านี้กับแก "สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล" คนไม่มีมารยาทก็คือไม่มี แล้วเค้าก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดอะไร ดังนั้นเลี่ยงได้เลี่ยงค่ะ"

"ผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไทยนะ ยิ่งถ้าคุณคุยด้วย คำถามเหล่านี้ เป็นคำถามปกติ ไม่ใช่แค่ คู่ ชายไทย กับ ญ ต่างชาติ ,แค่มีความแตกต่าง มากๆ เช่น คนกรุงเทพ คนเหนือ, คนใต้ ,อีสาน…เพื่อนบ้าน … ส่วนเรื่องเด็ก ลูกครึ่ง ก็ จะมีความน่ารัก น่าจับ มากกว่าปกติ ซึ่ง คนไทย ก็มักแสดงความรัก สนใจด้วยการอุ้ม จับแก้ม เด็ก อยู่แล้ว จขกท. เปลี่ยน คนอื่นๆไม่ได้ แต่ ปรับ ความรู้สึกตัวเอง,วิธีคุยกับคนอื่นได้ นะ กับการสัมผัสเด็กนี่ จขกท.คงต้อง บอก ผู้ใหญ่เอง ห้าม หรือ ขอลูกก่อน แล้วแต่กรณี … ปล. ส่วนตัวเวลาเห็นเด็กน่ารัก ก็อยากจับ อยากอุ้มเหมือนกัน แต่ต้องขออนุญาต พ่อแม่ และตัวเด็กก่อนทุกครั้ง และ ก็ ยังมีนิสัย ชอบ ชี้บอกให้แฟนดู  (โดนเตือนประจำ)"

"ตัวอิจฉาเยอะนะเมืองไทย แถมชอบดูถูกคนอีก แต่คุณก็เก่งจริงๆนะ เพราะต้องพูดภาษาเขา ซึ่งคนไทยไม่ค่อยเก่งภาษากัน ขนาดเราคุยกับฝรั่ง เรายังคุยด้วยภาษาไทยเลยค่ะ"

"คนบางประเภทก็ชอบเผือกเรื่องชาวบ้านโดยไม่มีกาลเทศะใดๆ เราก็ตอบเท่าที่อยากตอบ ไม่งั้นก็ยิ้มแห้งๆ ไม่งั้นก็ปลอมเป็นต่างชาติเลย บอกว่าเป็นฟิลิปปินส์ อินโดก็ว่าไป"

"เราเข้าใจทั้งหมดที่คุณพิมพ์มา เข้าใจถึงความอัดอั้นตันใจของคุณ แต่เราไม่สงสัยเลยว่า ทำไมคนทำแบบนั้น หรือถามอะไรแบบที่ถามคุณ เพราะสภาพสังคมไทย คนไทยเป็นแบบนั้นอยู่แล้วค่ะ ถึงแม้ปีนี้จะ2564 มันไม่ได้ต่างอะไรมากกับเมื่อ10-20ปีที่แล้วเลย เพราะคนที่ถามคุณก็ไม่ใช่คนอายุน้อย หรือคนรุ่นใหม่ ความคิด ทัศนคติของคนบางกลุ่มไม่ได้เปลี่ยน ตาม พ.ศ.ค่ะ"

"ขนาดไม่เจอตัว จขกท ผมยังอยากรู้เลยว่าเจอกันยังไง คือถ้า ช. ต่างชาติ ญ.ไทย อันนี้เจอได้ทั่วไป แต่ ช.ไทย ญ.ต่างชาติ อันนี่หายาก สำหรับผมก็คงถามแค่ว่าเจอกันยังไงอ่ะครับ ผมเคยมีความคิดเหมือนกันตอนรุ่นๆ icq แต่ไปได้ไม่สุด อีกอย่างได้เจอคนที่เขาคลิกกับเราจริงๆและผมไม่ค่อยเก่งภาษาด้วย"

"คนไทยส่วนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ละค่ะ สังคมที่คุณเจอคือสังคมส่วนใหญ่ อ่านละรู้สึกตัวเองโชคดีจริง ๆ ที่ตัวเราส่วนใหญ่ได้เจอคนในสังคมส่วนน้อยที่คิดอย่างมีอารยะ เคารพความเป็นส่วนตัว แต่เราเลือกคบเพื่อนด้วยประเด็น ใครที่มีนิสัยแบบที่เราไม่ค่อยสะดวกใจด้วยเราจะเอาไว้ไกล ๆ เลย เคยเจอเหมือนกันรู้จักกันแป๊บเดียว ถามเราเจอกับแฟนได้ยังไง แต่เราได้ยินจนชินละจนมองเป็นเหมือน chit-chat มากกว่านะ แต่ถ้ากับบางคนไม่รู้สึกสะดวกใจจะตอบจริง ๆ เราจะบอกเลยว่าก็รู้จักกันมานาน จบ เพราะไม่มีใครกล้าถามต่อเซ้าซี้เท่าไร"

"คุณใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกหรือโตที่เมืองนอกมาตั้งแต่เล็กจนโตรึเปล่า เพราะคำถามคุณมันเหมือนคุณไม่ค่อยเข้าใจสภาพสังคมและนิสัยใจคอคนไทยเลยอันนี้ถามเฉยๆ"

"คือคนไทยชอบคิดว่าการจับตัวเด็กเป็นการแสดงความเอ็นดู ซึ่งเราไม่เป็นแบบนั้นนะ เราไม่จับตัวเด็กที่ไหนเลย ช่วงนี้โควิดคงจะน้อยลงมั่งเพราะเสี่ยงโรคระบาด แต่ยังไงก็ควรปลูกฝังการไม่จับตัวเด็กถ้าเด็กไม่อนุญาต"

      โดยจากโพสต์นี้ก็ทำให้มีหลายๆคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย หลายคนบอกว่า เพราะด้วยความเคยชินของคนไทยบางกลุ่มที่ยังมองถึงอะไรเก่าๆอยู่ ทั้งมองว่าการแต่งงานกับคนชาติอื่นเป็นเรื่องแปลก ยังไงก็อย่าเก็บมาใส่ใจดีกว่า

ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 1766278