หนุ่มไปซื้อกล้วยต่อราคาจนน่าเกลียด โดนแม่ค้าทักกลับพูดไม่ออก

        เชื่อว่าเวลาที่เราไปซื้อของในตลาดเราจะคุ้นชินกับการที่ต้องต่อราคา เพื่ออยากได้ราคาที่คุ้ม แต่ไม่เคยนึกถึงต้นทุนของแม่ค้า ซึ่งล่าสุดคุณ Phatsara Ka-Kam ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวพร้อมระบุว่า 

       คนซื้อ : กล้วยหวีเท่าไหร่ ??? คนขาย : 30 บาท คนซื้อ : แพงไปนะ 20 บาท ได้ไหม คนขาย : ไม่ได้หรอก เพราะต้องปลูก และมาเดินขายยืนตากแดด ตั้งแต่เช้า ต้นทุนมาก็มากกว่า 20 กว่าบาทแล้ว กาแฟแก้วที่คุณถืออยู่น่ะ ราคาเท่าไหร่ คนซื้อ : 150 บาท คนขาย : แล้วคุณต่อราคาเขาไหม คนซื้อ : จะบ้าหรือ !!! นี่มันกาแฟมียี่ห้อ เขาไม่ต่อกันหรอก คนขาย : กับคนรวยๆ คุณไม่ต่อเขาสักบาทเดียว แต่พอกับคนจน คุณกับต่อราคาเหลือ 20 บาท คนซื้อ : ………………….

       ข้อคิด ..อยากถามว่า เพราะอะไรเราจึงต่อราคากับแม่ค้าจนๆ ที่ต้องยืนขายของกลางแดดร้อนๆ … แต่กลับไม่เคยต่อราคากับพ่อค้าที่ร่ำรวย ตามห้างฯ หรือภัตตาคารเลย *ขอบคุณเครดิตจากเรื่องราวดีๆนี้  ( คำคมให้คิด ได้ชีวิตเป็นสุข )

"มันก็ไม่ทั้งหมดนะผมว่าเพราะราคาบางทีอาจดูไม่เหมาะกับของก็ได้"

"ที่ซื้อหวยเท่าไรเท่ากันบ่อยากเว้าคนพวกนี้"

"อย่าคิดแบบนั้นถ้าตากแดดแล้วขาย100ก็ไม่เอาถ้าติดแอร์จะขาย20บาทหรือตามต้นทุนและความพอใจนะ"

"อุดหนุนหลายอย่างก็ต่อราคาเผื่อแม่ค้าใจดีลดให้ เป็นสีสัน555 ส่วนกาแฟแพงๆ ไม่คิดซื้อ อยู่แล้ว ซื้อเครื่องไว้ชงเอง ถูกปากกว่า แต่ร้านเค้าก็มีต้นทุนอุปกรณ์​แพง ใครอยากซื้อก็ซื้อ"

      ซึ่งการต่อราคากับพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดนั้นเป็นความคุ้นชิน เพราะร้านในตลาดนั้นเป็นร้านที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่ตามร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ มีต้นทุนที่สูง และการกำหนดราคามาแบบที่ไม่สามารถต่อรองได้ และขึ้นอยู่ที่ความสะดวกใจที่จะจ่ายนั่นเอง

ขอขอบคุณที่มาจาก : Phatsara Ka-Kam