หมดโปรลดค่าไฟ เตือนใช้ไฟฟ้าทำงาน-เรียนออนไลน์ เบาได้เบา
advertisement
จากกรณีที่มีมาตรการลดค่าไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือประชาชน และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั่วประเทศ เป็นเวลา 2 เดือน คือ กรกฎาคม – สิงหาคม 2564 โดยยึดฐานบิลเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เป็นตัวตั้ง เพราะเป็นช่วงที่คนไทยใช้ไฟฟ้าต่ำสุดของปีนี้ ใช้วงเงินช่วยเหลือประมาณเดือนละ 6,000 ล้านบาท รวมวงเงินช่วยเหลือ 12,000 ล้านบาท
advertisement
ทั้งนี้ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ให้ข้อแนะนำวิธีทำงานที่บ้าน เพื่อให้ได้งาน ได้สุขภาพที่ดี และค่าไฟฟ้าก็ไม่แพง
1.ตั้งใจทำงานให้เหมือนอยู่ที่ทำงาน ฟังดูแปลกๆ แต่นี่คือการทำงานอยู่ที่บ้าน เพราะฉะนั้น คุณควรให้ความใส่ใจในการทำงานมากที่สุดก่อน เรื่องอื่นๆภายในบ้าน คุณอาจต้องปล่อยผ่านออกไปก่อน ไม่เช่นนั้น การเวิร์กฟรอมโฮม ก็เหมือนการลาพักร้อนหรือพักผ่อน เจ้านายคุณไม่น่าแฮปปี้กับสิ่งนี้แน่ๆ
advertisement
2.แบ่งบริเวณการทำงานให้เป็นสัดส่วน ไม่ได้หมายความว่าต้องตกแต่งพื้นที่ในบ้านของคุณให้เป็นแบบออฟฟิศอย่างชัดเจน เพียงแค่ให้คุณมีสมาธิในการทำงานมากที่สุด สุดท้ายอาจเลือกเปิดโน้ตบุ๊คของคุณบนโซฟาเพื่อทำงานก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ขอให้คุณสามารถทำงานได้ก็เป็นพอ [ads]
3.การสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงาน ทำงานอยู่บ้านอาจเหงา เลือกใช้แอพพลิเคชั่นในการสื่อสารร่วมกับคนในทีมเป็นสิ่งจำเป็น โปรแกรมอย่างเช่น Slack, Skype ในการแชทคุยงานกัน โปรแกรม Zoom สำหรับการประชุมผ่าน VDO Conference หรือโปรแกรม Line ก็สามารถทำได้ดีเช่นเดียวกัน และพยายามทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่คุณตั้งเอาไว้
advertisement
4.ร่างกาย และสุขภาพ คือสิ่งสำคัญ การทำงานที่บ้าน หลายคนมักประสบปัญหาปวดหลัง ปวดตา เมื่อยคอ ลองใช้กฎ 20-20-20 เพื่อสุขภาพในการทำงานดูดังนี้ ทุกๆ 20 นาทีละสายตาออกจากจอคอมพิวเตอร์และมองไปยังจุดใดจุดหนึ่ง ห่างออกไปราวๆ 20 ฟุต (6 เมตร)เป็นเวลา 20 วินาที
5.วิธีรับมือไม่ให้ค่าไฟพุ่ง ไหนจะเวิร์กฟรอมโฮม ไหนจะเวลาที่ต้องใช้ชีวิตประจำวันในบ้านแทบจะ 24 ชม. แน่นอนมิเตอร์ไฟฟ้าได้หมุนติ่วๆ พพ. ขอแนะนำวิธีง่ายๆ ไม่ให้ค่าไฟพุ่ง ให้ทุกคนได้ลองทำดู * เลือกมุมทำงานให้มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ * เครื่อง Notebook ตั้งเป็น Sleep Mode เมื่อไม่ได้ใช้งาน * เลือกใช้หลอด LED แทนหลอดไฟธรรมดา * เปิดหน้าต่างรับลม-แสงธรรมชาติ * ปิด Gadget ไร้สาย เมื่อไม่มีการเชื่อมต่อ * ใช้หูฟังแบบมีสายประหยัดไฟกว่า
advertisement
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน จะพิจารณามาตรการลดค่าไฟฟ้าอีกครั้ง หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดยังไม่คลี่คลาย
ขอขอบคุณที่มาจาก : matichon.co.th