หมั่นตรวจสุขภาพสายตา.. หากต้อกระจกถามหารักษาทัน!!

    ดวงตา เป็นอวัยวะสำคัญที่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน คนเราจะสามารถเรียนรู้แลเห็นโลกกว้าง รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้นั้นจำเป็นต้องอาศัยดวงตาในการมองเห็นเพื่อทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ แต่ดวงตาก็เหมือนกับอวัยวะอื่นๆ ที่ต้องเสื่อมสภาพไปตามอายุที่มากขึ้น และโรคหนึ่งของดวงตาที่มักเกิดกับผู้สูงวัยก็คือโรค

    “ต้อกระจก” ดังนั้นการใส่ใจดูแลรักษาดวงตาและหมั่นเข้ารับการตรวจดวงตาเป็นประจำ ทั้งในยามปกติหรือเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับดวงตาจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น เพื่อจะมีดวงตาที่สดใสไปอีกยาวนาน

ต้อกระจกคืออะไร?

    ต้อกระจกเป็นการเสื่อมสภาพของเลนส์แก้วตา (LENS) จากที่เคยมีลักษณะใสจะกลายเป็นขุ่นขาว ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีเดียวคือการผ่าตัดเท่านั้น โดยการผ่าตัดต้อกระจกเป็นการผ่าตัดเอาเลนส์ที่ขุ่นมัวออก แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่

    คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุมักจะละเลยความผิดปกตินี้ไป และไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพตาเท่าที่ควร เพราะคิดว่าอาการตาฝ้าฟางหรือการมองเห็นไม่ชัดเป็นเรื่องปกติเมื่อมีอายุมากขึ้น โดยไม่ทราบว่าอาการตาฝ้าฟางมองเห็นไม่ชัดนั้นเป็นสัญญาณเตือนของภัยคุกคามของโรคต้อกระจก และเมื่อเวลาผ่านไปจนต้อกระจกลุกลามมากขึ้นจนถึงระยะที่เรียกว่า “ต้อกระจกสุก” เมื่อนั้นอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอื่นๆ ตามมา และหากปล่อยไว้จะทำให้สูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดถาวรได้

[ads]

ต้อกระจกเกิดขึ้นกับใครได้บ้าง?

    สาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดต้อกระจกมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น เห็นได้ชัดจากญาติผู้ใหญ่หรือแม้แต่ตัวเราเองที่พอเริ่มมีอายุมากขึ้นสายตาก็จะเริ่มฝ้าฟาง มองเห็นภาพไม่ชัดเท่าสมัยยังเป็นหนุ่มสาว แต่ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งประมาณ 20% ของการเป็นต้อกระจกที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอายุที่มากขึ้น เช่น

    ต้อกระจกตั้งแต่แรกเกิด พบในเด็กทารกที่เกิดจากแม่ที่เป็นหัดเยอรมันในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ รวมถึงต้อกระจกที่เกิดจากกรรมพันธุ์ และในเด็กที่มีภาวะทุโภชนาการ (ขาดอาหาร) ซึ่งพบได้น้อยในประเทศไทย
    ต้อกระจกในวัยรุ่นหรือคนหนุ่มสาว มักเป็นต้อกระจกที่เกิดจากการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงที่กระทบกระเทือนบริเวณลูกตา เช่น การเล่นกีฬา อุบัติเหตุจากของมีคมทิ่มแทง หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ เป็นต้น แม้จะได้รับการรักษาอาการนั้นๆ แล้ว ก็อาจเป็นต้อกระจกในอีก 2-3 ปีต่อมาได้ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากความผิดปกติของการพัฒนาถุงหุ้มเลนส์มาแต่กำเนิด
    ต้อกระจกในวัยกลางคน มักพบว่ามีสาเหตุมาจากโรคอื่นๆ ในร่างกาย เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคอื่นๆ ในลูกตา เช่น ม่านตาอักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อในเบ้าตา

อาการของภาวะต้อกระจก

    อาการของต้อกระจกที่สำคัญ คือจะทำให้ความสามารถในการมองเห็นภาพต่างๆ ลดลง ซึ่งสามารถสังเกตได้ ดังนี้

    1.ภาพที่มองเห็นจะมีลักษณะขุ่นมัวเหมือนมีหมอกบัง ตาพร่ามัว หรือเห็นฝ้าขุ่นขาวบริเวณตรงกลางรูม่านตา
    2.เมื่ออยู่ในที่แจ้งหรือมีแสงแดดจะมองเห็นได้ไม่ชัด แต่หากอยู่ในที่มืดหรือที่สลัวกลับมองเห็นได้ชัดกว่า
    3.เห็นภาพซ้อน
    4.เห็นภาพไม่ชัดเวลาอ่านหนังสือ ต้องใช้แสงจ้าหรือแสงสว่างมากๆ
    5.ต้องเปลี่ยนแว่นตาบ่อย เมื่ออายุมากขึ้นแล้วเริ่มสายตาสั้น

[yengo]

    ต้อกระจก หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่างๆ เช่น ต้อหิน ม่านตาอักเสบ ปวดตารุนแรง จนกระทั่งทำให้สูญเสียการมองเห็นไปอย่างถาวร ซึ่งต้อกระจกมีวิธีการรักษาให้หายได้ด้วยวิธีเดียวเท่านั้นคือการผ่าตัด และในปัจจุบันการผ่าตัดต้อกระจกมีอยู่หลายวิธี โดยโรงพยาบาลพญาไทมีแนวทางการรักษาที่ทันสมัยและปลอดภัยสูงโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากท่านเข้ารับการตรวจสุขภาพดวงตาและได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะเป็นการดูแลและป้องกันเพื่อชะลอการเสื่อมของดวงตาก่อนวัยและเพื่อสุขภาพตาที่ดีไปอีกนาน “ตรวจดวงตาหาเหตุความขุ่นมัว เพื่อความชัวร์ในการรักษาตรงจุด”

ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพประกอบจาก : รพ.พญาไท