หลากวิตามิน..พิชิตเบาหวาน!!
advertisement
ร่างกายต้องการสารอาหารไม่ใช่เพียงแค่ให้มีกำลังทำงานในแต่ละวัน หรือเสริมสร้างการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์เท่านั้น สารอาหารยังมีความจำเป็นต่อการบำรุงสุขภาพที่ดี และป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มากมาย โดยสารอาหารที่ร่างกายต้องการนั้น ต้องเป็นหมู่อาหารทั้ง 5 หมู่ จะขาดสารอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งหรือได้รับสารอาหารบางประเภทมากเกินไปไม่ได้ และหากวันนี้ ใครที่กลัวโรคร้ายอย่างโรคเบาหวาน Kaijeaw.com ขอนำเสนอสารพัดวิตามินที่คุณไม่ควรพลาด เพื่อพิชิตโรคเบาหวาน!!
[ads]
วิตามินซี
มีสรรพคุณช่วยรักษาและบำรุงสุขภาพผิวพรรณ นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้หวัดต่างๆ บ่อยๆ ยังช่วยป้องกันร่างกายพ้นจากโรคร้ายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและคลายเครียดอันเป็นปัจจัยสำคัญของโรคเบาหวานได้
พบมากในผักและผลไม้สดต่างๆ เช่นผักกระเฉด มะเขือเทศ ฝรั่ง ส้ม ผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ
วิตามินบี 15
มีประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อ ตับ สมอง และหัวใจ ช่วยย่อยไขมันและช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินอี แพทย์นิยมใช้วิตามินตัวนี้ร่วมกับการรักษาเบาหวานและเส้นเลือดอุดตัน พบมากในยีสต์ เมล็ดพืชต่างๆ ข้าวซ้อมมือ
วิตามินบีรวม (คอมเพล็กซ์)
วิตามินบีทุกชนิด ได้แก่ บี 1 บี 2 บี 3 บี 6 บี 12 และส่วนประกอบอย่างบี 5 ไอโอดิน (Biotin) โคลีน (Choline) อินอซิทอล (Inositol) กรดโฟลิก (Folic Acid) และพาบา (PABA) ที่นำมาผสมกัน มีประโยชน์ ต่อการทำงานที่เป็นปกติของร่างกาย โดยช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของโปรตีนและไขมัน ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น การที่สามารถช่วยลดและควบคุมคอเลสเตอรอลและไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานได้ การกินอาหารที่เน้นผักผลไม้เป็นหลัก และอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ จะทำให้ได้รับสารอาหารวิตามินอย่างพอเพียง
– วิตามินบี 3 พบได้จากข้าวทุกชนิดที่ไม่ขัดขาว อาทิ จมูกข้าว รวมถึงรำ ยีสต์ ถั่วลิสง อะโวคาโด มะเดื่อ ลูกพรุน อินทรผาลัม มันฝรั่ง ใบยอ และเนื้อปลา
– วิตามิน 6 พบได้ในรำข้าว จมูกข้าว แคนตาลูป กะหล่ำปลี ข้าวโพด และยีสต์
วิตามินอี (Tocopherol)
เป็นวิตามินที่ช่วยในการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายหลายระบบ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์ต่างๆ จากท็อกซิน และทำให้เกิดการเผาผลาญ (Oxidation) โดยมีออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญ ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น เป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด ช่วยขยายเส้นเลือดด้านการแข็งตัวของเลือด และลดความสามารถในการจับตัวเป็นลิ่มเลือด จึงทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้ดี บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมากมาย ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อทำงานได้ตามปกติ ช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ไม่อ่อนเพลียง่าย และมีผลต่อการควบคุมน้ำตาลโดยตรง ทั้งยังส่งผลต่อระบบการทำงานอื่นๆ ในร่างกายด้วย จึงเป็นวิตามินอีกชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยควรกินเป็นประจำ พบมากในรำละเอียด ธัญพืช ข้าวโพด ถั่วแดง ถั่วเหลือง ผักกาดหอม เมล็ดทานตะวัน งา น้ำมันรำข้าว และน้ำมันถั่วเหลือง
ไฟเบอร์ (Fiber)
เมื่อรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร กากอาหารจะเข้าไปขัดขวาง ทำให้การย่อยและดูดซึมของน้ำตาลที่รับประทานในมื้อนั้นช้าลง และทำให้น้ำตาลเข้าสู่ร่างกายแบบช้าๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีระดับที่สม่ำเสมอกว่า และยังช่วยในระบบทางเดินอาหารทั้งระบบ ลดอาการท้องผูก มีการย่อยอาหารที่ดีขึ้นอีกด้วย พบมากในผักต่างๆ ทั้งในส่วนของใบก้าน รวมถึงผลไม้ต่างๆ
โครเมียม (Chromium)
เป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายนำน้ำตาลไปเผาผลาญได้สมบูรณ์กว่าและเร็วขึ้น พบมากในธัญพืช เช่น ซีเรียลที่ต้องใช้เวลาในการเคี้ยว หรือใช้เวลาในการรับแบบช้าๆ ต้องเคี้ยวเยอะขึ้น คนที่รับประทานอาหารแบบเร็ว เร่งด่วน ไม่ชอบอาหารเคี้ยวยาก พวกนี้ก็ทำให้มีโอกาสที่จะขาดแร่ธาตุกลุ่มนี้ได้ง่าย
กลุ่มโอเมก้า 3
มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยทำให้ระดับการทำงานของเซลล์เป็นปกติขึ้น การแพทย์แผนปัจจุบันพบว่า ในคนที่เป็นเบาหวานจะมีร่างกาย รวมทั้งเนื้อเยื่อต่างๆ มีระดับของการอักเสบสูง เนื่องจากว่าตับอ่อนทำงานหนักจึงทำให้มีภาวะที่เรียกว่า ดื้อต่ออินซูลิน เวลาที่ร่างกายได้รับสารอาหารโอเมก้า 3 จะไปช่วยให้ร่างกายควบคุมการอักเสบในเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น และก็ทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลินน้อยลง ทำให้สามารถจะเผาผลาญน้ำตาลได้ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการลดระดับน้ำตาลในเลือดทางอ้อ คือ เมื่อช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเกี่ยวกับการควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น พบมากในน้ำมันปลาทะเลน้ำลึก
วิตามินที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน
ก็คือ วิตามินรวม ด้วยมีวิตามินที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น และพบว่าในคนไทย เวลาที่รับประทานวิตามินรวม ก็จะไปกระตุ้นให้การอยากรับประทานอาหารเพิ่มสูงขึ้น ทำให้รู้สึกว่าอยากอาหารมากขึ้น โดยวิตามินกลุ่มรวมจะทำให้คนที่เป็นเบาหวานหรืออาจจะเป็นวิตามินอะไรก็ตาม ที่เมื่อรับประทานไปแล้วรู้สึกว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ก็อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่า อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการรับประทานวิตามิน
การเลือกรับประทานวิตามินสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน ควรเลือกวิตามินแต่ละชนิด ตามคำแนะนำของแพทย์ไม่ควรไปเลือกซื้อมารับประทานเอง
[yengo]
แม้ว่าสารอาหารวิตามินต่างๆ จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่วิตามินก็ไม่ใช่ยาวิเศษที่ใช้ทดแทนอาหารได้ เป็นเพียงยาบำรุงที่ช่วยส่งเสริมการทำงานและบำรุงการทำงานที่ปกติของร่างกายเท่านั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานผักผลไม้ให้มากเป็นหลัก ทานธัญพืช เลือกอาหารที่มีประโยชน์ และอย่าลืม พักผ่อนอย่างเพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องร่างกายเราให้พ้นจากโรคร้ายต่าง ๆ ได้นะค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com