อาการของคนท้องระยะแรก สัญญาณบอกว่า คุณจะมีข่าวดี
advertisement
ช่วงเวลาของการตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีนะคะ เมื่อเริ่มตั้งครรภ์เรารู้กันดีว่ามีชีวิตเล็กๆ ที่รอวันเติบโต จนสมบูรณ์พร้อมที่จะออกมาเจอโลก คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เองก็ตั้งใจนับวันรอคอยวันที่สวยงามนั้น ดังนั้นเพื่อให้ก้าวแรกของชีวิตลูกน้อยเริ่มต้นอย่างดีที่สุด ตั้งแต่วันแรกที่คุณแม่ตั้งครรภ์ อย่าพลาดที่จะเริ่มต้นการดูแลครรภ์ของคุณให้ดีที่สุดเช่นกัน มาดูกันค่ะ ..สัญญาณอะไรที่บอกว่าคุณกำลังตั้งท้อง เพื่อจะได้ไม่พลาดในการเตรียมตัวเป็นคุณแม่คนใหม่อย่างดีที่สุด
อาการของคนท้องในระยะแรก
1.ประจำเดือนขาด
ประจำเดือนเป็นสัญลักษณ์ว่าคุณเป็นหญิงวัยเจริญพันธุ์ หากประจำเดือนของคุณขาดไป ก็แสดงว่าคุณอาจตั้งครรภ์ได้ เพราะหลังจากปฏิสนธิ ประจำเดือนจะไม่มา แต่ว่า ประจำเดือนไม่มาก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่หากประจำเดือนขาดไปประมาณ 10 วัน ให้พึงนึกไว้ก่อนว่าอาจตั้งครรภ์ได้ และรอการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดในขั้นตอนต่อไป
2. เต้านมคัด เจ็บหน้าอก และตึง
มีการเปลี่ยนแปลงของเต้านม คุณแม่จะรู้สึกว่าเต้านมใหญ่ขึ้น กดจะเจ็บเนื่องจากมีการเจริญเติบโตของไขมันและต่อมน้ำนม เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงขยายใหญ่ขึ้นจนสังเกตเห็นได้ หัวนมเจ็บและไวต่อสิ่งสัมผัส มีเส้นเลือดดำสีเขียวๆ ปรากฏขึ้นที่บริเวณผิวหนังรอบเต้านม บริเวณลานหัวนมจะกว้างออก หัวนมมีสีคล้ำขึ้นและตั้งชู
[ads]
3. ปัสสาวะบ่อยขึ้น
หลังจากมีการปฏิสนธิมดลูกจะขยายตัวใหญ่ขึ้นและไปเบียดกับกระเพราะปัสสาวะ อีกทั้งฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น ระหว่างการตั้งครรภ์มีผลทำให้เลือดมาคั่งในเชิงกรานมาก เพื่อไปหล่อเลี้ยง ตัวอ่อนมากขึ้น ระบบปัสสาวะที่ต่อเนื่องถึงกันจึงได้รับผลกระทบไปด้วย กระเพาะปัสสาวะ จึงระคายเคืองและบีบตัวบ่อยขึ้น ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นนั่นเอง
4.เหนื่อยง่าย ง่วงนอนบ่อยมาก
เมื่อร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกมา ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้บ่อยๆ โดยเฉพาะในเวลากลางวัน อาการเช่นนี้ดีสำหรับคุณแม่ ทำให้ร่างกายของคุณมีอาการคลายตัว ทำให้คุณรู้สึกอยากพักผ่อนอยู่ตลอดเวลานั่นเองค่ะ
5. นึกอยากกินอาหารแปลกๆ
เป็นเพราะฮอร์โมนที่เพิ่มระดับขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ส่งผลทำให้การรับรู้รสชาติของคุณเปลี่ยนไป จากที่เคยทานของที่ตัวเองชอบกลับรู้สึกว่าไม่อร่อย หรือบางครั้งก็รู้สึกอยากทานอาหารแปลกๆ ที่ตัวเองไม่เคยทานมาก่อน และก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงอยากทานขึ้นมา
6. อาการท้องผูกง่าย
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น อาจไปกระตุ้นให้กระบวนการย่อยอาหารและขับถ่ายทำงานช้าลง จึงทำให้คุณมีอาการท้องผูกเพิ่มขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ และกินอาหารที่มีกากใย จะช่วยให้ลำไส้บีบตัวได้ดีขึ้น
7. รู้สึกเหม็น
เพราะการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในร่างกายมีปฏิกริยากับสิ่งที่สัมผัสได้ ทั้งกลิ่น รส เสียง สัมผัส อาจทำให้คุณกลายเป็นคนจมูกไวเป็นพิเศษ ได้กลิ่นอะไรนิดๆ หน่อยก็รู้สึกเหม็นไปเสียหมด แม้กระทั่งอาหารที่ตัวเองเคยชอบทานหรือกลิ่นน้ำหอมที่ตัวเองใช้เป็นประจำ
8. อาการแพ้ท้อง
เมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณ 6 สัปดาห์ ส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อยาก อาเจียนหลังตื่นนอนในตอนเช้า บางรายอาจเป็นในช่วงเย็นๆ บางรายมีอาการต่อเนื่องกัน ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะตอนที่ท้องว่าง บางทีหิวแต่กินไม่ได้มาก ทำให้เกิด อาการวิงเวียนจะเป็นลม เนื่องจากมีน้ำตาลในเลือดต่ำ
9. เจ้าอารมณ์ อารมณ์อ่อนไหวแปรปรวนง่าย
อาจเป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลง บ่อยครั้งที่ได้ยิน ได้ฟังเรื่องเศร้าๆ ก็ร้องไห้ น้ำตาซึม หรือปล่อยโฮ ดูหนังเศร้าก็ร้องไห้เสียใจ หรือมีอารมณ์แปรปรวนขี้หงุดหงิดและเป็นบ่อยๆ เห็นอะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่พอใจซะแล้ว สาเหตุก็คือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ซึ่งอาการแบบนี้ก็จะเหมือนกับช่วงก่อนมีประจำเดือน แต่จะดูรุนแรงกว่า
10. มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด
เลือดที่ไหลออกมามีปริมาณแค่นิดเดียว และอาจจะรู้สึกปวดเกร็งตรงช่วงท้องน้อยบ่อยๆ เนื่องจากมดลูกมีการขยายตัวนั้นเองค่ะ โดยจะมีอาการอยู่ประมาณ 3 เดือนแรก
[yengo]
การดูแลตนเองเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์
ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่ควรจะดูแลตัวเองให้มากขึ้น รวมทั้งสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับตัวเอง ระวังไม่เครียดจนเกินไป เริ่มวางแผนเรื่องต่างๆ โดยการอ่านหนังสือคู่มือการตั้งครรภ์และเตรียมคลอด ที่สำคัญควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะในช่วงการตั้งครรภ์นั้นร่างกายจะอ่อนเพลียง่าย และควรลดกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะ นอกจากนั้นควรจะทำการฝากครรภ์และไปพบคุณหมอให้ตรงตามนัดเพื่อสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรง
ที่สำคัญต้องเอาใจใส่เรื่องอาหารให้มากขึ้น แม่ท้องไม่ควรจะอด หรือควบคุมอาหาร ควรจะเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ ควรเสริมอาหารจำพวกโปรตีน ธาตุเหล็ก และแคลเซียมรวมทั้งกรดโฟลิกให้เพียงพอ เมื่อไปพบแพทย์ หากว่าได้รับวิตามินเสริมใดๆ มาก็ควรทานอย่างสม่ำเสมอ ส่วนอาหารที่แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงก็คือ อาหารหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายและยังส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์ อย่างเช่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือทานของหวานมากเกินไป และที่สำคัญไม่ควรสูบบุหรี่เป็นอย่างยิ่งค่ะ
การหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลง เป็นไปของร่างกายและสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะ หากมีอาการเหมือนคนท้องที่เราได้กล่าวไปแล้วนั้น และสงสัยว่ากำลังตั้งท้อง แนะนำให้ตรวจดูให้แน่ใจ เมื่อพบว่ากำลังตั้งท้องก็ควรเริ่มวางแผนชีวิต ดูแลเอาใจใส่สุขภาพ ยิ่งได้รู้ว่าตั้งครรภ์เร็วมากแค่ไหน ก็จะทำให้คุณสามารถดูแลลูกน้อยในครรภ์ได้เร็วขึ้นเท่านั้น ฝากครรภ์เร็วขึ้น บำรุงครรภ์ได้อย่างเหมาะสมอีกด้วยค่ะ เพื่อครรภ์ที่สมบูรณ์เริ่มที่ตัวคุณนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com