น้ำอุ่น น้ำเย็น อาบน้ำแบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่า ??
advertisement
การอาบน้ำเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทุกคนต้องทำเพื่อรักษาความสะอาดของร่างกาย หลายคนใช้เวลาอาบน้ำนานเป็นชั่วโมง ในขณะที่บางคนอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที หลายคนใช้การอาบน้ำเป็นการผ่อนคลายความเหนื่อยเมื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน แต่ปัจจัยสำคัญของการอาบน้ำคือ อุณหภูมิของน้ำที่เราใช้อาบที่จะเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของต่อมต่างๆ ในร่างกาย ทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิต ระบบการหายใจทำงานได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนก็สงสัยกันว่า แท้จริงแล้ว อาบน้ำอุ่น หรือน้ำเย็น อันไหนดีกว่ากัน วันนี้ Kaijeaw.com เลย มีคำตอบมาฝากกัน ลองอ่านกันดูเลย
advertisement
ข้อดีของการอาบน้ำอุ่น
– การอาบน้ำอุ่น ที่ดีที่สุดน้ำจะต้องมีอุณภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 27-34 องศาเซลเซียส หรือไม่ควรอุ่นเกินอุณหภูมิของร่างกาย 2 องศา และไม่ควรอาบนานเกิน 10-15 นาที เพราะจะทำให้ผิวแห้งได้
– ช่วยกระตุ้นโลหิตให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น
-จะช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปี้กระเปร่า ผ่อนคลายความเครียด ยิ่งถ้าได้อาบน้ำอุ่นก่อนนอน ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพ เพราะจะทำให้นอนหลับสบายได้ดียิ่งขึ้น
-ความอุ่นของน้ำจะเข้าไปเปิด รูขุมขนทำให้ผิวหายใจได้มากขึ้น และยังช่วยชะล้างไขมันและสิ่งสกปรกได้ดีกว่าการอาบน้ำธรรมดา
ส่วนข้อเสียของการอาบน้ำอุ่น ก็มีแต่ผิวแห้ง ซึ่งแก้ได้ด้วยการทาครีมบำรุงผิวหลังอาบน้ำเสร็จ
advertisement
ข้อดีของการอาบน้ำเย็น
-ความเย็นของน้ำจะทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังได้มากขึ้น ทำให้เกิดการหมุนเวียนได้ดี ซึ่งจะช่วยให้ผิวเต่งตึงเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เสมอ
– ร่างกายสร้างฮอร์โมนเพิ่มขึ้น การอาบน้ำเย็นนั้นช่วยให้ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายเพิ่ม แถมยังมีการวิจัยเพิ่มเติมแสดงให้เห็นอีกว่าการอาบน้ำเย็นช่วยทำให้ปริมาณของอสุจิเพิ่มขึ้น ในขณะที่การอาบน้ำอุ่นทำให้จำนวนอสุจิลดลงซะอีก
-ช่วยลดภาวะซึมเศร้า แค่เพียงอาบน้ำเย็นก็ช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อน้ำเย็นกระทบกับผิวแล้วมันจะส่งแรงกระตุ้นจำนวนมากจากปลายประสาทไปสู่สมอง ซึ่งให้ผลใกล้เคียงกับการยารักษาโรคซึมเศร้าเลยเชียว
ส่วนข้อเสียของการอาบน้ำเย็นก็คือ จะให้ความรู้สึกหนาว แต่รู้ไม่ว่าหลังจากอาบน้ำเย็นเสร็จจะรู้สึกอุ่นขึ้นมาในทันทีเลย
advertisement
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
– การอาบน้ำอุ่น ช่วยให้รูขุมขนเปิด การอาบน้ำเย็น ช่วยให้รูขุมขนปิด
– น้ำร้อน (36-38 องศา) ช่วยในการบำบัดความรู้สึกกังวลจากความเครียด หรือเกิดการดึงของกล้ามเนื้อ (เวลาที่ใช้ในการแช่น้ำไม่ควรเกิน 20 นาที)
– น้ำอุ่น (29-39 องศา) ช่วยในการผ่อนคลายความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือความเครียด
– น้ำเย็น (10-29 องศา) ช่วยในการกระตุ้นการทำงานทั้งร่างกายและจิตใจ (เวลาที่ใช้ในการแช่น้ำไม่ควรเกิน 2 นาที)
จริงๆแล้วการอาบน้ำอุ่นและน้ำเย็นมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป สามารถเลือกอาบได้ตามความเหมาะสม ส่วนใครที่เลือกแช่ตัวลงในอ่างอาบน้ำ สามารถเติมน้ำมันหอมระเหยลงไปเพื่อช่วยในการผ่อนคลาย และควรผสมเกลือลงไปในน้ำด้วยเพื่อกระตุ้นระบบการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงาน ดีขึ้น วิธีง่ายๆแค่นี้จะช่วยให้คุณสนุกการอาบน้ำมากขึ้นได้แล้วละคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com