อาหารที่ควรเลี่ยง..ก่อนออกกำลังกาย!!
advertisement
หลายๆ คนมักจะทานอาหารตามใจปาก เพราะคิดว่าร่างกายจะเผาผลาญอาหารทั้งหมดด้วยการออกกำลังกาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากคุณอยากจะมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงนั้น ก็ควรควบคุมอาหารไปพร้อมๆ กับการออกกำลังกายด้วย เพราะอาหารที่ทานเข้าไป โดยเฉพาะหากเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์และให้พลังงานสูงๆ จะไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยการออกกำลังกายได้ในคราวเดียวกัน หรือหากได้คุณก็ต้องหักโหมเป็นอย่างมาก จะกลายเป็นให้โทษมากกว่าให้คุณประโยชน์กับร่างกาย การทานอาหารก่อนออกกำลังกายนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ วันนี้ Kaijeaw.com จึงมี 10 อาหารที่ควรเลี่ยง..ก่อนออกกำลังกาย!! มาฝากกันค่ะ
advertisement
การทานอาหารก่อนออกกำลังกาย จะช่วยทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น เพราะร่างกายแปลงพลังงานมาเก็บสะสมไว้ในรูปของพลังงานสำรองที่เรียกว่าไกรโคเจน เมื่อมีพลังงานก็มีแรงออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง โดยสามารถพบไกรโคเจนได้ในอาหารจำพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้ออีกด้วย [ads]
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนออกกำลังกาย ได้แก่
1. อาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงๆ
น้ำตาลที่ผสมอยู่ในของหวานหรือขนมหวานต่างๆ ทำให้อาหารเหล่านี้มีสารคาร์โบไฮเดรตสูง และเมื่อร่างกายของคุณรับคาร์โบไฮเดรตเข้าไปมากๆ ก็เป็นแหล่งพลังงานที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่อาหารที่คุณควรรับประทานก่อนออกกำลังกาย เพราะถึงแม้น้ำตาลจะช่วยเพิ่มพลังได้ แต่ก็แค่ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น หลังจากนั้นเจ้าน้ำตาลที่เรารับประทานเข้าไป จะไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราเกิดการผกผัน และจบลงด้วยการทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลียและหมดแรงยิ่งกว่าเดิม
2. เมล็ดเจีย
เมล็ดเจียอุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมากๆ และเวลารับประทานเมล็ดเจียคุณจำเป็นต้องดื่มน้ำมากๆ ตามไปด้วย เพราะในเมล็ดเจีย สามารถดูดซึมน้ำได้มากกว่าขนาดของเมล็ดถึง 12 เท่า ทำให้รับประทานเข้าไปแล้วจะช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำมากขึ้น ซึ่งก็ดีอยู่ที่จะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ แต่อาจมีผลทำให้คุณจุก และอึดอัดแน่นท้อง อีกทั้งยังแถมกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายให้ทำงานดีเกินไป จนคุณต้องเข้าห้องน้ำขณะออกกำลังกาย ทางที่ดีคุณควรรับประทานเมล็ดเจียก่อนออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป หรือทานหลังออกกำลังกายเสร็จจะดีมากกว่า
3. อาหารรสจัดจ้าน
อาหารรสจัดจ้านต่างๆ โดยเฉพาะรสเผ็ดๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารหลั่งออกมามากขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนได้ ซึ่งถ้าหากรับประทานอาหารเผ็ดๆ แล้วไปออกกำลังกาย อาจทำให้คุณรู้สึกแสบร้อนที่บริเวณกลางอกเนื่องจากกรดได้ และส่งผลให้คุณออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่
4. ของทอด
อาหารจำพวกของทอด นับเป็นอาหารที่ย่อยยาก จึงไม่ควรรับประทานก่อนออกกำลังกายโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานอย่างหนักเพื่อย่อยอาหาร ส่งผลทำให้คุณไม่มีแรงออกกำลังกายอย่างเต็มที่ และอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรือตะคริวที่ท้องได้
5. อาหารเสริมเวย์โปรตีน
หลายคนมักคิดว่าการรับประทานเวย์โปรตีน ก่อนออกกำลังกายจะช่วยให้มีพลังงานในการออกกำลังกายมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าเวย์โปรตีนบางชนิดมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่ ซึ่งก็เท่ากับว่าหากดื่มเข้าไปก็จะทำให้ได้รับน้ำตาลเข้าไปด้วย แม้จะได้พลังงานจากโปรตีนเต็มที่ แต่น้ำตาลก็ทำให้เกิดการผกผันของระดับน้ำตาลในเลือดจนทำให้อ่อนเพลียลงได้ หากทานก็ควรเลี่ยงชนิดที่ผสมน้ำตาลค่ะ
6. น้ำอัดลม
นอกจากเป็นเครื่องดื่มน้ำตาลสูงที่ให้โทษมากกว่าประโยชน์ จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มก่อนออกกำลังกาย เพราะนอกจากจะทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดผกผัน ยังทำให้ท้องอืดและแก๊สอัดแน่นในกระเพาะอีกด้วย โดยเครื่องดื่มที่ควรดื่มในเวลาออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำเปล่าจะดีที่สุด
7. ไข่ไก่ดิบ
บางคนเชื่อว่าการรับประทานไข่ไก่ดิบ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรับประทานไข่ไก่ดิบนั้น นอกจากจะไม่ได้ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อของคุณแล้ว ยังอาจทำให้คุณท้องเสียได้ง่ายๆ อีกด้วย ดังนั้นทางที่ดีควรลเปลี่ยนมารับประทานไข่ไก่ต้มสุกจะดีกว่า
8. อะโวคาโด
แม้จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแต่ก็ไม่ควรรับประทานก่อนออกกำลังกายค่ะ อะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันดี โปรตีน และไฟเบอร์ ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงจะส่งผลให้พลังงานในร่างกายลดลง เนื่องจากร่างกายต้องนำพลังงานที่มีอยู่ไปเผาผลาญไขมันเหล่านี้ ดังนั้นสำหรับอะโวคาโดนั้น ควรเก็บอะโวคาโดนั้นไว้รับประทานหลังออกกำลังกายจะดีกว่า
9. ถั่ว
ถั่วอาจมีผลทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารมาก อีกทั้งยังย่อยยาก ดังนั้นถ้าไม่อยากรู้สึกไม่สบายท้องจนออกกำลังกายไม่ไหว ควรหาเมนูอื่นๆ รับประทานและเลี่ยงถั่วจะเป็นการดีมากกว่า
10. เครื่องดื่มเกลือแร่ต่างๆ
ที่เรามักจะรู้จากโฆษณาสื่อต่างๆ ชักชวนให้ดื่มเวลาออกกำลังกาย ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีของเครื่องดื่มที่ควรดื่มก่อนออกกำลังกายเลย เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้อุดมด้วยน้ำตาลหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล อันก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และท้องอืดได้ แม้ว่าคาเฟอีนในเครื่องดื่มจะช่วยเพิ่มพลังงานได้ก็ตาม ดังนั้น หากอยากได้พลังงานเพิ่มแบบไม่ต้องกังวลเรื่องผลกระทบจากน้ำตาล ลองหันมาดื่มชา หรือกาแฟดำก่อนออกกำลังกายแทน ก็ช่วยเพิ่มพลังงานได้เหมือนกัน [ads]
advertisement
การรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกาย
สำหรับมื้อก่อนออกกำลังกาย หน้าที่ของมันคือช่วยให้เราออกกำลังกายได้นาน และป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ดังนั้น อาหารที่ควรกินคือ สารอาหารประเภทโปรตีนที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และคาร์โบไฮเดรตที่ช่วยให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ
แนะนำให้เลือกทานโปรตีนดี เช่น ไข่ต้ม อกไก่ หรือบางคนอาจจะดื่มเวย์โปรตีนก็สะดวกเช่นกันแต่ควรเลือกชนิดที่ไม่ผสมน้ำตาล สำหรับคาร์โบไฮเดรต คนทั่วๆ ไปอย่างเราควรจะเลือกอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจำพวก ข้าวขัดสีน้อย เช่นขนมปังโฮลวีตหรือข้าวกล้อง ถั่ว ธัญพืชต่างๆ ในปริมาณที่พอเหมาะ ควรจะทานก่อนออกกำลังกายประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
ในระหว่างการออกกำลังกายก็ควรจะจิบน้ำเปล่าเป็นระยะ นอกจากจะทำให้ร่างกายสดชื่นแล้ว ยังช่วยป้องกันตะคริวที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนักด้วย
การรับประทานอาหารหลังออกกำลังกาย
เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้ว เราควรทานมื้อหลังออกกำลังกายภายในระยะเวลา 30 – 45 นาที เพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ โดยควรจะเน้นอาหารจำพวกโปรตีนเป็นหลัก ตามมาด้วยคาร์โบไฮเดรตอีกเล็กน้อย
จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายนั้นสำคัญและดีต่อสุขภาพ โดยต้องรู้จักเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และต้องเหมาะแก่การออกกำลังกายด้วย นอกจากนี้ก็ควรทานก่อนเริ่มออกกำลังกายอย่างน้อยประมาณ 45 นาทีด้วยนะคะ เพื่อสะสมพลังงานเอาไว้ก่อนเลย และจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดยามต้องออกกำลังนั่นเองค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com