15 อาหารอิ่มนาน กินแล้วอยู่ท้อง ช่วยลดน้ำหนักได้!!

     สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และลดน้ำหนัก มักจะเลือกรับประทานอาหารที่กินแล้วไม่อ้วน ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม บางคนใช้วิธีการอดอาหารหรือลดเนื้อสัตว์ ซึ่งอาจได้ผลจริง แต่อาหารบางชนิดเมื่อกินไปเพียงครู่ก็จะรู้สึกหิวขึ้นมาอีก ทำให้เกิดการกินจุบจิบ เป็นสาเหตุให้ได้รับพลังงานเกินได้ ซึ่งแทนที่จะใช้วิธีการอด เราควรจะเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ แต่มีวิธีการเลือกทานอาหารที่อิ่มนาน ซึ่งจะช่วยลดความอ้วนได้ อะไรบ้างนั้น ตาม Kaijeaw.com มาเลยค่ะ

15 อาหารอิ่มนาน กินแล้วอยู่ท้อง ช่วยลดความอ้วน!!

    อาหารที่กินแล้วอิ่มได้นาน คือหมู่อาหารประเภทโปรตีน โดยควรเลือกทานชนิดไม่มีไขมัน หรือไขมันน้อย และคาร์โบไฮเดรต จำพวกกลุ่มแป้งไม่ขัดขาว ซึ่งมีเส้นใยอาหารอยู่มาก

1) ไข่ โปรตีนในไข่จะช่วยให้แป้งและน้ำตาลถูกย่อยและดูดซึมอย่างช้าๆ ร่างกายจะค่อยๆ นำไปใช้พลังงานจนไม่เหลือสะสมเป็นไขมันเกาะตามร่างกาย ทั้งยังมีประโยชน์ต่อหัวใจ แต่ควรระวังในส่วนของไข่แดง ในคนปกติไม่ควรกินมากกว่า 1 ใบ เพราะจำกัดในเรื่องของคอเลสเตอรอล หากอยากได้โปรตีนเพิ่มควรกินเพิ่มเฉพาะส่วนของไข่ขาว 

2) ถั่ว ถั่วทุกชนิดมีไขมันที่ดีต่อร่างกาย และมีโปรตีน ไฟเบอร์ และธาตุเหล็กสูง มีส่วนช่วยเผาผลาญไขมันออกจากกล้ามเนื้อ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี แนะนำให้กินถั่วแทนของว่างจะมีโอกาสผอมได้เร็วกว่าคนที่ไม่กินถั่ว 

3) อัลมอนด์ มีส่วนประกอบของโปรตีน และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นไขมันดี และเส้นใยอาหาร ถือเป็นอาหารว่างที่ยอดนิยมที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจ 

4) ข้าวโอ๊ต เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยมีไขมันต่ำ อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน เกลือแร่และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ โดยเฉพาะเส้นใยละลายน้ำเบต้ากลูแคน ช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ต้องการควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอล และผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ช่วยป้องกันหรือรักษาอาหารท้องผูก ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ใยอาหารในข้าวโอ๊ตจะดูดซึมน้ำไว้ในปริมาณมาก ทำให้กระบวนการย่อยอาหารเป็นไปอย่างช้าๆ ส่งผลให้รู้สึกอิ่มได้นาน ไม่หิวง่าย [ads]

5) เครื่องเทศ เครื่องเทศในอาหารหลายอย่างมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน แนะนำเมล็ดมัสตาร์ดที่จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ขิงช่วยย่อยอาหาร โสมช่วยเพิ่มพลังงานให้คุณ และพริกดำช่วยเผาผลาญแคลอรี่และขมิ้นสามารถช่วยสลายไขมันได้

6) อกไก่ มีโปรตีนสูงและเป็นส่วนที่ไขมันต่ำ แต่ก็หลีกเลี่ยงส่วนหนังไก่เพราะมีไขมันอยู่มาก

7) เต้าหู้ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง กินแล้วอิ่มได้นาน ทั้งยังมีประโยชน์มากมาย มีแคลเซียมเสริมสร้างกระดูกและฟัน มีสารสำคัญที่ชื่อเลซิทิน สามารถลดไขมันและเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความจำ มีฮอร์โมนจากพืช อย่างไฟโตเอสโตรเจน ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ลดอาการวัยทองในผู้หญิงสูงวัย และลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม ทั้งนี้เต้าหู้ยังยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี และทดแทนโปรตีนจากการกินเนื้อสัตว์ 

8) เนื้อปลา อุดมไปด้วยโปรตีนชนิดดี ไขมันต่ำและย่อยง่าย ในปลาทะเล อย่างเช่น แซลมอนหรือทูน่า มีโปรตีนที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ และกรดไขมันโอเมกา 3 ที่ช่วยควบคุมความรู้สึกอยากอาหาร และช่วยบำรุงสมองได้ดี

9) มันฝรั่ง ให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และเส้นใยอาหาร ทั้งยังให้โพแทสเซียมและวิตามินซีในปริมาณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แนะนำให้กินมันฝรั่งต้มหรือเผา จะช่วยเก็บรักษาวิตามินซีไว้ได้มาก แต่ระวังไม่ควรนำมันฝรั่งไปทอด เพราะจะเป็นการทำลายวิตามินซี และน้ำมันจะทำให้น้ำหนักขึ้นมากแทนที่จะช่วยลด [ads]

10) กล้วยหอม มีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "สารต้านแป้ง" มีคุณสมบัติทำให้ร่างกายย่อยอาหารช้าลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ คนที่รับประทานกล้วยจะรู้สึกหิวช้ากว่าปกติ แนะนำให้กินกล้วยที่มีลักษณะกึ่งสุกกึ่งดิบจะเหมาะสำหรับเป็นอาหารลดความอ้วนได้ดีกว่ากล้วยที่สุกเต็มที่เพราะมีน้ำตาลน้อยกว่า 

11) แอปเปิ้ล สามารถช่วยชะลอระบบย่อยอาหารให้ทำงานช้าลง ช่วยทำให้ความอยากอาหารลดลงไปมาก นอกจากนี้เมื่อเกิดอาการหิว หากได้สูดกลิ่นจากแอปเปิ้ลเขียวจะทำให้รู้สึกอิ่มได้ และยังรับประทานอะไรได้น้อยลงด้วย 

12) บร็อคโคลี่ เป็นผักที่จัดอยู่ในกลุ่มผักที่มีไฟเบอร์สูงสุด เป็นไฟเบอร์ที่ปราศจากแคลอรี่และน้ำ ซึ่งจะทำให้รู้สึกอิ่ม รับประทานแล้วไม่อ้วน 

13) ส้ม ส้มเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยแต่มีไฟเบอร์สูง และยังช่วยเพิ่มสารต้านทานอินซูลินในเลือด ทำให้อิ่มท้องได้นานขึ้น มีผลวิจัยบอกว่าคนที่กินส้มครึ่งลูกก่อนทานอาหารทั้ง 3 มื้อใน 1 วัน จะลดน้ำหนักได้ถึง 1 กิโลครึ่งในเวลา 12 สัปดาห์ ถ้าเทียบกับคนที่ไม่ได้กิน

14) มะเขือเทศ นอกจากกินแล้วจะรู้สึกอิ่มได้นานไม่หิวง่าย ไม่กินของจุกจิก จึงจะช่วยลดความอ้วนได้ดี มะเขือเทศยังบำรุงผิวให้ผิวสวย ทานแบบปรุงสุกมีสารไลโคพีนสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันมะเร็ง ทานแบบสดๆ มีวิตามินซีสูงช่วยเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ ได้ดี 

15) อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่เป็นตัวช่วยสำหรับการลดน้ำหนักอีกชนิด ด้วยที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต (แป้งและน้ำตาล) ต่ำ แม้แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานก็สามารถทานอะโวคาโดได้ มีโปรตีนสูง (สูงกว่าผลไม้สดอื่นๆ ประมาณ 0.8 – 1.7 %) และมีกรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์ สำหรับร่างกายใช้ในการช่วยย่อยโปรตีนที่ดีขึ้น

     สำหรับใครที่เคยลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนความคิดกันแล้วนะคะ ควรเลือกรับประทานอาหาร โดยเน้นรับประทานอาหารที่อยู่ท้อง แคลอรี่ต่ำ วิตามินและสารอาหารสูง ให้ครบทั้ง 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทแป้งขัดข้าว อาหารที่มีไขมันสูง ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างมีวินัยและความตั้งใจจริง เพียงเท่านี้คุณก็จะมีหุ่นสวยและสุขภาพดีได้ ไม่ยากเลยนะคะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com