อุทาหรณ์ ปลูก ‘หนาน เฉา เหว่ย’ กินรักษาเบาหวาน สุดท้ายสมองขาดเลือด เบาหวานพุ่งสูง
advertisement
เป็นที่รู้จักกันในเป็นวงกว้าง สำหรับ "หนาน เฉา เหว่ย" สมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน มีชื่อสามัญไทยว่า "ป่าช้าเหงา, ป่าช้าหมอง" ที่เชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค ทั้งใบ ทานใบสด และนำไปต้มดื่มกับน้ำ มีสรรพคุณ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันเลือด
advertisement
advertisement
ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก Neurologist P ได้โพสต์ประสบการณ์การใช้สมุนไพร หนาน เฉา เหว่ย โดยป้าปลูกไว้ทานเอง และได้ทิ้งยาแผนปัจจุบันเลย สุดท้ายไปต้องไปนอนโรงพยาบาลเพราะอะไรไปดู โดยได้โพสต์ระบุว่า….[ads]
advertisement
หนาน เฉา เหว่ย
ตั้งแต่ปลูกขึ้น ป้าทิ้งยาแผนปัจจุบันไปเลย ข้างบ้านกินแล้วหายเบาหวานเลย เค้าบอกว่ามีงานวิจัยมาแล้ว….จ้า
ปล1. ป้านอนโรงพยาบาลด้วยสมองขาดเลือด
งานวิจัยของ หนาน เฉา เหว่ย มีแต่งานทดลองในหนู และเป็นหนูที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวานโดยตรงถูกกระตุ้นให้เป็น มีเฉพาะงานวิจัยจากจีน ซึ่งยังเล็กมากๆนะครับถ้าเทียบกับยาที่คนไข้ได้รับก่อนหน้านี้ …
ปล2. เป็นไปได้ที่ความหวังของป้า คือ หาย ไม่อยากทานยา…..อนาคตอีก 20-50 ปี อาจจะรักษาเบาหวานให้หายได้ แต่ตอนนี้เส้นเลือดป้าคงรับไม่ไหวล่ะ
ก่อนจะว่าป้า ….. ลองถามความรู้เกี่ยวกับเบาหวานป้าสักเล็กน้อย
1. เบาหวาน คือ ไรป้า ตอบ น้ำตาลสูง
2. เบาหวานเกิดจากไรป้า ตอบ ไม่รู้หมอ เป็นของมันเอง
3. ป้าคุมอาหารดีมั้ยครับ อาหารหวาน ตอบ คุม ดีสิจ้ะ คุมดี เดิมหมอก็ว่าป้าคุมดี
4. ทานยาเบาหวานนานๆ รู้สึกอย่างไรบ้างครับ ตอบ ไม่อยากทานยา คนทานยาความดันเบาหวาน ก็เห็นเป็น ไต ตายกันทั้งนั้นและ กินไปก็ไม่เห็นหาย
5. เบาหวานเป็นนานๆ คุมไม่ดีรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ตอบ มาหาหมอบ่อย กินยาเพิ่ม
ความรู้เรื่องโรค และ ยา สำคัญมากๆนะครับ สำหรับ โรคเรื้อรัง ….. คนสูงอายุ มีโอกาสปรับยาเองตามความสบายใจได้เยอะมาก…..เช่น ลดลงครึ่งนึง กินวันเว้นวัน เว้น 2 , เพลียสุดอาทิตย์ล่ะเม็ด…..และที่เจอบ่อย คือ ญาติบุคลากรทางการแพทย์
advertisement
กินแล้วทำไมหนักกว่าเดิม
advertisement
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
advertisement
advertisement
– –
advertisement
เภสัชกรชำนาญการศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ได้เคยออกมาเตือนสมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้ทำให้โรคหลายขาด ทั้งยังจะอาจจะอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Neurologist P