เจตมูลเพลิงขาว..เป็นยาดี ช่วยลดการอุดตันในเส้นเลือด
advertisement
“เจตมูลเพลิงขาว” เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งสามารถพบได้ตามป่าที่ราบ ป่าโปร่ง ป่าดิบแล้ง และป่าดงดิบทั่วไป ในประเทศไทยจะพบได้มากทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก และทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ สามารถใช้ทุกส่วนให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งราก ลำต้น ใบ ดอก และ ผล มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรมากโดยสารสำคัญที่อยู่ในรากเจตมูลเพลิงขาวนั้นก็คือสาร Plumbagin ที่มีกลิ่นเหม็นและรสเผ็ดขม ซึ่งหากนำมารักษาได้หลายโรคทั้งโรคผิวหนัง มีฤทธิ์ในการต้านเซลล์มะเร็ง ช่วยลดไขมันในเลือด และช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย จากสรรพคุณดังกล่าวนั้น คงทำให้หลายๆ คนอยากจะรู้จักกับสมุนไพรเจตมูลเพลิงขาวกันบ้างแล้วใช่มั้ยคะ ไม่รอช้าค่ะ ตาม Kaijeaw.com มารู้จักกับสรรพคุณดีๆ ของสมุนไพรชนิดนี้กันเลย
advertisement
เจตมูลเพลิงขาวมีชื่อสามัญว่า Ceylon Leadwort, White Leadwort มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Plumbago zeylanica L. จัดอยู่ในวงศ์ PLUMBAGINACEAE เช่นเดียวกับเจตมูลเพลิงแดง และมีชื่อเรียกอื่นๆ ตามท้องถิ่นว่า ปิดปิวขาว (ภาคเหนือ), ตั้งชู้อ้วย ตอชูวา (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ตอชู (กะเหรี่ยงเชียงใหม่), โก้นหลัวะ (ม้ง), หนวดแมว (ไทลื้อ), ป๋ายฮัวตาน ไป๋ฮวาตัน ไป๋เสี่ยฮวา (จีนกลาง), แปะฮวยตัง (แต้จิ๋ว), ปิ๋ด ปี๋ ขาว ปี่ปีขาว เป็นต้น [ads]
advertisement
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของเจตมูลเพลิงขาว จะเป็นไม้พุ่มเตี้ยหรือไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 1-3 เมตร กิ่งก้านมักทอดยาว ใบรูปไข่ ยาว 3-13 ซม. ปลายใบแหลมยาว ตอนปลายเป็นติ่ง โคนในรูปลิ่มหรือมน ใบบาง ช่อดอกแบบช่อกระจะเชิงลด ดอกจำนวนมาก แกนกลางและก้านช่อดอกมีต่อมไร้ก้าน (เจตมูลเพลิงแดงไม่มี) ช่อดอกยาวได้ประมาณ 15 ซม. ก้านช่อยาว 1.5-2 ซม. ใบประดับรูปไข่ ยาว 0.4-0.8 ซม. ใบประดับย่อยรูปแถบ ยาวประมาณ 0.2 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ยาวประมาณ 1 ซม. มีต่อมหนาแน่น กลีบดอกสีขาวหรือสีฟ้าอ่อน หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 2 ซม. กลีบดอกรูปไข่กลับหรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ยาวประมาณ 0.7 ซม. ปลายแหลมหรือเป็นติ่ง อับเรณูสีน้ำเงิน ยาวประมาณ 0.2 ซม. รังไข่รูปรี เป็น 5 เหลี่ยม ก้านเกสรเพศเมียเกลี้ยง ผลแบบแคปซูล
advertisement
สรรพคุณทางยาสมุนไพรของเจตมูลเพลิงขาว
ราก – มีรสร้อน ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้อาการหาวเรอ ช่วยย่อย ทำให้เจริญอาหาร ขับประจำเดือน แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย กระจายเลือดลม แก้ริดสีดวงทวาร แก้บวม แก้คุดทะราด เข้ายาบำรุงธาตุ บำรุงโลหิต ขับโลหิตที่เป็นพิษ ใช้ภายนอกแก้โรคผิวหนังบางชนิด หรือใช้ผงรากปิดพอกฝี ทาแก้กลากเกลื้อนและผื่นคัน แก้ปวดข้อ และมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา สาร plumbagin จากรากมีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง ลดไขมันในเลือด และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
ต้น – เป็นยาขับระดู
ใบ – มีรสร้อน แก้ลมและเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร ขับผายลม ใช้ใบตำพอกแก้ฟกช้ำ ฝีบวม แก้ไข้มาลาเรีย แก้ปวดเมื่อย กระดูกหัก ปอดบวม
ดอก – มีรสร้อน แก้โรคตา แก้หนาวเย็น ลำต้น รสร้อน ขับประจำเดือน [yengo]
advertisement
วิธีการใช้ยาสมุนไพร
– ใช้รักษาโรคผิวหนังหนาอันเนื่องมาจากการเสียดสีกันนานๆ ใช้ใบสดและข้าวสวยอย่างละ 1 กำมือ ใส่เกลือเล็กน้อย นำมาตำเคล้ากันให้ละเอียดจึงนำมาบริเวณที่เป็น
– แก้ปวดข้อหรือเคล็ดขัดยอก ใช้รากแห้ง 1.5-3 กรัม ต้มน้ำหรือแช่เหล้า รับประทานครั้งละ 5 ซี.ซี. วันละ 2 ครั้ง
– ขับประจำเดือน ใช้รากแห้ง 30 กรัม และเนื้อหมูแดง 60 กรัม ต้มน้ำดื่ม
– แก้กลากเกลื้อน ใช้รากสด 1-2 ราก ตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำหรือเหล้าหรือน้ำมันพืชเล็กน้อย ทาบริเวณที่เป็น
– แก้ไข้มาเลเรีย ใช้ใบสด 7-8 ใบ ตำละเอียด พอกบริเวณชีพจรตรงข้อมือ 2 ข้าง ก่อนจะเกิดอาการ 2 ชั่วโมง (พอกจนกระทั่งบริเวณที่พอกรู้สึกเย็นจึงเอาออก)
– ฝีคัณฑสูตร ฝีบวม เต้านมอักเสบ ไฟลามทุ่ง ใช้ใบสดพอประมาณ ตำให้ละเอียด ใช้ผ้าพันแผล 2 ชั้นห่อพอกบริเวณที่เป็นจนกระทั่งหาย
– แก้ฟกช้ำ ใช้ใบสด 1 กำมือ ตำให้ละเอียด ใส่เหล้าเล็กน้อย ทาบริเวณที่เป็น
– รักษาตับหรือม้ามโต ให้ใช้ทั้งต้นเจตมูลเพลิงขาว นำมาดองกับเหล้ารับประทานเช้าเย็น หรือจะนำต้นแห้งมาบดเป็นผง ผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำให้เป็นยาลูกกลอนใช้รับประทานหลังอาหารครั้งละ 1 เมล็ด (ขนาดเม็ดละประมาณ 3-3.5 กรัม) เช้าเย็นก็ได้ หรือจะใช้รากนำมาดองกับเหล้ารับประทาน จะช่วยแก้อาการม้ามบวมได้ แต่ถ้าอาการหนักก็ให้นำใบสดมาตำให้ละเอียดคลุกกับข้าวเหนียวปั้นเป็นเม็ดขนาดพอดี แล้วนำไปนึ่งให้สุก ใช้รับประทานก่อนนอนและตื่นนอนครั้งละ 1 เม็ด
– ยารักษาแผลสด ห้ามเลือด ใช้ใบนำมาตำคั้นเอาแต่น้ำใช้ทาหรือใช้พอก
– สมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี ใช้ ราก เข้ายากับพริกไทย ดองเหล้าดื่ม ช่วยขับประจำเดือน (เช่นเดียวกับปิดปิวแดง แต่ฤทธิ์น้อยกว่า)
ข้อห้ามใช้
– ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ จะทำให้แท้งได้ เพราะมีฤทธิ์ร้อนและบีบมดลูกเหมือนรากเจตมูลเพลิงแดง (Plumbago indica L.) แต่ฤทธิ์อ่อนกว่า
– การใช้สมุนไพรรักษาโรคผิวหนัง เมื่อทาเจตมูลเพลิงขาวแล้ว ให้สังเกตว่าโรคผิวหนังอาการดีขึ้นหรือไม่ ถ้ามีอาการปพุพองมากขึ้นให้รีบหยุดยา เพราะยาตัวนี้ ถ้าใช้มากจะทำให้เป็นแผลพุพองได้
นอกจากจะใช้เจตมูลเพลิงเป็นยาสมุนไพรได้แล้ว เรายังสามารถนำมาใช้ปลูกเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย เพราะมีดอกที่ดูสวยงาม เป็นพืชที่มีอายุอยู่ได้หลายปี ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อและปักชำ หากใครที่สนใจสมุนไพรชนิดนี้ ก็สามารถนำมาปลูกไว้ประจำบ้านก็จะเป็นการดีไม่น้อยเลยนะคะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com