เตือน เชื้อโควิด-19 เจลล้างมือธรรมดาเอาไม่อยู่ ต้องแอลกอฮอล์ 70%
advertisement
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 63 สภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดกิจกรรมการบรรยายหัวข้อ COVID-19 โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย ดร.นพ.พลวัฒน์ ติ่งเพ็ชร สาขาวิชาจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยา สถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยว่า การติดต่อจากคนสู่คน ไวรัสนี้สามารถติดต่อได้ในระยะน้อยกว่า 2 เมตร เรียกว่าติดต่อผ่านทางละอองฝอย แต่เนื่องจากเชื้อโรคนี้คือ SARS-CoV-2 ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับ SARS-CoV ฉะนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดได้มากกว่าทางละอองฝอย
advertisement
นอกจากนี้ ยังพบว่าเชื้อดังกล่าวยังมีอยู่ในอุจจาระด้วย ฉะนั้นวิธีการป้องกันคือ
1) อย่าอยู่ใกล้กับผู้ป่วย ถ้าอยู่ใกล้กันจำเป็นต้องใส่หน้ากาก
2) ล้างมือก่อนสัมผัสอาหาร หรือสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตัวเอง
3) ปิดฝาก่อนกดชักโครก
ทั้งนี้ เชื้อโรคสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานและไม่ตายง่ายๆ โดยผลการศึกษาพบว่าในอากาศ 20 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 50% เชื้อมีอายุได้ถึง 6 วัน หรือจากการทดลองพบว่าเชื้ออยู่บนพลาสติกได้ 9 วัน และอยู่ในเสื้อกาวน์ได้ถึง 2 วัน
advertisement
จากการทดลองในต่างประเทศ พบว่าต้องใช้แอลกอฮอล์เข้มข้นเกิน 70% เชื้อถึงจะตาย ขณะที่เอทานอล (Ethanol) ต้องมีความเข้มข้น 70-95% เชื้อถึงจะตาย ฉะนั้น ต้องกลับไปดูเจลล้างมือที่เราใช้ว่าเอทานอลเข้มข้นเท่าใด ถ้าเพียงแค่ 50% หรือ 65% คงไม่พอ เชื้อไม่ตาย หรืออาจจะใช้วิธีพกแฮลกอฮอล์ขวดเล็กๆติดตัวตลอดเวลา จะช่วยได้มาก
ทางด้าน พญ.พาณิภัค กตเวทิวงศ์ หน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงอาการและแนวทางการรับมือ โดยผู้ที่ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยคือ ผู้ที่ป่วย ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย และผู้ที่เดินทางไปในแหล่งชุมชนหรือพื้นที่แออัด หน้ากากฝั่งสีเข้มคือฝั่งที่จะสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง ฉะนั้น เมื่อสวมใส่หน้ากากไปแล้ว ไม่ควรนำมือไปสัมผัสฝั่งสีเข้มอีกเป็นอันขาด โดยเฉพาะตอนถอด หากเราไปสัมผัสจะทำให้มีการปนเปื้อนเชื้อ
advertisement
สำหรับอาการที่สามารถสังเกตได้ในชีวิตประจำวัน คือ มีไข้ ไอ เหนื่อย ร่วมกับประวัติที่น่าสงสัย เช่น เดินทางมาจากพื้นที่การระบาด หรือสัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยง ก็ควรมาพบแพทย์ ซึ่งจากสถิติพบว่าผู้ป่วย 1 คน มีโอกาสแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นเฉลี่ยแล้ว 2 ราย ช่วงนี้จึงควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ หากไปมาแล้ว ควรหยุดอยู่บ้าน แยกของใช้ และวัดไข้วันละ 2 ครั้ง หากมีอาการให้รีบไปพบแพทย์
ตอนนี้การป้องกันตนเองจากการรับเชื้อไวรัสเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้มีคนไทยที่ติดเชื้อโควิด-19 มาจากต่างประเทศแล้ว ซึ่งการติดเชื้อก็เริ่มใกล้ตัวเรามากขึ้น
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com, ขอขอบคุณที่มาจาก :