10 โรค..ที่ต้องเฝ้าระวังในวัยชรา!!
advertisement
โดยปกติแล้ว ร่างกายของคนเราจะเริ่มมีความเสื่อมเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เริ่มตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป และเริ่มเสื่อมมากขึ้นๆ เรื่อยๆ เมื่อเข้าสู่วัยชรา ซึ่งถือว่าเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างเห็นได้ชัดเจน ความเสื่อมของร่างกายเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคหลายชนิด อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคทางสมอง โรคกระดูกพรุน เป็นต้น นอกจากนั้นภาวะทางด้านจิตใจก็มีผลต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะภาวะซึมเศร้า ที่มักเกิดกับผู้ที่มีโรคเรื้อรังของร่างกาย ดังนั้นการรู้เท่าทันโรคภัยที่พบได้บ่อยในวัยชราจึงสำคัญ เพื่อจะได้เตรียมตัวรับมือในการดูแลรักษาสุขภาพที่ถูกต้อง
โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
1. โรคทางสมอง ที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ อัลไซเมอร์ สมองเสื่อม และอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ เครียด ขาดการออกกำลังกาย ดื่มเหล้าหนัก สูบบุหรี่ รวมไปถึงกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคสมอง และการเสื่อมของเซลล์สมองส่วนใหญ่จะพบในคนอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
2. โรคเกาต์ ส่วนมากพบในชายสูงอายุมากกว่าหญิง อาการปวดตามข้อชนิดหนึ่งที่เกิดจากมีกรดยูริกสะสมในร่างกายจำนวนมาก โดยเฉพาะตามข้อ ซึ่งคนแต่ละวัยมีระดับกรดยูริกในเลือดที่แตกต่างกัน
3. โรคเบาหวาน เป็นความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อันส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน ก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะและกระหายน้ำบ่อย ดื่มน้ำในปริมาณมากต่อครั้ง อ่อนเพลีย น้ำหนักตัวลดโดยไม่มีสาเหตุ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ตาพร่ามัว หรือตาบอด ไตเสื่อม ชาตามปลายมือปลายเท้าและอาจติดเชื้อได้ง่าย
[ads]
4. โรคความดันโลหิตสูง คนปกติจะมีความดันโลหิต 120/80-139/89 มิลลิเมตรปรอท หากมีค่าความดันมากกว่านี้จัดว่าเป็นผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งโรคนี้ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดง แต่บางครั้งจะมีอาการใจสั่น ปวดศีรษะ หน้ามืด ตาพร่า ถ้าไม่รักษาตั้งแต่เบื้องต้นอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น อัมพฤกษ์ ตาบอด ไตวาย หัวใจวาย เป็นต้น
5. โรคระบบทางเดินปัสสาวะ ในผู้ชายส่วนใหญ่จะเป็นต่อมลูกหมากโต จนกรดท่อปัสสาวะทำให้ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะกลางคืน ปัสสาวะออกไม่หมดทำให้เหลือบางส่วนไว้ในกระเพาะปัสสาวะ อันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ ในผู้หญิงสูงอายุ มักจะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือทางเดินปัสสาวะผิดปกติ
6. โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก พบมากในชายสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป สาเหตุมาจากภาวะความไม่สมดุลของระบบฮอร์โมนเพศชาย ทำให้เซลล์ระเร็งของต่อมลูกหมากมีการเจริญเติบโตมากขึ้น การกินอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เป็นต้น โดยในระยะเริ่มแรกของมะเร็งต่อมลูกหมาก มักไม่แสดงอาการใดๆ
7. โรคตาและการมองเห็น เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก โรคต้อหิน และน้ำวุ้นตาเสื่อม ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ และมีอาการที่แตกต่างกัน แต่สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคตาเกิดจากความเสื่อม เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ทำให้การมองเห็นลดลง
advertisement
8. โรคไต ไตอวัยวะที่เมื่อเริ่มเสื่อมมากขึ้น จะทำหน้าที่ได้น้อยลง ทำให้เกิดการคั่งของเสียมากขึ้น ความผิดปกติและอาการแสดงจะมากขึ้น เช่น อ่อนเพลีย บวม เบื่อง่าย ความดันโลหิตสูง ถ้าเป็นมากใกล้เป็นไตวายเรื้อรัง จะเพิ่มอาการซีด คันตามตัว เบื่ออาหาร อันจะนำไปสู่การล้างไต ฟอกเลือด และเปลี่ยนไตในที่สุด
9. โรคหัวใจขาดเลือด สาเหตุที่สำคัญมาจากหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ พบมากในผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ อ้วนลงพุง ขาดการออกกำลังกาย หรือเกิดจากกรรมพันธุ์ที่คนในครอบครัวเป็นโรคนี้ อาการสำคัญคือ เจ็บแน่นหน้าอกระหว่างราวนม ลิ้นปี่ คล้ายมีอะไรมากดทับ หายใจไม่สะดวก อาจร้าวไปที่คอ กราม แขนซ้ายด้านใน และมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เหงื่อออก ตัวเย็น เย็นศีรษะ หน้ามืด เหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ ใจสั่น
10. โรคกระดูกพรุน เกิดจากการลดลงของปริมาณกระดูกในร่างกายร่วมกับมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในของกระดูก เป็นผลให้ความแข็งแรงของกระดูกโดยรวมลดลง และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหักได้ โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนมีโอกาสกระดูกหักจากโรคนี้มากถึง 30-40% เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ทำให้มวลกระดูกของผู้หญิงในกลุ่มวัยนี้ลดลงถึงร้อยละ 3-5 ต่อปี
เคล็ดลับดูแลสุขภาพเบื้องต้นเมื่อก้าวสู่วัยสูงอายุ
– ควบคุมโภชนาการ ให้เหมาะสมกับร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รสเค็มจัด และอาหารรสหวาน
– หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
– ดื่มน้ำมากๆ ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
– ออกกำลังกาย ที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30นาที
advertisement
– ควบคุมน้ำหนักตัว ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน
– ทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนอย่างเพียงพอ
– หมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย เมื่อเกิดอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์
– หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม หรือซื้อยากินเอง
– ควรพบแพทย์สม่ำเสมอ
– ตรวจสุขภาพเป็นประจำ ทุก 6-12 เดือน
[ads]
วิธีการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
1. ให้ความสำคัญในการควบคุมโภชนาการ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมดีพอกับร่างกาย ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกชนิดที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เลี่ยงการทานรสจัด
2. ดื่มน้ำสะอาดอย่างพอดี โดยดื่มให้ได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการร่างกาย
3. ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพของร่างกาย เช่น การเดิน วิ่งจ้อกกิ้ง ว่ายน้ำ โยคะ และปั่นจักรยาน เป็นต้น หลีกเลี่ยงการออกกำลังที่ต้องใช้แรงกระแทก โดยควรออกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30 นาที
4. ควรควบคุมน้ำหนักให้คงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ควรปล่อยตัวให้อ้วนหรือผอมเกินไป
5. งดสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
advertisement
6. ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่เครียด และควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
7. หมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย เมื่อเกิดอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้รับมือความผิดปกติอย่างเท่าทัน
8. ไม่ซื้อยารับประทานเอง และระวังการใช้ยาตัวเก่าเพื่อรักษาอาการใหม่ หรืออาจจะนำยาจากผู้อื่นมาใช้ก็ไม่ควรอย่างยิ่ง
9. ควรหมั่นพบแพทย์อยู่เสมอ เพื่อจะได้รับคำปรึกษาต่างๆ ทั้งวิธีการปฏิบัติตัว และการใช้ยารักษาโรคได้อย่างถูกต้อง
10. รักษาความอบอุ่นของร่างกายอยู่เสมอ
11. เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี โดยควรตรวจสม่ำเสมอทุก 6-12 เดือน
แม้ว่าปัญหาสุขภาพเหล่านี้ของผู้สูงวัยนั้นจะเป็นเรื่องปกติ แต่เราก็สามารถลดความเสี่ยงโรค ป้องกันตนเองได้ด้วยการหมั่นเฝ้าสังเกตความผิดปกติ หากพบต้องรีบพบแพทย์ ทั้งนี้ไม่ลืมที่จะหมั่นดูแลรักษาสุขภาพอยู่เสมอค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com