เมื่อเป็นโรคตาแดง..ต้องปฏิบัติอย่างไร?
advertisement
“โรคตาแดง” นับว่าเป็นโรคตาที่พบได้บ่อยที่สุด สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยดูแลความสะอาดมือ แล้วมักใช้มือขยี้ตาหรือสัมผัสผิวหนังรอบๆ ดวงตา จึงทำให้เกิดการอักเสบของตาและเยื่อบุตา ยิ่งในช่วงหน้าฝนพบการระบาดมาก มีแมลงหวี่หรือแมลงวันเป็นพาหะด้วย หากไปตอมตาก็อาจนำเชื้อไปแพร่แก้ผู้อื่น โรคตาแดงนั้นเป็นได้ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง โดยปกติจะหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากว่าอาการตาแดงนั้นเกิดจากโรคภูมิแพ้มักจะเป็นตาแดงเรื้อรัง มีการอักเสบของหนังตา ตาแห้ง และต้องได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการอักเสบ อาการเรื้อรัง และอาจส่งผลอันตรายร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้!!
สาเหตุของโรคตาแดง
โรคตาแดงเป็นโรคติดต่อ ที่เกิดจากการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยตาแดง เช่น น้ำตา ขี้ตาที่ติดอยู่ตามสิ่งของ พื้นผิวต่างๆ หรือในน้ำ แล้วมาสัมผัสที่ตา, การใช้ของส่วนตัวร่วมกันกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา เครื่องสำอาง, การเล่นน้ำในที่ท่วมขังและสกปรก หรือจากการที่พาหะโรค เช่น แมลงหวี่ แมลงวัน นำมาสู่ตาเรา สาเหตุของโรคตาแดง ได้แก่
1. เชื้อไวรัส ที่พบบ่อย คือ Adenoviruses และ Herpes Simplex viruses
2. เชื้อแบคทีเรีย ที่พบบ่อย คือ Staphylococcus aureus, Streptococcus pneumoniae และ Haemophilus influenzae
3. โรคภูมิแพ้ สารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อย ได้แก่ ละอองเกสรดอกไม้ น้ำหอม เครื่องสำอาง ควันบุหรี่ ไรฝุ่น หรือแม้แต่ยาหยอดตาบางชนิด
4. สาเหตุอื่น เช่น สารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ที่มีความเป็นกรดหรือด่างมาก, การมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา, การใส่ Contact lens, โรคภูมิต้านตนเอง (Autoimmune)
[ads]
อาการของโรคตาแดง
– คันในลูกตา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเยื่อตาอักเสบจากการแพ้
– รู้สึกเคืองตา บ่งบอกถึงภาวะตาแห้ง, มีสิ่งแปลกปลอมในตา, เปลือกตาอักเสบ
– แสบตา แสดงถึงอาการของโรคที่เปลือกตา, เยื่อบุตาหรือแก้วตา
– มีเม็ดหรือเจ็บบางจุด อาจเกิดจากฝีที่เปลือกตา หรือกุ้งยิง
– ปวดลูกตา อาจเป็นอาการของม่านตาอักเสบ แผลที่แก้วตา ต้อหิน เยื่อหุ้มลูกตาอักเสบ หรือการติดเชื้อรอบลูกตา
– กลัวแสง หมายถึงตาสู้แสงไม่ได้จะเคืองตามาก เป็นอาการของม่านตาอักเสบ แผลที่แก้วตา หรือต้อหิน
– น้ำตาไหล ลักษณะเป็นหยดน้ำตาใสๆ เกิดจาก เยื่อตาอักเสบเพราะเชื้อไวรัสหรือสารเคมี
– มีขี้ตา สีของขี้ตาจะแตกต่างกันไปตามสาหตุ เช่น ขี้ตาใส สีขาว หรือขุ่น มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือโรคภูมิแพ้, ขี้ตาเป็นเมือก มักเกิดจากเยื่อบุตาอักเสบ เพราะการแพ้หรือการติดเชื้อแคลมมีเดีย, ขี้ตาสีเขียวหรือเหลืองเป็นหนอง มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เกิดจากเยื่อตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย แผลที่แก้วตา หรือการอักเสบรอบตา ตาแดงร่วมกับโรคของเปลือกตา
*** โดยทั่วไปโรคตาแดงมักไม่ทำให้การมองเห็นลดลง แต่ถ้ามีอาการปวดตา หรือตามัวลงมากผิดปกติ อาจต้องคิดถึงโรคตาชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น โรคต้อหิน โรคม่านตาอักเสบ
[yengo]
การป้องกันโรคตาแดง
– ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา หรือเครื่องสำอางต่างๆ
– ล้างมือบ่อยๆ ล้างให้สะอาดด้วยสบู่ และอย่าเอามือสัมผัสตา ขยี้ตา
– ใส่แว่นตาป้องกันดวงตา หากต้องเจอสารเคมี หรือแสงแดดรุนแรง
– อย่าใช้ยาหยอดตาของผู้อื่น และยาเมื่อไม่ได้ใช้ให้ทิ้ง
– อย่าว่ายน้ำในสระที่ไม่ได้ใส่คลอรีน
– เช็ดลูกบิดประตูด้วยน้ำสบู่เพื่อฆ่าเชื้อโรค
แนวทางการรักษาตาแดงด้วยตัวเอง
1) ประคบเย็นวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ10-15 นาที
2) ล้างมือให้บ่อยๆ ให้สะอาดด้วยสบู่ฆ่าเชื้อโรคทุกครั้ง
3) ไม่ควรขยี้ตา เพราะจะทำให้ตาเกิดการระคายมากขึ้น
4) ใส่แว่นกันแดดปกป้องสายตา จากแสงแดด ฝุ่นละออง มลพิษต่างๆ
5) ไม่ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นเป็นเวลา 7 วันหลังมีอาการเพื่อลดการแพร่เชื้อ
6) อย่าใส่ contact lens ในช่วงที่เป็นตาแดง จะทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบมากยิ่งขึ้น
7) เปลี่ยนปลอกหมอน – ผ้าปูที่นอนทุกวัน ทำความสะอาดด้วยน้ำยาซักผ้าฆ่าเชื้อโรค และเปลี่ยนหมอนทุก 2 วัน
8) พักผ่อนให้มาก และลดการใช้สายตา
***ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าปิดตาเพราะจะยิ่งทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้มากขึ้น
อาการที่ต้องรีบไปพบแพทย์
โดยทั่วไปโรคตาแดงมักไม่ทำให้ปวดตามาก หรือตามัว ดังนั้น หากคนที่เป็นตาแดงแล้วมีอาการปวดตา ตาแดงมาก ตามัว กรอกตาแล้วปวด หรือมองสู้แสงไม่ได้ และมีไข้ ควรรีบพบจักษุแพทย์ เนื่องจากอาจเป็นโรคอื่น เช่น ต้อหิน ม่านตาอักเสบ ซึ่งถ้ารักษาช้าอาจเกิดความพิการอย่างถาวรของตาได้ และหากว่าให้ยาไปแล้ว 48 ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้น น้ำตายังไหลอยู่แม้ว่าจะได้ยาครบแล้ว ก็ควรกลับไปพบจักษุแพทย์อีกครั้ง
ทางที่ดีที่สุดที่จะห่างไกลจากโรคตาแดงได้ ก็คือการรักษาความสะอาดในร่างกายและของใช้ส่วนตัว ที่สำคัญไม่ใช้มือขยี้ดวงตานะคะ และหากว่าเป็นโรคตาแดงแล้วล่ะก็ ควรดูแลตนเองได้ด้วยวิธีการที่เราได้แนะนำไป โดยสังเกตได้ว่าอาการตาแดงมักหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ และส่วนใหญ่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น หากพบความผิดปกติควรรีบพบแพทย์ค่ะ ไม่เช่นนั้นหากสายเกินไปอาจเกิดความพิการของดวงตาอย่างถาวรได้
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com