15 ผลไม้ วิตามินซีสูง เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านหวัด!!

       “วิตามินซี” มีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาและป้องกันอาการไข้หวัด อีกทั้งยังช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดี ปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย และยังดีต่อสุขภาพผิวที่แข็งแรง มีส่วนช่วยให้ขาวกระจ่างใสขึ้น โดยวิตามินซีพบได้มากในผักและผลไม้โดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ทั้งนี้ผลไม้ที่มีวิตามินซี และมีกากใยสูงๆ ก็ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้เช่นกัน เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ได้ด้วย และนี่คือ 15 ผลไม้ วิตามินซีสูง ที่ Kaijeaw.com ได้หยิบมาแนะนำกันในวันนี้

       1. มะขามป้อม

       เรียกได้ว่ามะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด ตามข้อมูลจากกองโภชนาการกรมอนามัย ยืนยันว่า ในมะขามป้อมผลสด 100 กรัม จะมีวิตามินซีแฝงอยู่ถึง 276 มิลลิกรัม และถ้าหากว่านำผลมะขามป้อมไปคั้นน้ำดื่มก็ยังมีวิตามินซีสูงกว่าน้ำส้มคั้นถึง 20 เท่าเลยด้วย นอกว่า วิตามินซีสูงแล้วยังมีสรรพคุณแก้หวัดได้ชะงัด แถมยังช่วยละลายเสมหะ แก้ไอได้ดีด้วย

       2. มะละกอ

       ในมะละกอมีวิตามินซีสูงกว่าส้ม คือ 60.9 มิลลิกรัมต่อมะละกอ 100 กรัม และ มีคุณสมบัติส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่าย อีกทั้งยังมีเอนไซม์ปาเปน (Papain) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น สำหรับใครที่กำลังท้องผูกบ่อยๆ รับประทานมะละกอสุกเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ 

       3. มะม่วง

       มีวิตามินซีสูง ในปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณวิตามินซีสูงถึง 46% ของปริมาณวิตามินซีที่เราควรได้รับต่อวัน ส่วนไฟเบอร์ในมะม่วงก็เรียกได้ว่าไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น มีการศึกษาในปี 2013 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Gastroenterology พบว่าไฟเบอร์ในมะม่วงสามารถปรับสภาพแวดล้อมในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เมื่อรวมกับฤทธิ์ของวิตามินซีในการเรื่องการช่วยระบาย ก็ยิ่งทำให้มะม่วงมีประโยชน์ต่อการทำงานของลำไส้ยิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก และลดความเสี่ยงโรคโครห์น (Crohn's disease) หรือโรคทางเดินอาหารอักเสบนั่นเอง[ads]

       4. ฝรั่ง

       ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก โดยในเนื้อฝรั่งสด 100 กรัม (ประมาณ 1 ผลกลาง) จะมีวิตามินซีมากถึง 160 มิลลิกรัม ซึ่งเกินพอต่อความต้องการของร่างกายใน 1 วัน ทานได้โดยไม่ต้องปอกเปลือกจะได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะวิตามินซีมีอยู่ที่เปลือกด้วยและควรกินฝรั่งที่โตเต็มที่และยังเป็นสีเขียวอยู่ เพราะวิตามินซีที่ผิวและเนื้อของฝรั่งจะค่อยๆ ลดลงเมื่อผลสุก

       5. ลิ้นจี่

       ลิ้นจี่มีรสเปรี้ยวอมหวานอร่อย ให้วิตามินซีถึง 71 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม และมีสรรพคุณช่วยบำรุงหลอดเลือด ป้องกันโรคกระดูกและฟัน แก้ไอเรื้อรัง แก้คัดจมูกได้ดี แต่ควรระวังไม่ทานมากเกินไป เพราะในเนื้อลิ้นจี่มีสารประกอบชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการร้อนในได้

       6. ลำไย

       ลำใยยังเป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญหลายตัว รวมทั้งวิตามินบี ในลำใย 100 กรัม จะมีวิตามินซีสูงมากถึง 84 มิลลิกรัม แต่ที่รู้กันดีก็คือ เรื่องความหวาน ลำใยเป็นผลไม้ที่ให้น้ำตาลสูงมาก คนเป็นเบาหวานต้องระวังด้วยนะคะ

       7. เงาะ

       ในเงาะ 100 กรัม จะให้วิตามินซีประมาณ 53 มิลลิกรัม และมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการอักเสบในช่องปากได้ แก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรงได้ แต่ก็มีข้อควรระวังว่าอย่าทานเงาะมากเกินไปนะ เพราะเงาะมีสารแทนนินสูง กินมากไปอาจปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูกได้เหมือนกัน และที่สำคัญก็ไม่ควรรับประทานเม็ดด้วยค่ะ เพราะเม็ดของเงาะมีพิษ กินแล้วอาจคลื่นไส้อาเจียนได้

       8. ส้ม
       ส้ม 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 53 มิลลิกรัม ส้มมีสารพฤกษเคมีหลายชนิด อีกทั้งส้มมีไฟเบอร์สูง คนที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายหากกินส้มเป็นประจำก็จะช่วยได้ และเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่หากินได้ง่ายและมีให้กินได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย[ads2]

       9. สับปะรด

       ใน 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 48 มิลลิกรัม มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สับปะรดช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยในเรื่องระบบหมุนเวียนเลือด ช่วยป้องกันมะเร็งเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยเพิ่มกากใยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แถมสับปะรดยังเป็นผลไม้ที่ราคาไม่แพงอีกด้วย

       10. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี

       ไม่ว่าจะเป็น สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี ราสป์เบอร์รี เชอร์รีและแบล็กเบอร์รี ผลไม้เหล่านี้มีวิตามินซีสูงมากๆ พร้อมด้วยไฟเบอร์ที่สูงมากๆ ด้วย วิตามินซีในผลไม้ตระกูลเบอร์รีมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี และไฟเบอร์ก็ทำให้ระบบการทำงานของลำไส้ดีขึ้น ที่สำคัญยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใสอ่อนกว่าวัย

       11. ส้มโอ
       ส้มโอ นอกจากจะกินเป็นผลไม้ก็ได้ นำไปทำกับข้าวอย่าง ยำ สลัด ส้มตำก็อร่อย ให้วิตามินซีประมาณ 44 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม กินแล้วช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน แก้หวัด มีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง 

       12. กีวี

       ในกีวี 100 กรัมจะให้วิตามินซีประมาณ 105 มิลลิกรัม หรือถ้าเป็นกีวี 2 ผล ก็จะให้วิตามินซีประมาณ 137 มิลลิกรัม แถมยังมีกากใยมาก อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ทองแดง และโฟเลต แถมยังมีแคลอรี่ที่ต่ำอีกด้วย เหมาะสำหรับสาวๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนักนะคะ

       13. พุทรา 

       มีรสชาติฝาดๆ เปรี้ยวๆ ให้วิตามินซีมากเช่นกัน นอกจากช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านสารอนุมูลอิสระแล้ว ในพุทรายังมีเส้นใยอาหารมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น แถมกินแล้วอิ่มเร็วด้วย และมีการวิจัยพบว่า พุทรามีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาท ป้องกันอาการผนังเส้นเลือดแข็งตัว และช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้ดี[ads3]

       14. องุ่น

       ทั้งองุ่นแดงและองุ่นเขียวล้วนแต่เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย มีวิตามินซีสูง และมีวิตามินเอ วิตามินบี 6 ไฟเบอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยองุ่นถูกจัดเป็นอาหารที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายที่ด้วย เพราะในองุ่นมีไฟเบอร์ชนิดที่ไม่ละลายน้ำซึ่งมีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบขับถ่าย อีกทั้งยังมีเซลลูโลส น้ำตาลและกรดจากธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกโดยการปรับสภาพกล้ามเนื้อลำไส้และระบบย่อยอาหารให้ทำงานสัมพันธ์กันมากขึ้น 

       15. ลูกแพร์
       ควรรับประทาน ทั้งผลโดยไม่ต้องปอกเปลือกจะได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะไฟเบอร์ในลูกแพร์นั้นอยู่ในเปลือกมากกว่าครึ่งเลยทีเดียว ช่วยให้การทำงานของระบบขับถ่ายดีขึ้น ยิ่งมีคุณสมบัติของวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นระบบลำไส้มาเสริม ก็ทำให้ผลไม้ชนิดนี้เหมาะกับการแก้อาการท้องผูกอย่างที่สุดเลย

       การกินผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ดีต่อสุขภาพและความงาม นอกจากจะช่วยในเรื่องของการเสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ช่วยป้องกันโรคหวัด ยังมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวพรรณของเรานั้นขาวสดใส เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนกว่าวัย มีไฟเบอร์ช่วยในการขับถ่ายแถมยังดีต่อน้ำหนัก ทานได้เยอะ ได้รับประโยชน์เยอะไม่ต้องกลัวอ้วนกันเลยทีเดียว ซึ่งสาวๆ เราจะพลาดกันไม่ได้นะคะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com