แพทย์เผย การจัดฟันที่เหมาะควรทำช่วงอายุ 10-14 ปี
advertisement
สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ เผยการจัดฟันช่วยทำให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน การสบฟันที่ผิดปกติ ทำให้มีโครงสร้างใบหน้าที่ดี แนะอายุที่เหมาะสมคือช่วงวัยรุ่น 10 – 14 ปี เพราะร่างกายกำลังเจริญเติบโต
advertisement
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การจัดฟันเป็นรูปแบบของการดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อป้องกันและรักษาความผิดปกติของฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและมีการบดเคี้ยวที่ดีขึ้น โดยใช้เครื่องมือจัดฟันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและการสบฟันที่ผิดปกติ ไม่สวยงาม และไม่เป็นระเบียบ ให้มีโครงสร้างและรูปร่างใบหน้าที่ดีและสวยงามขึ้น ซึ่งเครื่องมือจัดฟันที่ใช้จะช่วยเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ของสุขภาพช่องปากและฟัน การจัดฟันสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ [ads]
แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากร่างกายกำลังเจริญเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายเป็นประโยชน์ต่อการจัดฟัน แต่หากอายุมากแล้วหรือประมาณ 30 ปีขึ้นไป อาจต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่นานกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีและปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับบริการ
advertisement
ทันตแพทย์บุญชู สุรีย์พงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทันตแพทย์เท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจว่าควรจัดฟันหรือไม่ หากพบความผิดปกติดังต่อไปนี้ ฟันบนหรือฟันล่างยื่นออกมามาก ฟันห่างมีช่องว่างระหว่างฟันเนื่องจากการหลุดของฟันหรือฟันที่ยังขึ้นไม่เต็มฟันที่ขึ้นมาไม่เป็นระเบียบจนเกซ้อนกันฟันบนไม่สามารถสบได้พอดีกับฟันล่างหรือเมื่อสบฟันแล้วมีช่องว่างระหว่างฟันบนกับฟันล่าง
ทั้งนี้ ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันประมาณ 1 ปีครึ่ง – 3 ปี ขึ้นอยู่กับความผิดปกติของฟันว่ามีมากน้อยเพียงใด สำหรับขั้นตอนการจัดฟันทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาร่วมกับผู้รับบริการโดยตรวจสภาพช่องปากถ่ายภาพเอกซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างของใบหน้าและขากรรไกร วิเคราะห์วางแผนขั้นตอนการรักษาตามลำดับ เช่น ถอนฟัน อุดฟัน การพิมพ์แบบฟันและติดเครื่องมือจัดฟันในช่วงแรกจะรู้สึกเจ็บบ้างแต่อาการจะค่อยๆดีขึ้นจนหายเป็นปกติภายใน 1 – 2 สัปดาห์ [ads2]
advertisement
ซึ่งสถาบันทันตกรรมให้บริการจัดฟันใน 2 รูปแบบ คือ การจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ และการจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น ซึ่งภายหลังการจัดฟันควรดูแลตนเองด้วยการรักษาความสะอาดของฟันและเครื่องมือจัดฟัน โดยใช้แปรงสีฟันสำหรับผู้ที่จัดฟันโดยเฉพาะ ทำความสะอาดภายหลังรับประทานอาหารทุกมื้อและก่อนเข้านอน รักษาเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ให้หลุดหักหรือบิดเบี้ยว [ads3]
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งและเหนียวรวมทั้งของหวาน ระมัดระวังเมื่อเล่นกีฬาที่อาจเกิดการกระทบกระทั่งรุนแรง รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และพบทันตแพทย์ตามนัดหมาย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการแพทย์