หนุ่มจะแต่งงาน แต่แม่ยายไม่เรียกสินสอด ชาวเน็ตบอกผู้มีบุญ
advertisement
คุณ สมาชิกหมายเลข 6696150 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราว และขอคำแนะนำ เนื่องจากว่าจะแต่งงานแต่แม่ฝ่ายหญิงไม่เรียกค่าสินสอด โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า "จะแต่งงาน แต่แม่ฝ่ายหญิงไม่เรียกค่าสินสอดเลยครับ"
advertisement
คือผมกับแฟนคบกันมา จะเข้าปีที่5 แฟนผมอายุ25 ส่วนผม 32ทางญาติทั้งสองฝ่าย ได้มีโอกาสคุยกันเรื่องงานแต่งงานของผมกับแฟน แต่คือแม่ของฝ่ายหญิง เค้าไม่เรียกค่าสินสอดเลย ผมอยากรู้ว่า จริงๆที่เค้าไม่เรียก เพราะไม่เรียกจริงๆ หรือเค้าเกรงใจที่จะไม่เรียกครับ
ต้องขอเท้าความก่อนตอนนี้ผมดูแลทั้งแฟน และแม่ของแฟนอยู่ ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆของในบ้าน และเปิดธุรกิจเล็กๆให้แฟนผม และแม่ของแฟนได้มีที่ทำมาหากิน แฟนผมมีพี่ชาย2 คน (ซึ่งอายุน้อยกว่าผมไม่กี่ปี) เวลามีปัญหา ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต หรือการเงิน ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ผมก็ยินดีช่วยทุกครั้ง
advertisement
ผมเลยอยากรู้ว่า เพราะจุดๆนี้หรือเปล่าครับ ที่ทำให้แม่ของฝ่ายหญิงไม่เรียกค่าสินสอดเลย (พ่อแฟนเสียไปก่อนหน้านี้ครับ เลยได้คุยแค่กับแม่) จริงๆใจผมคิดว่า ถ้าไม่ให้เงินสินสอดเลย ตามที่แม่เขาพูด แบบนี้แฟนผมจะดูไม่ดีไหมครับ หรือถ้าให้
ต้องให้ประมาณไหน ที่จะทำให้แม่เค้าไม่ต้องรู้สึกว่าเกรงใจ และแฟนจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่นไหมผมเกิดมาครั้งเดียว งานแต่งมีครั้งเดียว เลยอยากให้ออกมาโอเคแฟร์ๆสำหรับทุกฝ่าย ขอคำแนะนำหน่อยครับ
"จากข้อมที่คุณให้มา….อาจเป็นความเกรงใจ เพราะคุณดูแลบ้านเค้าดีเยี่ยงลูกเขยมาพอสมควรแล้ว ลองให้แฟนคุณถามแม่เค้าดูครับถ้าเป็นความเกรงใจ เค้าน่าจะสะดวกใจบอกกับลูกสาวมากกว่าหรืออาจให้ผู้ใหญ่ฝ่ายคุณไปคุยดู (ไม่ได้ยอกมาว่ามีขั้นตอนนี้มั้ย หรือยัง) แปลก(นิดๆ)ที่คุณตกใจ เห็นผู้ชายหลายคนออกมาเรียกร้องง้องแง้งเรื่องค่าสินสอด"
advertisement
"ไม่เรียกก็จัดสรรให้เองตามฐานานุรูป ถือว่าทำตามธรรมเนียมประเพณี เรือล่มในหนองทองจะไปไหน ที่สำคัญทำให้ฝ่ายหญิงดีใจมีความสุข"
advertisement
"น่าจะเกรงใจนะคะ ถ้าใจคุณอยากให้ก็ให้ตามกำลังเลยคะ สุดท้ายจบงานแม่เจ้าสาวก็น่าจะคืนให้เป็นขวัญถุง ปล.ประเพณีบ้านเราจบงานสามวันพ่อแม่เจ้าสาวคืนเงิน-ทอง ให้บ่าวสาวนะคะบางบ้านฝ่ายเจ้าสาวเพิ่มให้อีกเป็นขวัญถุง เริ่มต้นครอบครัว"
advertisement
"ให้สัก 20000-50000 โดยไม่เอาคืนค่ะ ก็จะไม่ตะขิดตะขวงใจ ไม่มากไม่น้อยไป ได้ทำตามประเพณี สบายใจเรา แม่แฟนที่เกรงใจเราอยู่แล้วก็จะยิ่งเกรงใจ เป็นราคาเท่ากับชาวบ้านในชนบทแล้ว เราว่าราคานี้โอเคค่ะ ไม่มากจนน่าเกลียดไม่น้อยจนเป็นขี้ปากชาวบ้าน"
advertisement
"ให้แฟนไปแอบถามที่บ้านดีที่สุดครับ อย่าคิดเอาเอง ถ้ายังยืนยันตามเติมว่าไม่เรียก หรือ แล้วแต่จะให้ ก็ให้เท่าที่คุณไหวแล้วไม่กระทบชีวิตครอบครัวหรือที่บ้านคุณครับ บ้านผมพ่อแฟนก็บอกว่าแล้วแต่จะให้ ทางผมก็ให้เท่าที่ให้ไหว เค้าก็คืนมาส่วนนึง เก็บไว้ส่วนนึง ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณต้องคุยกับแฟนคุณดีๆก่อนว่าแม่เค้าเป็นแบบไหน คือหัวรุ่นใหม่ เกรงใจ หรือลองใจ"
advertisement
"ที่แม้ฝ่ายหญิงไม่เรียก เพราะทางคุณดูแลครอบครัวเขามาดี จนเขาไม่กล้าเรียกไรอีก ถึงแม้ไม่เรียก แต่ฝ่ายชายต้องจัดสินสอดตามความเหมาะสมจ้า สมมุติ จัดใส่ไป เงิน 1 แสน ทอง 2 บาท หรือ มากกว่านั้นก็แล้วแต่ ตามที่กำลังของคุณมี และดูแล้วว่าเหมาะสม สมควรให้แก่ฝ่ายหญิง"
"ถ้าสบายใจมี่จะจัดให้ก็จัดค่ะ จำนวนเท่าไหร่ก็แล้วแต่ จขกท เลย ไม่ต้องแคร์ว่าใครจะคิดว่ามากน้อย เป็นเรื่องภายในครอยครัวเราเอง คนอื่นไม่เกี่ยว เอาที่เราสบายใจค่ะ"
advertisement
"คงเป็นความเกรงใจ แต่ก็ต้องชื่นชมทัศนคติบ้านแฟนคุณนะ ถ้าเราเป็นแม่แล้วมีลูกเขยดูแลลูกสาวดูแลครอบครัวเราดีแบบนี้ เป็นเราก็ไม่เรียกค่ะ แต่ตอนแต่งก็ต้องมีสินสอดมาวางให้เห็น เพื่อให้เกียรติฝ่ายหญิง คงแล้วแต่คุณว่าจะให้เท่าไหร่ เอาที่คุณคิดว่าเหมาะสมค่ะ"
"ถ้าแม่ไม่เรียกแล้วคุณลำบากใจ คุณก็สามารถจัดวางไปในจำนวนที่รู้สึกเหมาะสม ยินดีให้ และไม่ลำบากตัวเองจนเกินไปได้ค่ะ ถ้าเค้าไม่อยากได้จริงๆก็คงคืนมาให้บ่าวสาวนั่นแหละน่าดีใจนะคะ ทัศนคติเรื่องเงินของครอบครัวแฟนคุณ ไม่ได้อยากมีอยากได้ของคนอื่น มีความเกรงใจ พอใจ เราว่าคุณโชคดีเลยค่ะ"
advertisement
โดยจากโพสต์นี้ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น และให้คำแนะนำกันอย่างมากมาย หลายท่านบอกว่า เป็นความโชคดีของว่าที่ลูกเขยคนนี้จริงๆ แต่ถ้าไม่สบายใจ และพอมีกำลังก็สามารถมอบค่าสินสอดให้แม่ยาย เพื่อความสบายใจได้นะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 6696150