แม่แฟนเรียกสินสอด 1 ล้าน ทอง 10 บาท ควรถอยหรือไปต่อดี 

       คุณ สมาชิกหมายเลข 856105 ได้ออกมาโพสต์ขอคำแนะนำโดยระบุว่า "แม่แฟนเรียกสินสอด 1 ล้าน ทอง 10 บาท ควรถอยหรือไปต่อดี"

       แฟนผมอายุ 38 รูปร่างอวบเตี้ย หน้าธรรมดา ขยันทำงาน ไม่แต่งตัว บ้านเค้ามีสวนยางสวนทุเรียนมีบ้านให้เช่า ที่จันทบุรี จัดได้ว่าเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง เพราะเค้าประหยัดถึงขั้นขี้เหนียว แฟนผมไม่ได้ทำงานต้องมาช่วยที่บ้าน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่จริงๆ ก็กินกงสีแหละครับ ส่วนผมทำงานบริษัท รายได้ 30000 บาท ผมเคยแต่งงานแล้ว มีลูกติด 1 คน อายุ 12 ปี กำลังเรียนมัธยมต้น มีแม่ที่ต้องเลี้ยงดู ผมกับแฟนมีอะไรกันแล้วแต่ผู้ใหญ่ไม่ทราบ เวลาผมไปบ้านเค้าต้องโดนจับแยกนอนคนละมุมบ้าน ไปเที่ยวไหนแถวบ้านแม่หรือป้าต้องติดสอยห้อยตามตลอด กลัวผมไปปล้ำลูกสาวเค้า แต่เวลาผมไม่อยู่ เค้าปล่อยลูกสาวไปไหนต่อไหนคนเดียวนะ

      ประเด็นคือ ตอนแรกแฟนบอกกับผมว่าจะแต่งปลายปีนี้ขอสินสอด 500,000 กับ ทอง 10 บาท (ทองแฟน 7 กับผม 3) ผมก็พอดีเงินเก็บอยู่บวกกับทำงานเก็บเพิ่มปลายปีนี้คงมีพอดี .. เมื่อวันก่อนแม่ยายมานั่งรถผม เพื่อมาคุยเรื่องค่าสินสอด ถามว่าปลายปีนี้จะมาขอใช่ไหม แม่ขอ 1 ล้านบาท นะ + ทอง 10 บาท ถ้าน้อยกว่านี้อายญาติ ๆ (พอดีญาติเค้าได้ผัวแก่ ที่รวย.. ก็เลยมีการข่มกันว่าลูกใครได้ดีกว่าประมาณนั้น) แถมยังโฆษณาว่ามีคนจะมาขอลูกสาวเค้าด้วยนะ บอกคนในซอยมาทาบทามหลายครั้งแล้ว ผมก็เลยถามไปว่าใคร เพราะผมไปค้างบ้านเค้าหลายครั้งแล้ว เค้าไม่รู้หรือว่าแฟนผมมีผมอยู่ แกก็ตอบกลับแบบไม่ตรงประเด็น คุยเสร็จแถมบอกว่าอย่าบอกแฟนนะ ผมก็บอกไปว่าถ้าจะล้านคงต้องปีหน้า  แล้วพอผมอยู่กับแฟน 2 คนผมก็บอกเค้า เค้าบอกว่าจะคุยกับแม่ดู (แต่ว่าคงไม่มีผล)

ประเด็นที่คิดหนักคือ

     1. เงินตั้งล้าน แต่งแล้วไม่ได้อยู่ด้วยกับ แยกกันอยู่เหมือนเดิม (แฟนบอกว่าแต่งแล้วก็จะอยู่กับพ่อแม่เหมือนเดิมเพราะแกแก่แล้ว ไม่มีใครอยู่ด้วย และช่วยงาน )

     2. ผมบอกว่าเดี๋ยวผมออกงานแล้วไปอยู่ด้วยหลังจากแต่งงาน เค้าก็บอกว่าอยู่ได้ แต่ทำงานที่บ้านก็ไม่ได้เงินนะ แล้วลูกพี่ แม่พี่จะใช้เงินจากไหน (ห่วงคนที่บ้านผมอีก)

สรุปเอาไงกับชีวิตดีครับ รักนะ แต่..

"ประเมินแฟนซะต่ำเตี้ยมาก อย่าไปขอเขาเลยค่ะ ให้เขาไปเจอคนที่ดีกว่าคุณเถอะ คำพูดของคุณทำให้เราอยากเห็นหน้าคุณมาก ว่าจะหล่อแค่ไหน พออ่านจบ เห็นคุณคิดแค่อย่างเดียวว่า นอนกับผู้หญิงแล้ว ทำไมยังต้องจ่ายค่าสินสอดแพงอีก นี่คนที่จะเป็นเมียในอนาคตนะคะ ไม่ใช่แม่วัว"

"ในฐานะเป็นผู้หญิง ถ้าเราเห็นบทความแค่ 3 บรรทัดแรก เราจะขอเลิกและไม่เสียดายร่างกายที่เคยมีความสัมพันธ์กับคนที่คิดแบบนี้กับเรา เห็นแล้วของขึ้นนะ แต่ไม่อยากออกความเห็นมากกว่านี้แล้วเบื่อดราม่าในเพจ นี่รำคาญ"

"เปิดหัวมาก็ด้อยค่าแฟนตัวเองซะงั้น แนะนำว่าลองกลับไปคิดทบทวนให้ดีก่อนนะครับ ว่าที่เขาเรียกสินสอดเพิ่มขึ้น สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ เพราะโดยส่วนตัวผม ถ้ามีคนที่มีทัศนคติแบบนี้ จะเข้ามาอยู่ในครอบครัว บอกตรงผมคงไม่โอเค คุณบอกแฟนคุณ รูปร่าง อวบ เตี้ย หน้าธรรมดา แต่ที่บ้านมีสวนทุเรียน มีบ้านให้เช่า สรุปคือจริงๆ แล้วอยากแต่งเพราะอะไรกันแน่เหรอครับ"

"แค่อ่านบรรทัดแรกก็ควรถอยแล้ว หมายถึงฝ่ายหญิงน่ะ ควรถอยออกไปให้ไกลจาก จขกท."

"ขอโทษในฐานะคนจันทบุรีไม่อยากมีเขยที่มองเงิน1 ล้านเป็นเรื่องใหญ่โตค่ะ…ส่วนใหญ่เพื่อนๆ แต่งกัน10 ล้านค่ะ ผู้ชายมาถามแบบนี้พอเถอะค่ะ..คุณไม่ได้ไปต่อแน่นอนเมืองจันทร์มันแคบค่ะ"

"แยกเป็น 2 ประเด็น 1. ประเด็นแรก คุณดูถูกแฟนคุณมากๆเลย ดูจากคำพูด 3 บรรทัดแรกก็รู้ ผู้ชายแบบนี้ เป็นหนึ่งในผู้ชายที่ไม่ควรเอามาเป็นสามีในอนาคต 2. สินสอด ไม่ควรจะมีสิ่งนี้ในยุคนี้แต่แรกแล้วครับ ประเพณีขายลูกกิน ชายหญิงควรจะเท่าเทียมกันเสียที ทำไมผู้หญิงถึงต้องเอาเปรียบผู้ชายโดนข้ออ้างค่าน้ำนม ทั้งๆที่ผู้ขายเราก็ไม่ได้โตมาจากกระบอกไม้ไผ่"

          โดยจากโพสต์นี้ก็มีชาวเน็ตหลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย หลายคนมองว่าทัศนคติของผู้ชายแย่มากที่มองฝ่ายหญิงแบบนั้น แต่ก็มีบางส่วนที่มองว่าบ้านฝ่ายหญิงก็เรียกค่าสินสอดเยอะเกินไป

ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 856105