ท้องร่วง! เรื่องที่ไม่ควรชะล่าใจ
advertisement
วันดีคืนดี อยู่ดีๆ ก็มีอาการถ่ายแล้วก็ถ่ายอีก ถ่ายเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ วันนึงถ่ายมากกว่า 3 ครั้ง หรือบางทีก็ถ่ายเหลวปนเลือด นั่นอาจเป็นอาการท้องร่วง เป็นทีคงรู้สึกเหนื่อยและเพลีย อย่างไรก็ตามแม้อาการท้องร่วงจะไม่อันตราย แต่จะทำให้ขาดน้ำ ขาดเกลือแร่ ซึ่งถ้าเป็นมากก็ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้เช่นกัน Kaijeaw.com มีความรู้เรื่องนี้ เพื่อคุณจะได้ดูแลรักษาตนเอง เมื่อโรคท้องร่วงมาเยือน
advertisement
สาเหตุของ โรคท้องร่วง
– การติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด ได้แก่ เชื้อบิดไม่มีตัว Shigella, ไข้ไทฟอยด์ Salmonella,เป็นต้น
– การติดเชื้อไวรัส ได้แก่ rotavirus, Norwalk virus
– การติดเชื้อพยาธิ์ เช่น Giardia lamblia, Entamoeba histolytica
– จากแพ้อาหารและนม
– เกิดการอักเสบของลำไส้
– เกิดจากการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดความดัน ยาปฏิชีวนะ ยาระบาย
[ads]
advertisement
อาการของ โรคท้องร่วง
– ปวดบิดในท้อง ท้องร่วง จะอุจจาระเป็นน้ำหรืออุจจาระเหลว คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ถ่ายบ่อย
– อาการรุนแรงจะปากแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อยสีเหลืองเข้ม ตาโหล ผิวหนังเหี่ยวย่นเกินวัย อ่อนเพลีย หน้ามืด เป็นลม อาจรุนแรงถึงขั้นช็อก
– โรคท้องร่วงถ้าเป็นนานกว่า 3 สัปดาห์เรียกเรื้อรัง ถ้าหายภายใน 3 สัปดาห์เรียกท้องร่วงเฉียบพลัน
advertisement
ดูแลตนเมื่อมีอาการท้องร่วง
1. รักษาด้วยการป้องกันการขาดน้ำ ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ ORS เพื่อรักษาอาการขาดน้ำ
2. ทานอาหารประเภทอ่อนๆ ย่อยง่ายเช่น ข้าวต้ม นํ้าแกงจืด หรือ นํ้าข้าวใส่เกลือ
3. ขับถ่ายในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
4. ทำความสะอาดเครื่องใช้ของผู้ป่วยให้สะอาด และนำไปซักทำความสะอาด หรือตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วย
5. ล้างมือด้วยน้ำสบู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค
advertisement
อาการที่ต้องรีบพบแพทย์
โดยทั่วไปอาการท้องร่วงมักหายได้เองใน 2-3 วัน โดยที่ไม่ต้องรักษา แต่หากมีอาการผิดปกติอย่างอื่นต้องรีบพบแพทย์ เช่น
– ไข้สูงมาก
– เหงื่อแตก ตัวเย็น
– เซื่องซึม ไม่ค่อยรู้สึกตัว หรือกระสับกระส่าย คลุ้มคลั่ง
– ชีพจรเบาหรือเร็วมาก
– ไม่ปัสสาวะนานเกิน 6 ชั่วโมง
– อุจจาระมีเลือดปนหรืออุจจาระดำ
– อาเจียนติดต่อกันหลายครั้ง ไม่สามารถดื่มน้ำได้เพียงพอ
– ปวดท้องมาก ท้องแข็งเป็นกระดาน กดเจ็บ
– เด็กทารก, หญิงมีครรภ์, คนชรา และคนที่ร่างกายอ่อนแอมาก ควรระวังเป็นพิเศษ
– เป็นนานเกิน 2 วัน
advertisement
[yengo]
การป้องกันตนจากโรคท้องร่วง
1. ล้างมือให้สะอาดด้วยนํ้าสะอาดและสบู่ทุกครั้ง ก่อนเตรียมหรือปรุงอาหาร ก่อนกินอาหาร และหลังการขับถ่ายอุจจาระ
2. ดื่มนํ้าต้มสุก
3. เลือกกินอาหารที่สะอาด ปรุงสุกด้วยความร้อน และปรุงสุกใหม่ๆ
4. กำจัดสิ่งปฏิกูล ขยะมูลฝอย บริเวณบ้าน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุของแมลงวัน
หวังว่าข้อมูลจากเราจะเป็นประโยชน์ต่อคุณ รักษาและดูแลตนเมื่อเป็นโรคท้องร่วง อย่าให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ รักษาความสะอาดของร่างกายและข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงสุขลักษณะในเรื่องการกิน ที่สำคัญควรป้องกันตนจากโรคท้องร่วงกันด้วยนะค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com