ไมเกรน ..อาการปวดหัวที่ไม่ควรชะล่าใจ
advertisement
ไมเกรน เป็นอาการของการปวดศีรษะที่มักเกิดขึ้นกับวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุ
เป็นอาการปวดศีรษะที่รุนแรงมากเลยทีเดียว มักมีอาการปวดบริเวณศีรษะข้างเดียว หรือปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดสองข้าง และอาจเกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนด้วย ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้ kaijeaw.com จะพาไปรู้จักไมแกรนอาการปวดหัวที่คนยุคนี้เป็นกันมากค่ะ
advertisement
สาเหตุ
สาเหตุการปวดศีรษะแบบไมเกรนนั้นยังไม่ทราบชัดเจน ส่วนหนึ่งอาจเชื่อว่า เกิดจากเซลล์สมอง และหลอดเลือดมีภาวะไวต่อตัวกระตุ้นมากเกินไป ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าที่ผิดปรกติในสมอง ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเส้นประสาทและหลอดเลือดในสมอง ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาไม่ถูกต้องและทันท่วงที อาจทำให้เกิดการเปลื่ยนแปลงในระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไวต่อตัวกระตุ้นง่ายขึ้น และการรักษาจะยากขึ้นด้วย[ads]
สาเหตุกระตุ้น (เหตุกำเริบ / สิ่งกระตุ้น)
โรคนี้มักมีอาการปวดศีรษะกำเริบเป็นครั้งคราว ทุกครั้งที่กำเริบ มักจะมีสาเหตุกระตุ้นล่วงหน้า เป็นชั่วโมงถึง 2วันเสมอ ผู้ป่วยควรสังเกตว่ามีอะไรเป็นเหตุกำเริบ หรือสิ่งกระตุ้นบ้าง (มักมีได้มากกว่า 1 อย่าง) เช่น
ทางตา : แสงแดด แสงจ้า แสงระยิบระยับ การใช้สายตาเคร่งเครียดหรือลายตา (เช่น จ้องจอ คอมพิวเตอร์ หรืออ่านหนังสือนาน ๆ)
ทางหู : เสียงดัง เสียงจอแจ
ทางจมูก : กลิ่นต่าง ๆ รวมทั้งกลิ่นน้ำหอม ควันบุหรี่
ทางลิ้น : อาหาร (เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล หมูแฮม ไส้กรอก ถั่ว กล้วยหอม ช็อกโกแลต ผงชูรส น้ำตาลเทียม-แอสพาร์เทม (aspartame) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มกาแฟมาก เป็นต้น) ยาเม็ดคุมกำเนิด ยานอนหลับ
advertisement
ทางกาย (กายภาพ) : อากาศร้อนจัด เย็นจัด อบอ้าว หิวจัด อิ่มจัด อดนอน นอนมาก (ตื่นสาย) ร่างกายเหนื่อยล้า ประจำเดือนมา มีไข้สูง มีอาการเจ็บปวดที่ต่าง ๆ (เช่น ปวดประจำเดือน ปวดฟัน)
ทางใจ : เครียด กังวล คิดมาก ซึมเศร้า
อาการ
ผู้ป่วยไมเกรน มักมีอาการปวดหัวปานกลาง ถึงรุนแรง อาการมักกำเริบเป็นระยะ โดยมักจะเป็นข้างเดียว ปวดแบบตุ๊บตุ๊บ บริเวณขมับ หรือต้นคอ อาการปวดศีรษะมักจะยาวนาน 4 ถึง 72 ชั่วโมง โดยอาการปวดหัวจะแย่ลงเมื่อมีการขยับศีรษะ ไอจาม และดีขึ้นถ้าผู้ป่วยอยู่ในที่เงียบและมืด หรือได้รับการพักผ่อน
ในผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการนำก่อนอาการปวดศีรษะ เช่น อาจมีการมองเห็นที่ผิดปรกติ มองไม่ชัด มองเห็นแสงแบบซิกแซกโดยจะขยายขึ้นเรื่อยเรื่อย อาจมีอาการชามือหรือชาหน้า ได้ อาการนำมักเกิดก่อนมีอาการปวดศีรษะประมาณ 30 นาที โดยส่วนมากระยะเวลาที่เป็นไม่เกิน 20 นาที
advertisement
ส่วนใหญ่พบผู้ป่วยกลุ่มใด วัยใด เพศใด มากที่สุด
โรคปวดศีรษะไมเกรนส่วนใหญ่จะเป็นในผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย มักเป็นในผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์และจิตใจสูง แต่ก็อาจเกิดในผู้ที่สุขภาพจิตดีก็ได้
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคไมเกรน
ปัจจุบันสาเหตุของไมเกรนก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด มีอยู่หลายทฤษฎีที่เชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้ โดยเชื่อกันว่าอาจจะเกิดจากความผิดปกติที่ระดับสารเคมีในสมอง การสื่อกระแสในสมอง หรือการทำงานที่ผิดปกติไปของหลอดเลือดสมองก็ได้
จากหลักฐานข้อมูลทางระบาดวิทยา ปัจจุบันเชื่อว่าไมเกรนถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แต่จะเกิดอาการหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งภายในและภายนอกร่างกายที่มากระทบตัวผู้เป็น
การรักษา
การรักษาไมเกรนมีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับลักษณะความรุนแรงของอาการ โดยการรักษาทีหลักคือ การบรรเทาอาการช่วงปวดศีรษะ และการป้องกัน ซึ่ง หากผู้ป่วยมีอาการที่รุนแรงมาก หรือเป็นบ่อย ผู้ป่วยอาจมีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานยาป้องกัน เพราะการที่ต้องรับประทานยาแก้ปวดบ่อยครั้ง อาจส่งผลให้ทั้งอาการปวดรุนแรงขึ้น รวมถึงความถี่ของการปวดมากขึ้นด้วย ส่วนการรักษาวิธีอื่นก้อสามารถทำได้ เช่น การฉีดยาระงับการทำงานของเส้นประสาทเฉพาะที่ การฉีดโบทอก การนวดกดจุด เป็นต้น
ผลกระทบหรือปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคไมเกรนมีอะไรบ้าง
ผลกระทบที่สำคัญที่เห็นได้ชัดคือเสียสุขภาพกาย ต้องทรมานจากความปวด บางรายปวดรุนแรงมากจนแทบอยากจะวิ่งเอาหัวชนฝาผนัง บางรายก็ปวดข้ามวันข้ามคืนจนนอนหลับไม่สนิท บ้างก็คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลียจนเสียสมรรถภาพการเรียนการทำงาน ไมเกรนเป็นโรคหนึ่งที่ทำให้ผู้ที่ทำงานประเภทใช้ความคิดต้องขาดงานเป็นจำนวนมาก ทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจไม่น้อย ถ้าเป็นบ่อยมากเป็นรุนแรงมาก ๆ ก็ทำให้เสียสุขภาพจิตได้ บ้างก็จะวิตกกังวลว่าอาจจะเป็นเนื้องอกในสมอง
advertisement
วิธีการดูแลตนเองระหว่างเป็นโรคไมเกรน
ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะเรื้อรังควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เมื่อทราบว่าเป็นไมเกรนแล้ว ควรจะออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยป้องกันอาการปวด เมื่อปวดศีรษะไมเกรนควรรับประทานยาแก้ปวดเป็นครั้งคราว ถ้าปวดบ่อยมากควรจะพบแพทย์เพื่อรับประทานยาป้องกันไมเกรน
วิธีการป้องกันโรค
ที่สำคัญมีอยู่ 2 วิธี วิธีแรกก็คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอร่วมกับการกำจัดความเครียดอย่างเหมาะสม วิธีที่สองคือการรับประทานยาป้องกันไมเกรน แพทย์จะแนะนำให้รับประทานป้องกันก็ต่อเมื่อปวดศีรษะบ่อยมาก เช่น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งขึ้นไป หรือแม้จะปวดไม่บ่อยแต่รุนแรงมากหรือนานต่อเนื่องกันหลายวัน ยาป้องกันไมเกรนนั้นมีอยู่หลายชนิด จะต้องเลือกชนิดและปรับขนาดยาให้เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายไป แนะนำให้รับประทานยาป้องกันต่อเนื่องจนอาการสงบลงนาน 6-12เดือนจึงลองหยุดยาได้ เมื่อกำเริบขึ้นอีกจึงเริ่มรับประทานใหม่[ads]
ที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะนั้นมีมากมายหลายสาเหตุ ที่จะเกิดจากเนื้องอกในสมองนั้นพบไม่มาก ถ้ามีอาการปวดศีรษะเรื้อรังหรือปวดรุนแรงมาก ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุสำหรับโรคปวดศีรษะไมเกรนนั้นแม้จะเป็นโรคที่เรื้อรัง แต่สามารถที่จะควบคุมให้โรคสงบลงได้ทั้งโดยวิธีธรรมชาติ โดยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และรู้จักกำจัดความเครียดอย่างเหมาะสม ในกรณีที่จำเป็นก็อาจต้องใช้ยาสักระยะหนึ่ง
อาการปวดหัวจึงเป็นอาการที่หลายๆคนไม่ควรมองข้าม เพราะบางทีอาจจะเป็นไมเกรนหรือเป็นสัญณาณเตือนของการเกิดโรคต่างๆ ได้ ฉะนั้นถ้ามีอาการปวดหัวจึงควรไปเข้ารับการรักษาจากแพทย์ และหันมาสนใจดูแลเอาใจใส่สุขภาพกายและสุขภาพจิตให้มากขึ้น เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในการป้องกันโรคค่ะ
เรียบเรียงโดย: Kaijeaw.com