ไม่ควรใช้มือเปล่าเก็บขยะ ทำความสะอาดบ้านเรือน เสี่ยงสัมผัสเชื้อโรค สิ่งปนเปื้อนอันตรายจากขยะ
advertisement
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะผู้ประสบภัยน้ำท่วม และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่หลังน้ำลด ไม่ควรใช้มือเปล่าขณะทำความสะอาดบ้านเรือน เก็บขยะในและนอกบ้านขอให้สวมถุงมือหรือถุงพลาสติก สวมร้องเท้าบูท สวมผ้าปิดปากจมูกทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคและสิ่งปนเปื้อนในขยะ ควรแยกขยะอันตราย หลังสัมผัสขยะแล้วรู้สึกแสบคันจมูกเวียนศีรษะ หรือเกิดความผิดปกติใดๆกับร่างกายขอให้แจ้ง อสม.ที่อยู่ใกล้หรือรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที
นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเฉพาะกิจน้ำท่วมสถานพยาบาลในภาคใต้และการสนับสนุนภาคประชาชนของกรม สบส. ให้สัมภาษณ์ว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัย 7 จังหวัดได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี พัทลุง ยะลา สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส และมีพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัดคือ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจากการประเมินชุมชน ปัญหาในพื้นที่ที่ระดับน้ำลดแล้วจะพบว่ามีปริมาณขยะมูลฝอยจำนวนมาก มีทั้งขยะวัชพืช เศษไม้ ขยะจากสิ่งปลูกสร้าง ของใช้ต่างๆ และขยะอันตราย เช่นหลอดไฟฟ้า ถ่านไฟฉาย เป็นต้น รวมทั้งมีตะกอนดินทรายที่น้ำพัดพามาจำนวนมาก ซึ่งประชาชนมีความเสี่ยงอันตรายทั้งจากเชื้อโรคที่อยู่ในดินโคลนชื้นแฉะ เช่น เชื้อโรคฉี่หนู เชื้อบาดทะยัก รวมทั้งอันตรายสัตว์มีพิษและจากสารเคมี โลหะหนักต่างๆ เช่น หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ถ่านกระดุมมักมีสารปรอทเจือปน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ คือระบบประสาทส่วนกลาง หากเป็นถ่านไฟฉายจะมีสารแคดเมียม เป็นอันตรายต่อโครงสร้างกระดูก ปอด และไต[ads]
advertisement
1.ไม่ควรใช้มือเปล่าเก็บขยะ เนื่องจากมีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อโรคและสารเคมี ก่อนดำเนินการทุกครั้ง ขอให้แต่งกายให้มิดชิด เช่น สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตราย คือ สวมถุงมือยาง หรือถุงพลาสติก ใส่รองเท้าบูท สวมหน้ากากอนามัย
2.ขณะที่ทำการเก็บขยะภายในบ้านให้เปิดประตูหน้าต่างเพื่อเพิ่มการระบายอากาศ
3. ควรแยกขยะเปียก และขยะแห้งออกจากกัน ใส่ถุงดำและเก็บให้พ้นน้ำ สำหรับถุงเศษอาหารควรบรรจุในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดแข็งแรงอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันสัตว์มากัดแทะหรือสัตว์มีพิษมาอาศัยซ่อนแอบซึ่งอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิต [ads]
advertisement
5.ให้ทำความสะอาดมือและร่างกายทุกครั้งภายหลังสัมผัสขยะหรือสิ่งสกปรก และระมัดระวังไม่ให้ผิวหนังที่มีบาดแผลสัมผัสน้ำท่วมขัง เพื่อความปลอดภัยจากสารเคมีและเชื้อโรค
6.หากหลังสัมผัสขยะแล้วรู้สึกแสบคันจมูกเวียนศีรษะ หรือเกิดความผิดปกติใดๆ กับร่างกาย ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันทีหรือแจ้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม.ที่อยู่ใกล้โดยเร็ว โดยกรมสบส.ได้ให้อสม.ประชาสัมพันธ์คำแนะนำดังกล่าว ผ่านทางหอกระจายข่าวในหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง
ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : กลุ่มประชาสัมพันธ์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ