10 ข้อที่ต้องรู้ก่อนใส่คอนแท็คเลนส์
advertisement
ปัจจุบัน เลนส์สัมผัส หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า “คอนแทคเลนส์” (Contact Lens) ได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น ที่นำมาใช้ในเรื่องความสวยความงาม แก้ไขปัญหาสายตาโดยที่ไม่ต้องสวมแว่นตา ใช้เพื่อเปลี่ยนสีดวงตา ทำให้ตาดำขยายใหญ่และกลมโตกว่าปกติ เป็นต้น โดยคอนแทคเลนส์เหล่านี้สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้า ร้านแว่นตา ตามแผงลอยทั่วไป หรือตามร้านค้าอินเตอร์เน็ต แต่การใส่คอนแทคเลนส์ ย่อมมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใส่หรือแค่เพียงอยากใส่ ก็จำเป็นต้องมีความรู้ที่ถูกต้องในการใช้คอนแท็คเลนส์ อะไรบ้างนั้น ตาม Kaijeaw.com ไปดูกันค่ะ
[ads]
advertisement
> รู้จักประเภทของคอนแทคเลนส์
แบ่งตามเนื้อวัสดุที่นำมาใช้ผลิต ดังนี้
ชนิดแข็ง – ที่ก๊าซสามารถซึมผ่านได้ ทำจากวัสดุพลาสติกชนิดพิเศษที่สามารถทำให้ออกซิเจนจากอากาศซึมผ่านตัวเลนส์ไปสู่กระจกตาได้ในปริมาณสูงจะทำให้เห็นภาพชัด ละเอียดขึ้น มีราคาถูกกว่าชนิดนิ่ม เนื่องจากใช้ได้นานกว่าและจะมีความคงทนต่อการเกิดรอยขูดขีดและเกาะติดของคราบมากกว่า แต่ในระยะแรกจะรู้สึกไม่สะดวกสบายในการสวมใส่เท่ากับชนิดนิ่ม ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยในการสวมใส่
ชนิดนิ่ม – ทำจากแผ่นพลาสติกจำเพาะอีกประเภทหนึ่งที่มีลักษณะนิ่ม บิดงอได้ ซึ่งเป็นผลให้ออกซิเจนสามารถผ่านเข้ากระจกตาได้ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูงกว่าชนิดแข็ง คอนแทคเลนส์ชนิดนี้ใช้ง่าย และสะดวกสบายกว่าชนิดแข็ง ปัจจุบันมีการนำวัสดุประเภทซิลิโคน ไฮโดรเยล (Silicone hydrogels) มาใช้ เพื่อให้ออกซิเจนผ่านเข้าสู่ตามากขึ้นในขณะที่สวมใส่อยู่
คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มสามารถแบ่งตามรูปแบบการใช้งานได้เป็น 5 กลุ่ม คือ
1) คอนแทคเลนส์รายวัน – ใส่ ถอด และเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ใหม่ทุกวัน
2) คอนแทคเลนส์รายสัปดาห์ – ใส่และถอดออกทุกวัน และเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ใหม่ทุก 1-2 สัปดาห์
3) คอนแทคเลนส์รายเดือน – ใส่และถอดออกทุกวัน และเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ใหม่ทุก 1 เดือน
4) คอนแทคเลนส์รายปี – ใส่และถอดออกทุกวัน และเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ใหม่ทุกปี ซึ่งในปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้ เนื่องจากการดูแลทำความสะอาด เป็นแบบที่ค่อนข้างยุ่งยากและต้องเข้มงวดกว่า 3 แบบแรก
5) คอนแทคเลนส์ชนิดใส่ต่อเนื่อง – ใส่ต่อเนื่องเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ จากนั้นจึงเปลี่ยนใหม่ ซึ่งโดยปกติไม่แนะนำการใช้คอนแทคเลนส์รูปแบบนี้ เนื่องจากพบอัตราการติดเชื้อที่กระจกตาได้สูงกว่าการใช้แบบใส่และถอดออกทุก วันอย่างมาก
advertisement
ข้อควรรู้ในการใช้คอนแทคเลนส์
1. แช่คอนแทคเลนส์ด้วยน้ำยาทิ้งไว้ 1 คืนก่อนนำมาใส่ หากมีน้ำยาละลายคราบโปรตีนก็สามารถนำมาผสมกับน้ำยาแช่ได้ เพื่อล้างสารกันบูดออกไป ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายต่อดวงตาของเรา
2. ทำความสะอาดมือทุกครั้งก่อนใส่และถอดคอนแทคเลนส์ ควรจะล้างมือให้สะอาด และตัดเล็บของเราให้สั้นทุกครั้งก่อน ไม่ว่าจะถอดหรือใส่คอนแทคเลนส์ หรือทำความสะอาดเลนส์เพราะเราจะต้องใช้มือสัมผัสเลนส์ทุกครั้ง
3. เปลี่ยนน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ทุกวัน ควรใช้น้ำยาล้างเลนส์สัมผัสที่ใหม่ และเปลี่ยนน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับเลนส์สัมผัสทุกครั้งที่แช่เลนส์สัมผัส และแม้ไม่ใส่เลนส์สัมผัส ควรเปลี่ยนน้ำยาใหม่ในตลับทุกวัน
4. ไม่ใช้น้ำประปากับคอนแทคเลนส์ ไม่ว่าล้างหรือแช่ เพราะคลอรีนในน้ำประปาอาจจะทำให้เนื้อคอนแทคเลนส์เสื่อมสภาพ แล้วฉีกขาดง่าย ส่งผลร้ายต่อกระจกตาของเราอย่างรุนแรง ควรล้างและแช่คอนแทคเลนส์ในน้ำยาสำหรับล้างและแช่คอนแทคเลนส์เท่านั้น
5. ควรเปลี่ยนตลับใส่คอนแทคเลนส์ทุกเดือน เนื่องจากตลับใส่คอนแทคเลนส์นี่แหละที่จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดี หากไม่เปลี่ยนหรือไม่ทำความสะอาด
advertisement
6. ไม่นอนหลับพร้อมคอนแทคเลนส์ การใส่คอนแทคเลนส์ในตอนหลับ ไม่ดีต่อดวงตาของเรา ทางที่ดีควรถอดก่อนนอนเพื่อให้ดวงตาของเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และยังเป็นการยืดอายุการใช้งานที่แน่นอนและยืนยาวมากกว่าด้วย
7. ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ขณะว่ายน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตาได้
8. ใส่คอนแทคเลนส์ก่อนการแต่งหน้า เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องสำอางรอบดวงตาเละ หรือหลุดเข้าไปทำร้ายรอบดวงตาของเราได้ และเวลาที่เราต้องล้างเครื่องสำอางออก เราก็ต้องถอดคอนแทคเลนส์ออกแช่ก่อนด้วยค่ะ
[ads]
9. ไม่ควรใส่เกินวันละ 8 ชั่วโมง การใส่คอนแทคเลนส์ติดต่อกันยาวนานเกินวันละ 8 ชั่วโมง เป็นผลเสีย เพราะจะทำให้ดวงตาของเราขาดออกซิเจน นานมากๆ อาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นทำให้ตาบอดได้
10. หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหรือปวดตาเป็นอย่างมากร่วมกับอาการแพ้แสง ตามัว น้ำตาไหลมากหรือตาแดง ให้หยุดใช้คอนแทคเลนส์ทันที และรีบพบจักษุแพทย์โดยเร็ว
เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญค่ะ เราจึงต้องหมั่นดูแลและป้องกันดวงตาของเรา ในส่วนของคอนแทคเลนส์นั้นสามารถใช้ได้ แต่ก็ควรใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม ก็จะเป็นประโยชน์ต่อดวงตาและการมองเห็นของเราค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com