10 สิ่งของเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค..ที่คุณคาดไม่ถึง!!
advertisement
เวลาทำความสะอาดบ้าน โดยปกติแล้วเราก็มักจะทำจุดที่เห็นความสกปรกได้อย่างชัดเจน เช่น พื้น หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เปื้อนคราบหรือมีฝุ่นเกาะ ส่วนจุดอื่นๆ เรามักจะมองข้ามและละเลยที่จะทำความสะอาด เพราะคิดว่าดูเหมือนจะสะอาดดี หรืออยู่ลับสายตาจนเราไม่สังเกตเห็นและลืมไป จนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียได้มากมาย ซึ่ง Kaijeaw.com ได้รวบรวมไว้ มีมากถึง 10 ด้วยกัน มีจุดไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ[ads]
advertisement
1. ฟองน้ำล้างจาน
ฟองน้ำที่ใช้ทำความสะอาดล้างจานชามทุกวัน ใช่ว่าจะสะอาดจริงนะคะ เพราะฟองน้ำนี้มักจะชื้นอยู่ตลอดเวลา ใช้ไม่ทันแห้งก็ใช้เปียกอีกแล้ว อีกทั้งเศษอาหารหมักหมมอีก ทำให้เชื้อโรคต่างๆ นั้นเจริญเติบโตได้ดี
ดูแลทำความสะอาด : หลังล้างจานทั้งหมดเสร็จแล้วให้นำฟองน้ำไปซักกับน้ำเปล่าและน้ำสบู่ให้สะอาดเอี่ยม จากนั้นบิดให้แห้งวางตากไว้ด้านนอก และห้ามวางกลับไปในน้ำสบู่ซ้ำอีกรอบเด็ดขาด เมื่องานล้างจานครั้งสุดท้ายของวันผ่านพ้นไป ให้นำฟองน้ำเปียกๆ ไปอบฆ่าเชื้อในไมโครเวฟ 1 นาที (ฟองน้ำต้องเปียกไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดประกายไฟได้)
2. อ่างล้างจานในครัว
อ่างล้างจานในครัว อยู่กับความชื้นและเศษอาหารต่างๆ ที่เกาะติดอยู่ตามอ่างจะค่อยๆ ก่อเชื้อแบคทีเรีย อาจมากเทียบเท่ากับชักโครกเลยก็ได้
ดูแลทำความสะอาด : ทำความสะอาดอ่างล้างจาน ด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรแอนตี้แบคทีเรีย ในปริมาณ ¼ ถ้วยตวงผสมกับน้ำเปล่า 1 ส่วน แล้วนำไปขัดถูทำความสะอาดอ่างล้างจาน ท่อน้ำทิ้ง และก๊อกน้ำ จากนั้นทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออกให้เกลี้ยง ควรทำความสะอาดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
advertisement
3. แปรงสีฟัน
แปรงสีฟัน เป็นอุปกรณ์ที่เราใช้บ่อยๆ ใช้ซ้ำๆ และยังอยู่กับความชื้นเป็นประจำ จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค แบคทีเรียต่างๆ และเกิดเชื้อราตามขนแปรงได้อีกด้วย
ดูแลทำความสะอาด : เมื่อทำธุระกับชักโครกเสร็จให้ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำทิ้งทุกครั้ง เพราะไม่อย่างนั้นละอองสิ่งสกปรกจะกระเด็นไปตามอากาศแล้วมาเกาะที่แปรงสีฟันได้ ทำแปรงสีฟันให้แห้งเสมอ และที่สำคัญต้องเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือนด้วยค่ะ
4. พื้นห้องอาบน้ำ
คราบฝังแน่นในห้องน้ำที่อาจจะมีทั้งเชื้อรา คราบสบู่ คราบไขมัน คราบต่างๆ สะสมในร่องกระเบื้องขาวใส ผ่านไปไม่นานกลายเป็นคราบจับดำเป็นหย่อมๆ เชื้อโรคทั้งนั้น
ดูแลทำความสะอาด : ควรทำให้แห้งทุกครั้งหลังใช้งาน ไม่ว่าจะเช็ด หรือรีบระบายความชื้นออกไปให้ไวที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา และใช้สเปรย์ที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อย่างน้อย 3% ฉีดพ่นอ่างอาบน้ำ คอกฝักบัว พื้นหรือผนังของที่อาบน้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยไม่ต้องล้างออก เพราะไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สามารถระเหยได้อย่างรวดเร็ว
5. เครื่องนอน เตียง ผ้าห่ม ปลอกหมอน
คราบเหงื่อไคลจากตัวเรามักจะถูกสะสมไว้บนฟูกนอน ผ้าห่มและเครื่องนอนอย่างเหนียวแน่น อีกทั้งฝุ่นละอองต่างๆ ที่จะแทรกตัวฝังลึกในใยผ้า
ดูแลทำความสะอาด : ในส่วนของปลอกหมอน ผ้าคลุม ควรถอดเปลี่ยนนำไปซักเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ได้ แต่ถ้าเป็นเตียงจะต้องใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดโดยรอบ ฟูกนอนนำไปตากแดดและใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดครั้งสองด้าน และพยายามเปิดม่านหรือหน้าต่างทุกเช้าให้แสงแดดเข้ามาช่วยขจัดกลิ่น และเชื้อโรคในเนื้อผ้าเครื่องนอน
advertisement
6. ชั้นหรือตู้เก็บรองเท้า
เชื่อว่าเราคงไม่ได้ทำความสะอาดรองเท้าทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน ส่วนใหญ่ก็จะถอดเก็บไว้ในตู้รองเท้าเลยด้วยความสะดวก ตู้รองเท้าจึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดีนี่เอง
ดูแลทำความสะอาด : ควรเช็ดทำความสะอาดในตู้เก็บรองเท้า ให้สะอาดเป็นประจำอย่างน้อยทุกเดือน และอย่าลืมทำความสะอาดรองเท้าเป็นประจำด้วยนะคะ
7. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แทปเล็ต รีโมทคอนโทรล คีย์บอร์ด เป็นสิ่งที่เราใช้งานกันเป็นเวลานานๆ และบ่อยครั้ง จึงเป็นที่สะสมเชื้อแบคทีเรียและไวรัสไว้หลากหลายชนิด ซึ่งพอๆ กับอ่างล้างจานและชักโครกเลยทีเดียว
ดูแลทำความสะอาด : ทุกสัปดาห์ให้เรานำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มาเช็ดทำความสะอาด จัดการเคาะเศษขยะออกให้หมด รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เป็นจอทัชสกรีนให้นำน้ำยาทำความสะอาดแบบฆ่าเชื้อ มาฉีดแล้วเช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ทิ้งไว้ให้แห้งก่อนการใช้งาน
8. ตู้เสื้อผ้า
ตู้เสื้อผ้าเป็นจุดที่อบและอับจึงมักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา ไรฝุ่นได้เช่นเดียวกับที่นอน
ดูแลทำความสะอาด : ควรทำความสะอาดตู้เสื้อผ้า โดยนำเสื้อผ้าออกจากตู้ให้หมดก่อน ปัดฝุ่นในตู้เสื้อผ้า แล้วเช็ดทั้งด้านในและด้านนอกตู้เสื้อผ้าด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ฆ่าเชื้อโรค เปิดผึ่งระบายอากาศให้ดูแห้ง ไม่ชื้นแล้วจึงนำเสื้อผ้าแขวนหรือจัดเรียงให้เป็นระเบียบหมวดหมู่เพื่อหยิบใช้ได้ง่าย
advertisement
9. พรมในบ้าน
พรมรองพื้นเป็นตัวการสะสมเชื้อแบคทีเรียอันดับต้นๆ ของบ้านเลยทีเดียว มากถึงจำนวน 200,000 ตัวต่อ 1 ตารางนิ้ว ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้ออีโคไล แซลโมเนลลา และเชื้อดื้อยาที่มาจากเศษผิวหนังตามร่างกายคนและสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงเกสรดอกไม้และสิ่งสกปรกที่มาจากนอกบ้านอีกด้วย
ดูแลทำความสะอาด : ทำความสะอาดพรมเป็นประจำทุกวัน โดยใช้เครื่องดูดฝุ่น แบบหัวแปรงกวาดทำความสะอาด เอาสิ่งสกปรกตามซอกออกให้หมด และนำน้ำยาฆ่าเชื้อมาฉีดทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จ้างบริษัททำความสะอาดพรมมาทำความสะอาดปีละ 1 ครั้ง[ads]
10. ลูกบิดประตู
เป็นจุดที่เราต้องสัมผัสวันละหลายๆ ครั้ง เมื่อมือไปสัมผัสกับเชื้อโรค สิ่งสกปรกต่างๆ ที่มองไม่เห็น แล้วก็มาบิดประตู และเมื่อไม่ได้ทำความสะอาดนานวันเข้าก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมาย
ดูแลทำความสะอาด : ทุกๆ ครั้งที่ทำความสะอาดบ้าน ควรทำความสะอาดลูกบิดประตูด้วย โดยใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว รวมทั้งบานประตูและมือจับหน้าต่างด้วยเช่นกัน
บ่อยครั้งที่เราพบว่า ทำไมตัวเราเองหรือคนในครอบครัวมักมีอาการเจ็บป่วยอยู่บ่อยๆ นั่นอาจเป็นเพราะว่ายังมีการดูแลความสะอาดบ้านได้ไม่ทั่วถึงค่ะ โดยเฉพาะความสะอาดของจุดเสี่ยงในบ้านที่มักจะสปกรกได้อย่างคาดไม่ถึง แถมยังเป็นจุดที่ทุกคนในบ้านสัมผัสบ่อยๆ อีกด้วย รู้เช่นนี้ต้องหมั่นต้องทำความสะอาดอยู่เสมอนะคะ เพื่อดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัวค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com