5 เมนูน้ำพริกกะปิ อร่อยๆง่ายๆ ต้องลอง!!
advertisement
“น้ำพริกกะปิ” เมนูน้ำพริกเด็ดๆ ประจำสำรับอาหารไทยๆ เลยทีเดียวนะคะ น้ำพริกกะปิรสเด็ด ทานคู่ปลาทูทอด ผักสด ผักลวก ชะอมชุบไข่ทอด ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยคู่กันมากเลยทีเดียว หากจะทานน้ำพริกกะปินั้นก็สามารถทำทานเองได้ง่ายๆ นะคะ วันนี้ Kaijeaw.com ก็มีสูตรวิธีการทำน้ำพริกกะปิมาฝากกัน ซึ่งมีอยู่ 5 สูตรด้วยกัน รับรองว่าอร่อยไม่ซ้ำแน่นอนค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่มั้ยคะว่ามีเมนูอะไรบ้างนะ แล้วทำได้อย่างไร ขอบอกเลยว่าไม่ยากเลยนะ ไปดูกันเลยค่ะ
advertisement
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ
เมนูน้ำพริกกะปิ มีเครื่องเคียงหลายอย่าง ทานคู่ปลาทูทอด ผักสด ผักลวก ผักทอด ทานคู่กันแล้วให้คุณค่าทางโภชนาการสูงมาก น้ำพริกกะปิเพิ่มรสชาติอาหาร ผักต่างๆ ให้สารอาหารวิตามินสูง ใยอาหารสูง ปลาทูทอดให้โปรตีนที่สำคัญ รวมถึงไขมันดี นอกจากปลาทูก็สามารถเลือกกินปลาทะเล ปลาช่อน ปลาทับทิมฯลฯ ทานกับข้าวสวย ถือว่าเราได้อาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ แล้วเป็น 5 หมู่ที่มีสัดส่วนที่ค่อนข้างดี ตามหลักโภชนการเกือบทุกประการ
1. น้ำพริกกะปิไข่เค็ม + ปลาดุกฟู
ส่วนผสม น้ำพริกกะปิไข่เค็ม
– ไข่เค็ม 3 ฟอง
– พริกขี้หนู 15 เม็ด (หรือตามชอบ)
– กระเทียม 15 กลีบ
– กะปิ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลปี๊บ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ
– พริกขี้หนู (โรยหน้า)
ส่วนผสม ปลาดุกฟู
– ปลาดุก 1 ต้ว (น้ำหนักประมาณ 400 – 500 กรัม)
– น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ น้ำพริกกะปิกุ้งสด
1. ผ่าไข่เค็ม แยกไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกัน หั่นไข่ขาวเป็นลูกเต๋า เตรียมไว้
2. โขลกพริกขี้หนูสวนและกระเทียมพอหยาบ ใส่กะปิ น้ำตาลปี๊บ และไข่แดงลงไปโขลกให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว เติมน้ำต้มสุกคนผสมให้เข้ากัน ชิมรส
4. ตักใส่ถ้วย โรย ไข่ขาว และพริกขี้หนู พร้อมเสิร์ฟ ทานพร้อมปลาดุกฟู และผักตามใจชอบ
วิธีทำ ปลาดุกฟู
1. นำปลาไปย่างในเตาอบอุณหภูมิประมาณ 230 องศาเซลเซียส จนสุกดี จากนั้นจึงนำออกมาทิ้งไว้ให้เย็น แล้วใช้ส้อมขูดไปที่เนื้อปลาเพื่อให้เนื้อปลาฉีกเป็นชิ้นฝอย
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนจึงนำเนื้อปลาฝอยที่ขูดได้ไปทอดให้เป็นแพจนเหลือง เสร็จแล้วนำออกมาสะเด็ด และจัดไว้บนจานเสิร์ฟ [ads]
advertisement
2. น้ำพริกกะปิกุ้งสด
ส่วนผสม น้ำพริกกะปิกุ้งสด
– กุ้งต้มสุก 12 ตัว
– พริกขี้หนู 15 เม็ด (หรือตามชอบ)
– กระเทียม 12 กลีบ
– กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
– มะเขือพวง (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำ น้ำพริกกะปิกุ้งสด
1. แบ่งกุ้งต้มมาสับให้ละเอียด 6 ตัว อีก 6 ตัวให้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้
2. โขลกพริกขี้หนูสวนและกระเทียมพอหยาบ ใส่กะปิ น้ำตาลปี๊บโขลกให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว เติมน้ำต้มสุกคนผสมให้เข้ากัน ชิมรส
4. ใส่เนื้อกุ้งลงไปคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยมะเขือพวง เสิร์ฟคู่กับผักสด ผักลวก ปลาทูทอด และไข่เจียวชะอมตามชอบ
advertisement
3. น้ำพริกกะปิมะม่วง
ส่วนผสม น้ำพริกกะปิมะม่วง
– พริกขี้หนู 15 เม็ด (หรือตามชอบ)
– กระเทียมไทย 12 กลีบ
– กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
– มะม่วงเปรี้ยวสับ 1 ถ้วย
วิธีทำ น้ำพริกกะปิมะม่วง
1. โขลกพริกขี้หนูสวนและกระเทียมพอหยาบ ใส่กะปิและน้ำตาลปี๊บลงไปโขลกให้เข้ากัน
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว เติมน้ำต้มสุกคนผสมให้เข้ากัน ชิมรสแล้วปรุงเพิ่มตามที่ต้องการ
3. ใส่มะม่วงเปรี้ยวสับลงไปคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยมะเขือพวง เสิร์ฟคู่กับผัก ไข่เจียวชะอมทอดตามชอบ
advertisement
4. น้ำพริกกะปิหลน
ส่วนผสม น้ำพริกกะปิหลน
– หอมแดงหั่น ½ ถ้วยตวง
– ตะไคร้หั่นฝอย 4 ช้อนโต๊ะ
– กระชายหั่น 4 ช้อนโต๊ะ
– กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
– พริกแห้งเม็ดใหญ่ 6-8 เม็ด (แช่น้ำจนนุ่ม)
– กะปิ 6 ช้อนโต๊ะ
– ปลาย่าง (แกะเอาแต่เนื้อ) 1 ถ้วย
– กุ้งแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ
– หัวกะทิ 1 ถ้วย
– หมูสับ ½ ถ้วย
– หางกะทิ 3 ถ้วย
– น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
– พริกชี้ฟ้าสีเขียว สีแดง และสีเหลือง (หั่นท่อน) 7-8 เม็ด
– ใบมะกรูด
วิธีทำ น้ำพริกกะปิหลน
1. ย่างเครื่องปรุงสมุนไพรต่างๆ ได้แก่ หองแดง ตะไคร้ กระชาย และกระเทียม หรือจะนำไปคั่วก็ได้
2. เมื่อสมุนไพรทั้งหมดสุกได้ที่แล้ว ก็นำมาโขลกหรือปั่นให้ละเอียดเข้ากัน
3. โขลกพริกแห้งและกะปิให้ละเอียด (ถ้าใครใช้กุ้งแห้งทั้งตัวให้ใส่ไปโขลกรวมกันตอนนี้เลย) จากนั้นเติมตะไคร้ กระชาย หอมแดง และกระเทียม ใส่ปลาย่างลงไปโขลกให้เข้ากัน
4. ตั้งกระทะด้วยไฟกลางเคี่ยวหัวกะทิให้กะทิแตกมัน จากนั้นใส่น้ำพริกที่โขลกแล้วลงไปผัดให้หอม
5. ใส่หมูสับ แล้วผัดน้ำพริกให้เข้ากัน
6. ใส่หางกะทิ และพริกชี้ฟ้าสามสีที่เตรียมไว้ และเคี่ยวพอข้น เริ่มปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา
7. เมื่อพริกสุกพอดีแล้ว ให้ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความหอมของน้ำพริก
advertisement
5. น้ำพริกกะปิหวาน
ส่วนผสม น้ำพริกกะปิหวาน
– กะปิอย่างดี ½ ถ้วย
– น้ำตาลปี๊บ 2 ถ้วย
– หอมแขก หรือหอมแดงซอย 1 ถ้วย
– น้ำต้มสุก
– พริกขี้หนูซอย 15-20 (ตามชอบ)
– กุ้งแห้งอย่างดี ½ ถ้วย
– มะม่วงเปรี้ยวสับ ¼ ถ้วย (ตามชอบ)
วิธีทำ น้ำพริกกะปิหวาน
1. ผสมกะปิกับน้ำตาลปี๊บให้ละลายเข้าด้วยกัน (เติมน้ำต้มสุกนิดหน่อย)
2. ใส่หอมแดง พริกขี้หนูซอย กุ้งแห้งและมะม่วงสับ ลงไปคนให้เข้ากัน ชิมรส ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมมะม่วง [ads]
ผัก / เครื่องเคียง รับประทานคู่น้ำพริกกะปิ
ผักสดต่างๆ : แตงกวา มะเขือเปราะ มะเขือพวง ผักกาดหอม ล้างให้สะอาด และหั่น
ผักต้มต่างๆ : ถั่วฝักยาว ดอกแค ผักบุ้งไทยต้นขาว ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ล้างให้สะอาดแล้วไปลวก
ผักทอด : ชะอมชุบไข่ทอด
วิธีทำทำผักชะอมชุบไข่ทอดทานคู่กับน้ำพริกกะปิ
1. นำชะอมมาล้างผึ่งให้สะเด็ดน้ำ รูดใบชะอมออกจากก้าน
2. นำไข่ไก่มาตีผสมให้เข้ากัน ใส่ชะอมทีรูดใบเรียบร้อยแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันไฟร้อนปานกลาง นำไข่ที่ผสมชะอมลงทอด เมื่อสุกนำขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมันพอเย็นนำมาหั่นขนาดชิ้นพอคำ
เคล็ดลับน่ารู้
1. กะปิที่ใช้ควรเป็นกะปิอย่างดี สะอาด สีธรรมชาติ รสชาติไม่เค็มมาก
2. ก่อนนำกะปิไปใช้ปรุงให้นำไปย่างก่อน โดยใช้ใบตองห่อนำไปย่างไฟ หรือจี่ในกระทะเทปลอน เพื่อให้มีกลิ่นหอม
3. น้ำตาลที่ใช้ทำน้ำพริกกะปิ ควรใช้น้ำตาลปี๊บจะทำให้รสชาติของน้ำพริกเข้มข้นอร่อยกว่า ใส่น้ำตาลทราย
4. การใส่มะอึกซอยลงไปในน้ำพริกจะทำให้มีรสชาติเปรี้ยวและหอมกลิ่นมะอึกชวนรับประทานมากขึ้น
5. กุ้งแห้งที่ใช้ควรเป็นกุ้งแห้งอย่างดี สีธรรมชาติไม่มีเปลือกแข็ง รสธรรมชาติ (ไม่เค็มมาก) ถ้าแข็งเกินไป ให้นำไปแช่น้ำอุ่นก่อน
ได้น้ำพริกกะปิถ้วยโปรดแล้ว อย่าลืมเตรียมเครื่องเคียงให้ครบถ้วนด้วยนะคะ ไม่ว่าจะปลา เป็นปลาอะไรก็ได้ ใช้วิธีนึ่งจะดีกว่าทอด และผัก ซึ่งสามารถนำผักอื่นๆ มารับประทานได้ตามใจชอบ ซึ่งถ้าเป็นในฤดูกาลนั้นๆ ก็จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากผักอย่างเต็มที่ และมีราคาถูก ส่วนข้าวนั้น จะเป็นข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็จะทำให้ได้ประโยชน์มากขึ้นกับอาหารมื้อนี้ค่ะ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com