ระวัง!! สารเคมีอันตรายในลูกเหม็น อันตรายมากว่าที่คิด !!
advertisement
เป็นที่ทราบกันดีว่าลูกเหม็น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์กันอย่างแพร่หลาย ด้วยมีฤทธิ์ไล่แมลง และกลบกลิ่นอื่นๆ จึงใช้ป้องกันแมลงกัดกินเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า หรือใช้เพื่อดับกลิ่นในตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของหรือห้องน้ำได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาเตือนผู้บริโภคที่ใช้ "ลูกเหม็น" หรือแนฟทาลีน ว่าเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นสำหรับใครที่ใช้ลูกเหม็นเป็นประจำ ต้องระวังให้มากขึ้นนะคะ
advertisement
“ลูกเหม็น” มีทั้งชนิดก้อน ชนิดเม็ดและชนิดผลึก ซึ่งประกอบไปด้วยสารเคมีที่มีชื่อว่า “แนพทาลีน” (naphthalene) มากกว่าร้อยละ 99 โดยน้ำหนัก สารชนิดนี้สามารถระเหิดหรือเปลี่ยนสถานะที่อุณหภูมิห้อง จากของแข็งกลายเป็นไอที่มีกลิ่นป้องกันแมลงได้ แนพทาลีนเป็นสารประกอบที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติ พบได้ในถ่านหิน น้ำมันปิโตรเลียม และเกิดจากการเผาไหม้ของสารประกอบอินทรีย์ เช่น ไม้ บุหรี่ ปัจจุบันนอกจากมีการนำแนพทาลีนไปใช้เป็นลูกเหม็นกันแมลงนี้แล้ว ยังมีการผลิตแนพทาลีนเพื่อนำไปใช้ในการผลิตพลาสติกพีวีซี เรซิน สารฟอกหนัง สีย้อม และสารฆ่าแมลงบางประเภทอีกด้วย
ประโยชน์และกลไก : ไอจากการระเหิดมีกลิ่นและฤทธิ์ไล่แมลง และกลบกลิ่นอื่นๆ จึงนิยมใช้เพื่อป้องกันแมลงกัดกินเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า หรือใช้เพื่อดับกลิ่น
อันตรายและความเป็นพิษ : โดยปกติแนพทาลีนสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ โดยการหายใจเอาอากาศที่มีไอระเหยของแนพทาลีนจากเสื้อผ้าหรือผ้าห่มที่มีการใช้ลูกเหม็น หรือสัมผัสกับลูกเหม็นหรือเสื้อผ้าหรือผ้าห่มที่มีการใช้ลูกเหม็น รวมไปถึงจากการกินด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อย่างเช่น ในเด็กเล็ก [ads]
การสูดดมไอของแนพทาลีนในปริมาณน้อยๆ และและไม่ต่อเนื่อง จากการระเหิดออกมาจากก้อนลูกเหม็นนั้นอาจไม่แสดงอาการของการเกิดอันตราย อย่างไรก็ตามการได้รับแนพทาลีนเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากอาจมีผลต่อสุขภาพดังนี้
การสัมผัสทางผิวหนัง : อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผื่นแดง แสบ คันตาม
การสัมผัสทางตา : อาจทำให้เกิดการระคายเคืองดวงตา เป็นพิษต่อเรตินา ไอของแนพทาลีนที่มีความเข้มข้นมากกว่า 15 ppm อาจทำให้เกิดต้อกระจก ประสาทตาอักเสบ เกิดการบาดเจ็บของกระจกตา และระคายเคืองตาอย่างรุนแรงได้
การสูดดม : อาจเป็นอันตรายหากสูดดมได้ สารนี้อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่แผ่นเยื่อเมือก และบริเวณทางเดินหายใจส่วนบน อาจทำให้แสบ หรืออาจมีผลทำให้เกิดการอักเสบได้
การกลืนกิน : ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน เมื่อแนพทาลีนถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดเมธฮีโมโกลบินซึ่งจะก่อให้เกิดอาการตัวเขียวได้ถ้ามีความเข้มข้นสูงพอ การเริ่มแสดงอาการอาจจะเกิดช้าได้ภายใน 2 – 4 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น อาจมีเลือดออกในปัสสาวะ และ อาจเป็นอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
หากได้รับแนพทาลีนในปริมาณมาก เม็ดเลือดแดงจะถูกทำลายทำให้เกิดภาวะโลหิตจางซึ่งจะพบในคนที่กินลูกเหม็น พบว่า ทารก เด็ก สตรีมีครรภ์ คนที่มีระดับเม็ดเลือดแดงต่ำหรือมีเอนไซม์ (G6PD) บกพร่องจะเกิดภาวะโลหิตจางได้ง่ายเมื่อได้รับแนพทาลีน
นอกจากนี้แนพทาลีนที่ตกค้างในร่างกายของแม่ ยังสามารถส่งผ่านไปยังลูกผ่านทางรกและนมแม่ได้ และอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าแนพทาลีนมีผลต่อพัฒนาการหรือเป็นพิษต่อทารกในครรภ์ การทดลองในสัตว์พบว่าการสูดดมแนพทาลีนต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพิ่มอุบัติการณ์การเกิดเนื้องอกและมะเร็งในจมูกและปอด แต่ไม่พบหลักฐานยืนยันการก่อมะเร็งในคน
ดังนั้นบางหน่วยงานจึงจัดแนพทาลีน เป็นสารที่เป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดมะเร็งในคน ในขณะที่บางหน่วยงานจัดระดับความเป็นอันตรายของแนพทาลีนว่าไม่เป็นสารก่อมะเร็งในคน
advertisement
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันอันตรายที่ร้ายแรงได้
– เมื่อสูดดม ควรได้รับอากาศบริสุทธิ์ให้มากพอ และนำส่งแพทย์ถ้าจำเป็น
– เมื่อมีการสัมผัสหรือถูกผิวหนัง ให้ทำการชะล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากๆ ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออกทันที
– เมื่อเข้าตา ให้ทำการชะล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากๆ ทำได้โดยลืมตากว้างในน้ำ จากนั้นให้นำส่งแพทย์หรือจักษุแพทย์
– เมื่อกลืนกิน ให้ดื่มน้ำปริมาณมาก ทำให้อาเจียน หลังจากนั้นให้กิน คาร์บอนกัมมันต์ (Activated charcoal) ปริมาณ 20-40 กรัมละลายในน้ำ 200-400 มิลลิลิตร นำส่งแพทย์ ที่สำคัญห้ามให้กินนม ห้ามให้กินน้ำมันละหุ่ง ห้ามให้กินแอลกอฮอล์
สำหรับอาการร้ายแรงฉุกเฉิน ผู้ที่ได้รับแนพทาลีนในปริมาณ-มาก เช่น จากการกินลูกเหม็น สังเกตว่ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน มีเลือดออกในปัสสาวะ ผิวหนัง ซีดเหลืองและอาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้น เมื่อเกิดอาการพิษจำเป็นต้องนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจากแพทย์โดยด่วน [ads]
ข้อควรปฏิบัติและการเก็บรักษา
เมื่อไม่ได้ใช้ควร ปิดให้แน่น เก็บในที่แห้ง เก็บในที่เย็น บริเวณที่มีการถ่ายเทอากาศได้ดี เก็บให้ห่างจากแหล่งกำเนิดประกายไฟและความร้อน และพ้นมือเด็ก ก่อนจะใช้เสื้อผ้าหรือผ้าห่มที่มีการใช้ลูกเหม็นป้องกันแมลง ให้นำออกมาตากแดดหรือผึ่งลม เพื่อกำจัดกลิ่นและไอระเหยของแนพทาลีนที่ตกค้างเสียก่อน และควรซักอีกครั้งก่อนที่จะสวมใส่ หลีกเลี่ยงการใช้ลูกเหม็นกับเสื้อผ้าของเด็กและทารก ลดปริมาณการใช้ก้อนดับกลิ่นโดยไม่จำเป็น
ก่อนใช้เสื้อผ้าที่มีการใช้ลูกเหม็น ป้องกันแมลงให้นำออกมาตากแดด ผึ่งลม เพื่อกำจัดกลิ่น และไอระเหยของลูกเหม็นที่ตกค้างบนเสื้อผ้า และควรซักอีกครั้ง โดยเฉพาะเสื้อผ้า หรือผ้าห่มของเด็กและทารกควรหลีกเลี่ยงการใช้ลูกเหม็น
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตนเองและลูกหลานที่คุณรัก ควรใช้ลูกเหม็นด้วยความระมัดระวัง ระวังในการสูดดม การสัมผัส หรือการกิน ลดปริมาณการใช้ก้อนดับกลิ่นโดยไม่จำเป็น ควรเก็บลูกเหม็นหรือก้อนดับกลิ่นให้พ้นมือเด็ก เก็บในตู้ที่ปิดสนิทหรือในภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันการรั่วไหลของไอระเหยของลูกเหม็น หรือแนพทาลีนสู่อากาศ
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.com