แปรงฟันอย่างไรให้สะอาดและถูกวิธี

      “ฟัน” เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายที่มีความสำคัญมาก ไม่แพ้ส่วนอื่นใดเลย นอกจากจะทำหน้าที่ในการบดเคี้ยวอาหาร ก่อนส่งไปยังอวัยวะในระบบการย่อยอื่นๆ แล้ว ยังเป็นจุดเด่นบนใบหน้าเมื่อเวลาที่เรายิ้ม หัวเราะหรือพูด ดังนั้นการรัษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพื่อให้ฟันมีสุขภาพดี ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูขาวสะอาดสดใสเมื่อเวลายิ้มหรือพูด วิธีในการรักษาความสะอาดของฟันที่ดีที่สุด ก็คือการแปรงฟันอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอนั่นเองค่ะ แม้จะเป็นเรื่องที่ทุกคนทำอยู่เป็นประจำแล้ว แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า คุณแปรงฟันได้สะอาดอย่างเพียงพอและถูกวิธี สำหรับใครที่กำลังสงสัยตาม Kaijeaw.com ไปดูวิธีการแปรงฟันอย่างไร ให้สะอาดและถูกวิธีพร้อมๆ กันเลยค่ะ

อุปกรณ์สำคัญสำหรับการแปรงฟัน 
– แปรงสีฟัน 
     ควรเลือกแปรงที่มีขนาดพอเหมาะกับช่องปาก ความยาวของขนแปรงคลุมตัวฟัน ประมาณ 1 – 1.5 เท่า ของซี่ฟัน มีขนแปรงอ่อนนุ่ม ไม่มีความคม และมีการสปริงตัวของขนแปรงที่ดี จะให้ผลดีที่สุดต่อการขจัดคราบหินปูนและเศษอาหารจากฟัน หัวแปรงที่เล็กจะช่วยให้สามารถเข้าถึงทุกบริเวณในปากได้ดีกว่า รวมทั้งบริเวณที่เข้าถึงได้ยากด้วย สำหรับหลายๆ คน แปรงสีฟันไฟฟ้าอาจจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะช่วยทำความสะอาดได้ดีกว่า โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาในการแปรงฟัน 
     และควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อพบว่าขนแปรงเริ่มเสียหรือเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน แล้วแต่ว่าอะไรจะมาก่อน นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันที่คุณเป็นหวัด เพราะเชื้อโรคอาจตกค้างและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ 

[ads]

– ยาสีฟัน
     เลือกใช้เป็นยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพราะจะช่วยลดสภาวะความเป็นกรดในช่องปาก และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับตัวฟัน และปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟันสำหรับเด็ก ควรจะมีปริมาณฟลูออไรด์น้อยกว่ายาสีฟันสำหรับผู้ใหญ่
ขั้นตอนวิธีการแปรงฟันอย่างถูกวิธี 
      เมื่อเริ่มต้นแปรงฟัน ควรเริ่มแปรงในบริเวณฟันซี่ที่ตัวเองคิดว่าแปรงได้สะอาดน้อยที่สุดก่อน เพื่อที่จะเป็นการเน้นการทำความสะอาดที่บริเวณนี้ให้ดีที่สุดก่อนซึ่งพบว่าบริเวณของฟันที่คนทั่วไป มักแปรงได้ไม่สะอาด ก็คือ บริเวณฟันกรามล่างด้านลิ้น บริเวณ ฟันหน้าล่างด้านลิ้น บริเวณฟันกรามบนด้านกระพุ้งแก้ม

     1.ฟันด้านบดเคี้ยว วางขนแปรงตั้งฉากกับบริเวณด้านบดเคี้ยวของฟัน แปรงในลักษณะถูไป-มา ตามแนวฟัน 4-5 ครั้ง ให้ทั่วทั้งปากฟันด้านบดเคี้ยว
     2. ผิวฟันด้านนอก วางขนแปรงชิดกับขอบเหงือก ขนแปรงเอียงทำมุม 45 องศากับตัวฟันและเหงือก ขนแปรงชี้ขึ้นสำหรับฟันบน และชี้ลงสำหรับฟันล่าง แปรงในลักษณะขยับเบาๆ ในแนวหน้า-หลังเป็นระยะทางสั้นๆ แล้วปัดลงในฟันบน และปัดขึ้นในฟันล่าง วนให้ทั่วทั้งปาก เริ่มจากซ้ายไปขวา และฟันบนลงมาฟันล่าง
     3. ฟันด้านในของฟันหลัง วางขนแปรงให้ชิดขอบเหงือก เช่นเดียวกับแปรงฟันด้านนอก แปรงในลักษณะขยับเบาๆ แล้วปัดลงในฟันบน ปัดขึ้นในฟันล่าง แปรงให้ทั่วด้านในของฟันหลัง
     4. ฟันด้านหลังของฟันหน้า วางแปรงในแนวตั้ง ใช้ปลายแปรงสีฟันแปรงด้านหลังของฟันหน้าแต่ละซี่ โดยขยับเบาๆ ทั้งฟันหน้าบนและฟันหน้าล่าง
     5. การแปรงที่ลิ้น อย่าลืมแปรงที่ลิ้น เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นปาก โดยใช้ขนแปรงสีฟันถูเบาๆ บนด้านลิ้น
     6. บริเวณซอกฟัน ใช้ไหมขัดฟันความยาวประมาณ 1 ฟุต พันรอบปลายนิ้วกลางทั้งสองข้าง พันเข้ามาจนเหลือไว้ห่างกันประมาณ 2 นิ้ว ดึงไหมขัดฟันให้ตึงด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เคลื่อนไหวไป-มาเบาๆ เข้าระหว่างซอกฟัน ระวังกระแทกเหงือก เมื่อเคลื่อนไหมผ่านลงไปได้แล้ว ให้ใช้ไหมโอบรอบฟันข้างหนึ่ง เคลื่อนขึ้นลงไปมาเพื่อทำความสะอาดซอกฟัน แล้วโอบไหมกับฟันซี่ข้างเคียง แล้วขยับทำความสะอาดเช่นเดียวกัน ทำเช่นนี้กับทุกซอกฟัน โดยต้องใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดบริเวณซอกฟัน ที่เราแปรงเข้าไปไม่ถึงทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

[ads]

เวลาที่ใช้แปรงฟัน
     ควรใช้เวลาให้นานประมาณครั้งละ 2 นาที เพราะโดยปกติแล้ว ความยาวของแปรงสีฟัน จะครอบคลุมฟันได้ครั้งละ 2-3 ซี่ ในขณะที่ฟันน้ำนมมี 20 ซี่ และฟันถาวรมี 32 ซี่ ซึ่งได้รับการแปรงฟันทั้งด้านนอก และด้านในทุกซี่อย่างทั่วถึง จะใช้เวลาประมาณ 2 นาทีขึ้นไป

ข้อควรปฏิบัติในการแปรงฟัน
    – ควรแปรงฟันเป็นประจำทุกวัน เช้าและเย็น
    – หากรู้สึกว่าฟันสกปรก หลังรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังรับประทานของหวาน ควรแปรงฟันในทันที
    – ควรแปรงฟันให้ทั่วทั้งปาก ฟันบน ฟันล่าง ทุกด้าน และทุกซี่ 
    – แปรงฟันในแต่ละด้าน ควรแปรงไม่น้อยกว่า 4-5 ครั้ง และไม่ควรออกแรงมากเกินไป 
    – ใช้เวลาแปรงฟันประมาณ 2-3 นาที 
    – การแปรงฟันที่ผิดวิธีส่งผลเสีย เช่น การแปรงตามขวาง หรือขึ้นลงพร้อมกัน ทำให้เหงือกร่น และฟันสึกกร่อนมาก

    เพียงคุณใส่ใจรักษาความสะอาดของฟันเป็นประจำ ด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพฟันที่ดี แข็งแรง ไร้ปัญหาฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ ฯลฯ หรือหินปูนเกาะฟันจนเหลืองและปัญหากลิ่นปาก ให้คุณได้ยิ้มโชว์ฟันสวยสุขภาพดีได้อย่างมั่นใจ ในทุกๆ วันแล้วล่ะค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com