ใช้ไฟฟ้าให้เป็น..ลดเห็นๆบิลมา!!
advertisement
ปัจจุบันประเทศไทยต้องนำเข้าเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ คอเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปี วันนี้เราสามารถช่วยชาติได้ด้วยการประหยัดพลังงานและใช้ให้ถูกวิธี ลดการสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ต้องออกแรงมากมายเพียงแค่เอาชนะพฤติกรรมหรือความเคยชินเดิมๆเท่านั้นเอง การไฟ้านครหลวงมีเคล็ดลับง่ายๆ ในการใช้สามารถที่สามารถช่วยชาติประหยัดพลังงานและช่วยประหยัดเงินในกระเป๋ามาฝากกันค่ะ
1.ตู้เย็นชื่นใจ…ค่าไฟก็ลด
รู้หรือไม่ว่าคนเราเปิดตู้เย็นเฉลี่ยวันล่ะ 22 ครั้ง ใน 1 ปี จะเปิดตู้เย็นมากถึง 8,000 ครั้ง ดังนั้นต้องเลิกเปิดตู้เย็นบ่อยๆ และเปิดเมื่อจำเป็นต้องหยิบของเท่านั้น เพราะค่าไฟจะเพิ่มตามจำนวนครั้งของการเปิดตู้เย็น และต้องปิดตู้เย็นให้สนิททันทีที่เลิกใช้ นอกจากนี้ควรตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังด้านหลังและด้านข้างอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพื่อให้ตัวตู้เย็นมีการระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
ถ้าทำตามนี้จะช่วยประหยัดไฟได้มาก เช่น ตู้เย็นขนาด 5.3 คิว จะประหยัดไฟฟ้าได้ราวๆ 47 บาทต่อเดือน ถ้า 1 เครื่องจะประหยัดไฟได้ถึงปีละ 564 ล้านบาท
advertisement
2.ปุ่ม off เท่านั้นที่เราต้องการ
เพราะปุ่ม Stand by จะกินไฟในบ้านแบบไม่รู้ตัว เช่น ปิดโทรทัศน์โดยใช้รีโมทคอนโทรลแล้วไม่ถอดปลั๊ก จะสิ้นเปลืองค่าไฟประมาณ 13.50 บาทต่อเดือน ถ้าเสียบปลั๊กทิ้งไว้อย่างนี้ 1 ล้านเครื่อง จะสิ้นเปลืองค่าไฟประมาณ 162 ล้านบาทต่อปี
ดังนั้นเราต้องปิดจากสวิตซ์และถิดปลั๊กออกทุกครั้งด้วย
[ads]
3.ไม่รีดผ้าในห้องแอร์
รู้หรือไม่ว่าการรีดผ้าในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ แม้จะเญ้นกายสบายใจ แต่เครื่องปรับอากาศก็จะต้องทำงานหนัก ทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟ นอกจากนี้ไม่ควรพรมน้ำให้เปียกชุ่มจนเกินไป หรือเสียบและถอดปลั๊กเตารีดบ่อยๆ เพราะการทำให้เตารีดร้อนแต่ละครั้งกินไฟมาก เช่น เตารีดแบบอัตโนมัติขนาด 750 วัตต์ ใช้งาน 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะเสียค่าไฟประมาณ 75 บาทต่อเดือน
ดังนั้นควรรีดผ้าครั้งละมากๆ และถอดปลั๊กก่อนเสร็จสิ้นการรีด 2-3 นาที เนื่องจากยังมีความร้อนเหลือที่จะรีดผ้าได้อีก
4.รู้จักใช้คอมพิวเตอร์…ช่วยประหยัดไฟได้ตั้งเยอะ
ปกติแล้วถ้าเปิดชุดคอมพิวเตอร์จดภาพ 15 นิ้ว ทิ้งไว้วันละ 3 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟประมาณ 21 บาทต่อเดือน ถ้าเปิดทิ้งไว้เช่นนี้ 1 ล้านเครื่องจะสิ้นเปลืองค่าไฟ 252 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าเราเลือกใช้คอมพิวเตอร์ที่มีระบบประหยัดพลังงานโดยมองหาสัญลักษณ์ Energy Star จะใช้กำลังไฟลดลงร้อยละ 55 ในขณะที่รอทำงาน
และถ้าเป็นไปได้ อาจหันมาใช้โน๊ตบุ๊คแทนคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ เพราะประหยัดทั้งพื้นที่ และกินไฟน้อยกว่าถึง 4 เท่า
advertisement
5.ไม้ใหญ่ใจดี…ให้ความเย็นแบบไม่เสียสตางค์
ต้นไม้นอกจากจะช่วยกรองฝุ่น กรองเสียง และป้องกันความร้อนที่เกิดจากรังสีของดวงอาทิตย์แล้ว ยังช่วยให้สภาพแวดล้อมข้างเคียงมีอุณหภูมิลดลงจากกระบวนการสังเคราะห์แสงน้อย
ทั้งนี้การปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ 1 ต้น สามารถให้ความเย็นเท่าๆ กับเครื่องปรับอากาศขนาด 1 ตัน (12,000 บีทียู)
[ads]
6.ถอดปลั๊กกระติกน้ำร้อนก่อนดีกว่า (เมื่อน้ำเดือดแล้ว)
เลิกพฤติกรรมการเสียบปลั๊กแช่ไว้ตลอดทั้งวันเพราะกระติกน้ำร้อนขนาด 2.5 ลิตร 600 วัตต์ ถ้าเสียบปลั๊กทิ้งไว้วันละ 10 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟเพิ่มขึ้นเดือนละ 90 บาท ถ้า 1 ล้านเครื่องจะสิ้นเปลืองค่าไฟถึงปีละ 1,080 ล้านบาท
ดังนั้นถ้าต้องการน้ำร้อนเพียง 1-2 แก้ว ควรต้มน้ำแต่พอประมาณที่จะใช้ หากต้มน้ำเพียงครึ่งกระติกจะประหยัดกว่าการต้มน้ำเต็มกระติกเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์
7.เย็นกายสบายใจที่ 25 องศาเซลเซียส
ให้ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ระดับร่างกายรู้สึกสบาย แต่ไม่ควรต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส จะช่วยประหยัดไฟได้ประมาณ 6.3 เปอร์เซ็นต์ หรือ เดือนละ 60 บาท 1 ปี ก็ประหยัดได้ถึง 720 บาท และถ้าปิดแอร์ขนาด 1 ตัน (12,000 บีทียู) เร็วขึ้นวันละ 1 ชั่งโมง จะช่วยประหยัดค่าไฟได้ราวๆ 95 บาทต่อเดือน
ถ้า 1 ล้านเครื่องจะประหยัดไฟให้ประเทศได้ 1,140 ล้านบาทต่อปี
วิธีการประหยัดพลังงานที่กล่าวนี้ เป็นเพียงจุดเริ่ต้นที่ทำให้เรารู้ถึงคุณค่าของพลังงาน ดังนั้นถ้าเราร่วมมือร่วมใจกันนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันแล้ว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ประเทศต้องเสียไปได้อย่างมหาศาล ที่สำคัญยังมีส่วนช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือยได้อีกด้วย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอบคุณข้อมูลจาก แผ่นพับการไฟฟ้านครหลวง