รับมือ “โรคมือ เท้า และปาก” ภัยร้ายที่มาพร้อมหน้าฝน
advertisement
เข้าหน้าฝนอย่างนี้ โรคที่มากับหน้าฝนคงหนีไม่พ้นโรคประจำฤดูกาล เช่น ไข้หวัด น้ำกัดเท้า ที่มากวนใจ ยิ่งกับเด็กๆด้วยแล้ว ยังมีอีกโรคหนึ่งที่มักพบและระบาดในช่วงฤดูฝน นั่นคือ “โรคมือ เท้า และปาก”
“โรคมือ เท้า และปาก” หรือ Hand, Foot, and Mouth Disease เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส ซึ่งมักพบบ่อยในกลุ่ม เด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และมักมีอาการรุนแรงมากกว่าเด็กโต ส่วนในผู้ใหญ่สามารถพบโรคนี้ได้บ้างแต่ไม่มากนัก
[ads]
อาการของโรคเบื้องต้น คือ เริ่มมีอาการไข้อาจเกิน 39 องศาเซลเซียส 2 วันแล้วจะมีไข้ต่ำๆ ประมาณ 37.5 – 38.5 องศาเซลเซียส อีก 3-5 วัน นอกจากนี้ก็จะเริ่มมีอาการเจ็บปาก กินอะไรไม่ค่อยได้ น้ำลายไหล เพราะมีแผลในปากคล้ายๆกับอาการแผลร้อนใน และมีผื่นเป็นจุดแดง หรือเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และอาจมีตามลำตัว แขน ขาได้เช่นเดียวกัน มักมีอาการอยู่ 2-3 วัน และจะค่อยๆดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ แต่ในกรณีที่มีอาการหนักมาก มักมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ก้านสมองอักเสบ ส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
advertisement
การติดต่อของโรคมือเท้าปาก
1. สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหรั่งจากผู้ป่วย เช่นน้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระของผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ
2. สามารถติดต่อได้จากการหายใจเอาเชื้อที่แพร่กระจายจากละอองฝอยของการไอ จาม ของผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ ( droplet spread)
[yengo]
การรักษาโรคมือเท้าปาก ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่ป่วยด้วยโรคมือเท้าปากหากอาการไม่รุนแรงก็จะค่อยๆหายได้โดยไม่ต้องใช้ยา ดังนั้นการรักษาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การบรรเทาอาการตามที่มี เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคจากเชื้อไวรัส ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาจำเพาะที่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายได้ดีกว่าการรักษาประคับประคอง
ทางที่ดีผู้ปกครองที่มีเด็กเล็กในความดูแล ควรหมั่นสังเกตุสัญญาณอันตรายที่สามารถสังเกตุได้อย่างชัดเจน ได้แก่ ซึม อ่อนแรง ชักกระตุก มือสั่น เดินเซ หอบ อาเจียน ซึ่งหากพบอาการเหล่านี้จะต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com, ไข่เจียว.com