10 วิธีจอดรถอย่างไร? ให้ปลอดภัยจากโจร!!

     รถยนต์ พาหนะคู่ใจไปไหนไปกัน ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งรถคันนึงก็มีราคาแพง บางคันอาจแพงหลักล้านเลยทีเดียว กว่าจะได้มาก็ต้องเก็บเงินกันนานมากเลยทีเดียว หรือบางคนไม่มีเงินสดก็ต้องผ่อนเป็นหนี้กันนานนับปี ดังนั้นรถจึงนับว่าเป็นของมีค่าและก็เป็นไปได้ที่จะเป็นที่หมายปองของโจรขโมย ไม่ว่าจะขโมยไปทั้งคัน ขโมยชิ้นส่วน ทุบกระจกเพื่อขโมยทรัพย์สินในรถ ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น วันนี้ Kaijeaw.com จึงมีวิธีจอดรถอย่างไรให้ปลอดภัยจากโจร!! มาฝากกันค่ะ

     1. อย่าทิ้งของมีค่าไว้ในรถ ของมีค่านับว่าเป็นของล่อตาล่อใจของขโมยทั้งหลาย หากพวกมันต้องการก็จะทุบกระจกรถหรือขโมยรถ เพื่อไม่ให้รถของคุณเป็นเป้าสนใจของโจร จึงไม่ควรทิ้งของมีค่า อย่างเงิน เอกสารสำคัญต่างๆ เช่น สมุดเล่มเขียว พ.ร.บ. เอกสารเกี่ยวกับการเงิน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ในรถ เช่น แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ และหากคุณคิดว่าจะซ่อนด้วยการใช้เสื้อคลุมวางทับสิ่งของต่างๆ บนที่นั่ง แล้วมีสายระโยงระยางออกมา ก็ถือเป็นการบ่งบอกถึงทรัพย์สินที่มีค่าที่อยู่ใต้เสื้อคลุมตัวนั้นด้วยเหมือนกันค่ะ
     2. จอดรถในที่ๆ โล่งมองเห็นได้ง่าย ควรเลือกจอดรถที่มีคนเข้าออก พลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา มีแสงสว่างเพียงพอ และพยายามจอดให้ห่างจากอะไรที่อาจเป็นที่ซ่อนของโจรได้ เช่น ต้นไม้ใหญ่ ซอยเปลี่ยว หากจอดรถในโรงจอดรถ พยายามจอดในที่ที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองเห็นได้ง่าย ไม่ควรจอดใกล้ทางออก เพราะหากถูกขโมยรถ โจรก็จะสามารถขับรถหนีไปได้โดยง่าย ที่สำคัญอย่าทิ้งบัตรจอดรถไว้ในรถ ควรพกติดตัวคุณไปด้วยเสมอ[ads]

     3. จอดรถในชั้นที่มีทางเข้าห้างฯ ตามสถิติการโจรกรรมรถยนต์พบว่า มิจฉาชีพมักเลือกก่อเหตุกับรถซึ่งจอดอยู่ในชั้นที่ไม่มีทางเข้าห้างสรรพสินค้า เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีผู้คนพลุกพล่าน สามารถหลบหนีไปได้โดยง่าย
     4. อุปกรณ์กันขโมย หาอุปกรณ์ตัวช่วยอย่างเช่น ที่ล็อกพวงมาลัยรถ ที่ล็อกเกียร์ หรือชุดสัญญาณกันขโมย มาใช้กับรถ จะดีมาก หรือแค่นำมาวางไว้เฉยๆ ทำเป็นหลอกโจรให้คิดว่ารถของคุณติดตั้งสิ่งเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจใน การขโมยรถเป็นไปได้ยากกว่ารถคันที่มีไม่ระบบรักษาความปลอดภัยอะไรเลย 
     5. ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ตรวจตราให้แน่ใจว่า ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 1 จะรวมกรณีที่รถของคุณได้รับความเสียหายหรือถูกขโมย หากรถของคุณถูกขโมย คุณจะต้องแจ้งความก่อน และเมื่อบริษัทประกันตรวจสอบแล้วว่ารถของคุณหายจริงๆ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณสามเดือนถึงครึ่งปี กว่าจะได้รับเงินเป็นจำนวนเท่าทุนประกันของรถคุณ 

     6. ล็อคประตู 2 ครั้งเสมอ ล็อครถให้เรียบร้อย ก่อนเดินออกไปจากรถ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทำการล็อกประตูเรียบร้อยแล้ว ด้วยการดึงที่เปิดประตูอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าประตูล็อคแล้วจริงๆ หากเป็นที่จับประตูที่มีสวิตช์สัมผัสระบบ Keyless Entry ก็ให้ใช้วิธีส่องดูตัวล็อคภายในรถ ว่าถูกล็อคเรียบร้อยเป็นอย่างดีแล้ว
     7. ทำสัญลักษณ์ที่รถ แสดงความเป็นเจ้าของรถ ด้วยการทำสัญลักษณ์รถไว้ตรงไหนก็ได้ ถ้าเกิดรถหายจะได้รู้ว่านี่คือรถของคุณ รวมทั้งการจดหมายเลขเครื่อง และถ่ายภาพชิ้นส่วนรถไว้เก็บไว้ เผื่อโชคดีจะมีคนสังเกตสัญญลักษณ์แล้วแจ้งเบาะแสให้ตามรถของคุณเจอก็เป็นได้[ads]

     8. ติด GPS Tracking แบบพกพา  นำไปซ่อนตรงส่วนไหนของรถก็ได้ มีแจ้งเตือนทางมือถือเมื่อรถเคลื่อนที่เอง เตือนเมื่อรถขับเร็วเกินกำหนด ฯลฯ เมื่อรถโดนขโมย สามารถตรวจเช็ครถได้ว่าอยู่ที่ไหน โดยแสดงผลกับแผนที่ของ Google Map สามารถติดตามข้อมูลรถได้แบบทันทีเลยค่ะ
     9. จอดรถอยู่ในที่ที่มีกล้อง แม้จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ก็อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง ก็อาจจะรู้เมื่อสายไปแล้วและอาจจดจำรายละเอียดได้ไม่ดีพอ ดังนั้นควรรู้ก่อนว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ตรงไหนบ้าง ให้กล้องวงจรปิดคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ อาจช่วยลดความเสี่ยงของการถูกขโมยรถ และข้อมูลทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ในอนาคต
     10. ถอดอะไหล่รถที่สำคัญ เช่น ถอดแบต ถอดฟิวส์แล้วพกติดตัวไปด้วย รับรองว่าจะขับรถออกไปไม่ได้แน่นอน คงต้องเอารถยกไป หรือไม่ก็ต้องพกแบตมาด้วย เเต่ก็ไม่ยากสำหรับหัวขโมยถ้ามันคิดจะเอา

     จะเห็นได้ว่าการใส่ใจในการจอดรถ สถานที่จอดรถ การใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ รวมถึงข้อควรปฏิบัติต่างๆ นั้นอาจจะไม่สามารถป้องกันรถหายได้อย่าง 100% เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แต่อย่างไรก็ตามแต่การป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าการแก้ไขปัญหาทีหลังเมื่อรถหายเป็นไหนๆ นะคะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com